วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แชมป์ เขาใหญ่ 100 โล ด้วยเวลา 08:27 ชั่วโมง / ธนัท วิจิตรสุนทร (ซอ)

 วิ่งแถวบ้าน : runfronthome

11 ชม.  · 

ที่มา: https://fb.watch/2HxjOkYHHm/



คลิปวีดีโอบทสัมภาษณ์ https://fb.watch/2Hxorv6Fey/

หนุ่มวัย 33 คนนี้ ลาออกจากงาน เพื่อออกมาวิ่งจริงจัง

เลี้ยงชีพด้วยเงินเก็บเพียงอย่างเดียว สู่แชมป์ เขาใหญ่ 100 โล

ด้วยเวลา 08:27 ชั่วโมง / ธนัท วิจิตรสุนทร (ซอ)

----------------------------------------------------------

คลิปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเขา

เขาซ้อมอย่างไร เขาวิ่งอย่างไร

และเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

ติดตามคลิปนี้ให้จบนะครับ

-------------------------------------------------------

ขอบคุณ 

ZAMST Thailand ที่สนับสนุนงานของเพจเรา

คิดถึงอุปกรณ์ซัพพอร์ตคุณภาพดีจากญี่ปุ่น ให้นึกถึง Zamst

ติดตามสินค้าของ Zamst ได้ที่ 👇👇

https://www.facebook.com/ZAMSTThailand

-----------------------------------------------------

ติดตามคลิปต่างๆ ของเพจวิ่งแถวบ้านย้อนหลังได้ที่

https://www.youtube.com/channel/UCM6mdftQIyMn9k32waRdj2A

#ไม่ใช่นักวิ่งแถวหน้าพวกเราแค่วิ่งแถวบ้าน

#วิ่งแถวบ้าน

#Khaoyai100K

#ZamstThailand

#Zixpax

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วอร์มอัพก่อนวิ่งใน 5 นาที

 MICE & Communication ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 7 ภาพลงในอัลบั้ม: รอบรู้เรื่องวิ่ง

18 เมษายน 2019  · 

"วอร์มอัพก่อนวิ่งใน 5 นาที"

ที่มา: https://www.facebook.com/miceandcom/photos/a.2616573691689669/2616576358356069/




หลังจากเอาชนะภาวะเตียงดูดและลากตัวเองออกมาวิ่งสำเร็จแล้ว ก่อนเริ่มวิ่ง หลายๆ คนอาจมองข้ามหรือไม่ค่อยทำการวอร์มอัพก่อนวิ่ง บางคนอาจทำแค่ขยับแข้งขานิดหน่อย หรือเดินช้าๆ เป็นการวอร์มอัพแทน ที่จริงแล้วไม่ดีนะคะ เพราะเดี๋ยวกล้ามเนื้ออาจอักเสบหรือบาดเจ็บได้นะ

.

เพื่อนๆ คงสงสัยว่าจริงๆ แล้วเราควรวอร์มอัพกี่นาทีดี... ที่จริงแล้วการวอร์มอัพเพียง 10 นาทีอาจได้ผลที่ดีได้เช่นเดียวกับการวอร์มอัพนาน 20 นาทีหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเวลาและท่าการวอร์มที่มีประสิทธิภาพ เพราะจากผลการศึกษาทดสอบความอดทนของนักวิ่งจากวารสารการวิจัย Journal of Strength and Conditioning Research เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าหากวิเคราะห์จากความเร็ว อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณออกซิเจน และอัตราการรับรู้การออกแรงแล้ว แทบไม่พบความต่างระหว่างการวอร์มอัพ 10 หรือ 20 นาที เลย

.

ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่าคุณสามารถลดเวลาการวอร์มอัพได้ถ้าจำเป็นจริงๆ ซึ่งการยืดเหยียดแบบไดนามิก 5 นาทียังคงให้สิ่งที่คุณต้องการเพื่อช่วย “ป้องกันการบาดเจ็บ” และนี่คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการวอร์มอัพ เพราะเมื่อเรามีอายุมากขึ้นความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อจะลดลง การวอร์มอัพนี่แหละที่จะช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อพร้อมสำหรับการวิ่งของคุณได้อย่างเหมาะสม

.

วันนี้เราเลยนำ “การวอร์มอัพแบบไดนามิกฉบับย่อ แค่ 5 นาที” ที่ช่วยอุ่นเครื่องร่างกายก่อนออกวิ่งได้ดีและยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออีกด้วยมาฝากกันค่ะ 

.

คลิกที่ภาพแล้วไปชมกันเลยย

.

