วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

"ณัฐวุฒิ" วิ่งคว้าแชมป์ชิบะ อควาไลน์มาราธอนที่ญี่ปุ่น

สัญชัย นามเขต ปอดเหล็กทีมชาติไทย ออกนำตีคู่แชมป์เก่า เคนยา แต่รถนำผิดทางทำพลาดแชมป์ฮาล์ฟ ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน ครั้งที่ 4 แต่แชมป์ยังอยู่ในมือคนไทยหลัง ณัฐวุฒิ อินนุ่ม สับเท้าหนีคู่แข่งเจ้าถิ่นเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์มาครอง ด้านสัญชัยเผย ไม่เสียดายอันดับ แต่เสียดายเวลา ตั้งใจจะมาพังสถิติฮาล์ฟมาราธอนประเทศไทยของรุ่นพี่ บุญถึง ศรีสังข์ กลับไปฟิตต่อลุยกรุงเทพมาราธอน ชมเส้นทางสวยและโหดที่สุดเท่าที่แข่งขัน หากมีโอกาสอยากจะกลับมาแข่งอีกครั้ง

    การแข่งขันวิงมาราธอน รายการ ''ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน 2018'' ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 61 ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอนครั้งที่ 4 ของเมืองชิบะ จะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยในการแข่งขันครั้งนี้ ทางจังหวัดชิบะที่เคยเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางด้านกีฬากับการกีฬาแห่งประเทศไทยก่อนหน้านี้ อยากให้นักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ จึงได้เชิญนักกีฬาไทยเข้าร่วมชิงชัยผ่านทางการกีฬาแห่งประเทศไทย และไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 5 คน ประกอบด้วย สัญชัย นามเขต, ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม, ณัฐวุฒิ อินนุ่ม, ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ และ ลินดา จันทะชิด ซึ่งเส้นทางแข่งขันที่เป็นไฮไลต์นั้นคือการวิ่งข้ามสะพานอควาไลน์ข้ามอ่าวโตเกียว ที่มีความสูงจากกระดับน้ำทะเลเกือบ 100 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 1 กม. ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นักวิ่งจากเคนยา แชมป์เก่าฮาล์ฟมาราธอน ได้เข้าร่วมชิงชัยด้วย พร้อมกับนักวิ่งที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศของญี่ปุ่นเกือบ 20,000 คน 

"ณัฐวุฒิ" วิ่งคว้าแชมป์ชิบะ อควาไลน์มาราธอนที่ญี่ปุ่น


    โดยการแข่งขันจะปล่อยตัวพร้อมกันทั้งฮาล์ฟมาราธอน และมาราธอน และสัญชัยที่ตั้งเป้าจะมาวิ่งเพื่อทำลายสถิติประเทศไทยของรุ่นพี่ บุญถึง ศรีสังข์ ก็ออกตัววิ่งไปกับแชมป์เก่าเคนยา โดยมี รุ่นน้อง ณัฐวุฒิ อินนุ่ม วิ่งไล่หลังตามมาด้วย และเมื่อผ่านไปครึ่งทางของฮาล์ฟมาราธอน ที่ขึ้นไปกลับตัวบนสะพานอควาไลน์ สัญชัย, เคนยา และ ไต้หวัน ทำเวลาทิ้งห่างกลุ่มหลังเกือบ 3 นาที แต่แล้วเกิดความผิดพลาดเมื่อรถนำได้นำ 2 นักวิ่งไทย และเคนยาไปยังเส้นทางของมาราธอน ส่งผลให้เสียเวลาไปหลายนาที และจังหวะที่สัญชัยวิ่งไปผิดเส้นทาง ณัฐวุฒิที่ลงสะพานตามหลังมากับเจ้าถิ่นญี่ปุ่น ก็สับเท้าเร่ง 5 กม. สุดท้ายวิ่งเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ฮาล์ฟระยะทาง 21.5 กม. มาครองด้วยเวลา 1.09.50 ชม. ในขณะที่สัญชัยนั้นแม้จะหลงทางแต่ก็สามารถวนกลับเข้าสู่ทางของตัวเองและเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 4 ด้วยเวลา 1.11.07  ชม. ส่วนที่ 2 ตกเป็นของ ทามามูระ ยามาซากิ 1.10.18 ชม. ที่ 3 ริกะ ฮาทากามิ 1.10.59 ชม. 