ที่มา: runnersworld.com

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เทคนิคการวิ่ง ลดความเสี่ยงเจ็บ สำหรับคนน้ำหนักเยอะ

 Longyoung Run

28 กันยายน 2019  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/posts/679884669176971



เทคนิคการวิ่ง ลดความเสี่ยงเจ็บ สำหรับคนน้ำหนักเยอะ

--------------------------------------------

นักวิ่งเก่งๆจะมีฟอร์มท่าวิ่งที่ดี มองแล้วเท่จัง  ส่วนนักวิ่งใหม่ๆอย่างเราช่วงแรกๆ อาจหาฟอร์มตัวเองยังไม่เจอ  ปัญหาส่วนใหญ่หลักคือ มีการวิ่งที่ไม่ไม่ถูกลักษณะและมีวิธีการลงเท้าที่ผิดวิธี จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บ  ยิ่งน้ำหนักตัวที่เกินพอดีไปนิดนึงอย่างพวกเราด้วยแล้ว มีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป อาจจะทำให้ข้อต่อเรา แบกรับน้ำหนักเราเยอะเกินไป การลงน้ำหนักเท้าจึงต้องทำด้วยความระวังมากขึ้น

--------------------------------------------

เทคนิคที่จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ คือ

1️⃣ ลักษณะการวิ่งที่ถูกวิธี - การวิ่งที่ถูกวิธีคือการวิ่งโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย   ห้ามแกว่งไปซ้ายไปขวา

2️⃣  แขนงอไม่เกิน 90 องศา - ไม่เกร็ง แกว่งแขนไปด้านหน้าและหลัง ขณะวิ่ง  มื่อแกว่งแขนถูกวิธีจะช่วยให้วิ่งได้ดี และบาลานซ์ร่างกายให้สามารถวิ่งได้ไม่เหนื่อย ส่งผลทำให้ร่างกายวิ่งได้สะดวก

3️⃣ ลักษณะลงเท้าที่ถูกวิธี - การลงเท้าสำหรับการวิ่งเพื่อลดการกระแทกที่จะเกิดขึ้นให้ลงปลายเท้าหรือกลางเท้า  ลงเท้าให้นิ่ม การลงเท้าที่ดีจะต้องผ่อนน้ำหนักให้ลงพื้นอย่างพอดี และไม่หนักหรือเบาเกินไป 

ลดระยะการก้าวเท้าให้สั้นขื้น  - ภาษาวิ่งเรียกว่า higher cadence  โดยเพิ่ม cadence (จำนวนก้าวต่อนาที) ในการวิ่งแทน 

การก้าวเท้าที่ยาวเกินไป (Over-striding) เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นดิน ส้นเท้าจะลงพื้นก่อน (heel strike) โดยขาจะกางออกตรง เข่าจะล็อคทําให้เกิดการเบรคและมีเเรงปะทะที่มาก ซึ่งสามารถทําให้เกิดการบาดเจ็บได้

จากภาพเห็นว่ายิ่งมุมของเข่ากางออกเท่าไหร่ จังหวะที่เท้าเราสัมผัสพื้นตำแหน่งของเท้านั้นอยู่ห่างจากลำตัวของเรา ภาษาอังกฤษเรียกว่า CG (Center of Gravity) หมายถึงว่าน้ำหนักตัวของเราจะลงตรงนั้น ยิ่งถ้าเท้าของเราสัมผัสพื้นห่างออกจากเส้นนี้มากเท่าไหร่ เเรงปะทะที่เกิดขื้นกับร่างกายก็จะยิ่งมากขื้นเท่านั้น !!! 

4️⃣  ให้ออกแรงด้วยกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง  - ให้ใช้แรงโน้มถ่วงโลก ไม่ให้ใช้กล้ามเนื้อน่อง หล้กการของการก้าวขาคือการยืดผลักขาไปข้างหลังเพื่อให้ตัวไปข้างหน้ามากกว่าการก้าวขายาวขึ้นไปข้างหน้า คือใช้กล้ามเนื้อก้นและ hamstring ให้มากขึ้นในการผลักดันนั่นเองค่ะ

การวิ่งที่ดี ต้องวิ่งมาจากก้นไงคะ เมื่อใช้กล้ามเนื้อด้านหลังมากแล้ว นี่คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราไม่ต้องแตะเบรคทุกครั้งที่ลงเท้าเหมือนกับการก้าวขายาว (overstride)ไปข้างหน้า ไม่ว่าจะลงพื้นด้วยปลายเท้า กลางเท้า หรือส้นก็ตาม การ overstride คือการแตะเบรคตัวดีเลย

-----------------------------------------------

💬   นี่เป็นเพียงหลักการเบื้องต้นสำหรับการวิ่งช่วงแรกๆ เพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างสนุกและต่อเนื่อง  ก้าวขาสั้น และไม่ยกสูง ทำให้ร่างกายเหนื่อยน้อยลง

แต่ท้ายสุด การวิ่งจะมีประสิทธิภาพคือต้องมีวินัยในการฝึกฝนและพักผ่อนให้เพียงพอ  ขอให้เพื่อนนักวิ่งมีก้าวการวิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองกันนะคะ

-----------------------------------------------

ที่มาข้อมูล :

- Daniels’ Running Formula by Jack Daniels

- Running Cadence: Why it Matters and How to Improve Yours https://is.gd/XAap9M

. .

กลุ่มพูดคุย "YoungRun"

https://www.facebook.com/groups/392343794827887/

ช่องทางสั่งซื้อสินค้า

https://www.digivshop.com/

อย่าลืมติดตาม กดติดดาวตั้งค่าเห็นก่อนนะคะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร #เผ่านักวิ่ง2 #longyoungrun

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

VO2max กับ ประสิทธิภาพในการวิ่ง

 Longyoung Run

28 มิถุนายน 2019  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/posts/622388771593228



VO2max  กับ ประสิทธิภาพในการวิ่ง

ว่าด้วยเรื่อง Running Economy (น่าจะแปลได้ว่า ประสิทธิภาพในการวิ่ง) กับ VO2max

อยากรู่ว่าฟิตแค่ไหน ต้องดูค่า VO2 Max  ค่า VO2 max ง่ายๆ คือ การบอกความฟิต ว่าคุณ ฟิตแค่ไหน มีหน่วย ออกซิเจนที่ใช้เป็น cc ต่อ นน. 1 กิโล ต่อ 1 นาที

การออกกำลังการแบบ Aerobic ผสานกับ Anarobic ที่สัดส่วนพอเหมาะ จะทำให้ ความฟิตเพิ่มเร็วมากขึ้น  ซึ่งนาฬิกา ออกกำลัง สามารวัดค่า VO2 Max ได้ จากใช้ Algolithm ของ HR และ ความเร็วในการวิ่งจาก GPS

แต่การวัดจากนาฬิกา มีความคลาดเคลื่อนได้พอสมควร จาก ปัจจัยที่มีผลต่อ HR เช่น อากาศ ร้อน อากาศ เย็น ไม่สบาย เครียด 

.

📌📌  VO2max นั่น ถ้าเปรียบ กับรถยนต์ คือ ขนาดเครื่องยนต์ ที่บอกว่ากระบอกสูบรถยนต์เราใหญ่แค่ไหน รถกี่ CC เพราะเป็นค่าที่บอกว่า เราใช้พลังงานได้สูงสุดแค่ไหน เครื่อง 1800cc ก็ควรจะ วิ่งได้เร็วกว่า รถ 1500cc ไม่ต่างกับค่า VO2max ยิ่งสูง ยิ่งดี ตรงนี้ชัดเจนเข้าใจง่าย

📌📌  Running Economy นั่น เปรียบในรถ คือ อัตราประหยัดน้ำมัน รถที่ออกแบบเครื่องยนต์ กลไกได้ดี ทำให้ ที่ความเร็วเท่ากันประหยัดน้ำมันกว่า รถคันอื่น

.

พอเป็น รถยนต์ เวลาแข่งความเร็ว รถขนาดใกล้กัน น้ำหนักใกล้กัน ถ้าไม่บังคับขนาดเครื่อง รถที่ cc สูง กว่า มาแข่งกับรถ ที่มี cc ต่ำกว่า เหยียบคันเร่งให้มิดทั้งคู่ ยังไง cc สูงก็ก็ชนะ 

จึงเป็นเรื่องปกติที่ คนที่มี VO2max สูงกว่า จะวิ่งได้เร็วได้ดี กว่า คนที่ VO2Max ต่ำ

.

🎯  แต่การวิ่ง ต่างออกไปมากที่จุดหนึ่งคือเรามี “อาการปวดล้า” ที่เพิ่มตามความเร็ว และ ระยะ มาเป็นตัวแปร 

ซึ่งตัววัดที่ชัดเจนคือ ปริมาณ ออกซิเจนที่ใช้ ณ. ความเร็วหนึ่งๆ หรือ Running economy นี่ละ ยิ่ง เราใช้ออกซิเจน ที่เพซใดๆ น้อย เราก็จะปวดล้า น้อยกว่า เหนื่อยน้อยกว่า คนอื่นๆ ถึงแม้เราจะมี VO2Max เท่ากับ หรือต่ำกว่า คนอื่นก็ตามที 

.

✅ การฝึก Running Economy ยังเกิดขึ้นได้จาก การฝึกระบบกล้ามเนื้อ ทั้ง Drill, เวท, Hill Splint , การทรงตัว , Tempo, การฝึกวิ่งจำลองเพซการแข่งขัน และ HIIT

คือ แทบจะทุกอย่าง ช่วยเพิ่ม Running Economy ได้  ซึ่ง Running Economy มันก็คือ “ผลรวมของการฝึก” จนเกิดความชำนาญ มันถึงได้  “ทำอะไรก็ดีขึ้น"

.