    ส่วนปอดเหล็กสาวไทยที่ทำอันดับดีที่สุดคือ ลินดา เข้ามาเป็นอันดับ 4 ทำเวลาได้ 1.26.39 ชม. และณัฐธยาน์เข้ามาเป็นอับดับ 5 ด้วยเวลา 1.26.39 ชม. ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ชิกิอิ มาริคาว่า 1.19.32 ม. 2. คายูโกะ มาสุโมโตะ 1.20.49 ชม. 3 ยูริ โอซากาว่า 1.24.15 ชม. 

"ณัฐวุฒิ" วิ่งคว้าแชมป์ชิบะ อควาไลน์มาราธอนที่ญี่ปุ่น
    สัญชัยเปิดเผยหลังการแข่งขันว่า เสียดายเพราะตั้งใจจะมาทำลายสถิติประเทศไทยฮาล์ฟมาราธอนของรุ่นพี่ที่ทำไว้ และหากไม่หลงทางมั่นใจว่าจะวิ่งได้ดีกว่านี้และสามารถทำลายสถิติประเทศไทย เพราะจังหวะที่หลงช่วง 500 เมตร เวลามาดีมาก แต่พอรู้ว่าไปผิดทางก็รีบกลับตัวมาวิ่งในเส้นทางของตัวเอง สถิติที่ออกมาไม่น่าพอใจเท่าไหร่ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ รู้สึกเสียดาย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงร่างกายฟิตมาก จึงอยากจะทำลายสถิติประเทศไทยจากการแข่งขันรายการนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้มาแข่งที่ญี่ปุ่น

    ''ผมไม่เสียดายอันดับ แต่เสียดายเวลาที่ตั้งเป้าว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็กลับไปซ้อมและเตรียมแข่งกรุงเทพมาราธอนด้วยเป้าหมายเดิมคือ ทำลายสถิติฮาล์ฟมาราธอนประเทศไทย ส่วนเส้นทางแข่งขันรายการนี้สวยมากครับ โดยเฉพาะบนสะพาน ซึ่งถือเป็นเส้นทางวิ่งที่โหดมาก เพราะไม่ใช่แค่สูงเพียงอย่างเดียว แต่ลมแรงมาก เพราะวิ่งแทบจะปลิว แต่สนุกและท้าทาย หากมีโอกาสอีก 2 ปีข้างหน้าผมก็อยากจะมาแข่งรายการ ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน อีกครั้งครับ'' สัญชัย กล่าว

"ณัฐวุฒิ" วิ่งคว้าแชมป์ชิบะ อควาไลน์มาราธอนที่ญี่ปุ่น
    ด้าน ณัฐวุฒิ อินนุ่น ที่คว้าแชมป์รายการนี้มาครองเปิดเผยว่า ดีใจที่แชมป์เป็นของคนไทย ตนนั้นวิ่งตามหลังรุ่นพี่สัญชัยมา แต่พอถึงช่วง 500 เมตรสุดท้ายก็งงว่าพี่หายไปไหน เพราะมองไม่เห็นหลังแล้ว ปรากฏว่ามารู้อีกทีรถนำทางพาไปผิดทางจึงสับเท้าเร่งสปีดสุดกำลังเพื่อหนีนักวิ่งจากญี่ปุ่น ที่ไล่มา และเข้าเส้นชัยตว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ดีใจ เป็นการวิ่งที่อากาศดีมาก ทางสวย กองเชียร์เยอะทั้งสองข้างทาง และเป็นงานวิ่งที่มีนักแข่งเยอะมาก ถือเป็นอีกประสบการณ์ที่น่าจดจำ     

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport

ที่มา : http://www.siamsport.co.th/other/other/view/96230

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น