✅  ทิ้งท้าย

ในความเป็นจริง การฝึก High volume low intensity (Zone2) ให้ผลดีจริง  แต่ถ้าคุณฝึกแต่วิ่งช้า คุณจะวิ่งเร็วดี ได้อย่างไร ?? 

มันอาจจะต้องมีวันที่ฝึกวิ่งเร็วบ้าง หนักบ้าง เพื่อสร้างให้เกิดความชำนาญในการวิ่งเพซนั้นๆ (เกิด Running Economy ที่เพซนั้นๆ) ซึ่งเมื่อฝึกวิ่งเร็ว เราก็ลดระยะการฝึกลง จะได้ไม่บาดเจ็บ เราลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้ทั้ง “วิ่งช้า” และ “วิ่งสั้น”

ในตารางฝึกที่ใช้เพซคุม ที่เคยเห็นก็จะใช้การ ปรับ เพซ เข้าหาเพซเป้าหมาย ในช่วงท้ายๆ ของตารางฝึกเพื่อให้ร่างกาย เกิด Running Economy ในเพซใกล้เคียงเพซเป้าหมาย 

-----------------------------------------------

ที่มาข้อมูล : runningningclub

. .

กลุ่มพูดคุย "YoungRun"

https://www.facebook.com/groups/392343794827887/

ช่องทางสั่งซื้อสินค้า

https://www.digivshop.com/

อย่าลืมติดตาม กดติดดาวตั้งค่าเห็นก่อนนะคะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร #CalorieRun #เผ่านักวิ่ง #longyoungrun

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ลองวิ่งทดสอบ Smart watch Amazfit Neo

สวนพระราม 3 ใต้สะพานแขวนระยะทางรอบละ 840 เมตร วิ่งไป 13 รอบ หลังจากเดิน 1 รอบแล้ววอร์มอัพปกติ 

วิธีเซ็ตง่ายมาก

  • เปิด 4G ให้มือถือ
  • เปิดแอป Zepp ยอมรับให้แอปเชื่อมกับนาฬิกา Amazfit neo ผ่าน bluetooth
  • เลือกโหมด Running
  • กด Start แล้วก็ออกวิ่งได้เลย
ผลการทดสอบ

  • ตามรูปข้างล่าง
  • ในรูปรายละเอียด ค่า Pace และ Cadence ที่ตกลงมาต่ำกว่าปกติคือช่วงเวลาแวะดื่มน้ำทุกๆ 3K
ข้อสังเกตุ
  • Haert rate zone อยู่ที่ VO2Max นาน 53 นาที อันนี้ไปอ่านบทความอื่นมาพบว่านาฬิกาจะรวมใช้ Zone 3-5 มาเป็น VO2Max Zone ไม่ต้องตกใจ
  • เมื่อจับความรู้สึกตอนวิ่งปกติไม่ทดสอบกับผลการวิ่งวันนี้ พบว่าวันนี้เหนื่อยน้อยกว่าหายใจไม่แรง รับได้กับการต่อต้านของร่างกาย ซึ่งอาจเป็นเพราะข้อดีวันนี้อากาศเย็น แดดไม่แรง ข้อเสียกล้ามเนื้อไม่เฟรซ เนื่องจากวิ่งเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันหลังจากวันก่อนวิ่ง 18K และ 6K



วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563

#วิ่งเท้าเปล่า … เทรนด์นี้ดีจริงหรือ??

 Sahavate

20 กันยายน  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/sahavate/posts/3340669382688313

#วิ่งเท้าเปล่า … เทรนด์นี้ดีจริงหรือ??

ในปัจจุบันนี้ การวิ่งเท้าเปล่า (Barefoot running) หรือ การวิ่งโดยมีพื้นรองเท้าบาง (Minimal support) กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ #นักวิ่ง 

ในวันนี้แอดมินอยากจะมาเล่าให้แฟนเพจทุกท่านฟังว่า...การวิ่งเท้าเปล่าต่างจากการใส่รองเท้าวิ่งอย่างไร?

#ข้อ1 การวิ่งเท้าเปล่า จะมีแรงกดที่เข่าและสะโพกน้อยกว่า ทำให้นักวิ่งเท้าเปล่ามีโอกาสเกิดการบาดเจ็บที่เข่าและสะโพกน้อยกว่าตามไปด้วย

#ข้อ2 การวิ่งเท้าเปล่า เป็นการกระตุ้นการรับความรู้สึกภายในข้อต่อบริเวณข้อเท้าได้เป็นอย่างดี ทำให้นักวิ่งเท้าเปล่ามีโอกาสเกิดการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เช่น ข้อเท้าพลิก ได้ยากกว่า 

#ข้อ3 การวิ่งเท้าเปล่า ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อภายในอุ้งเท้า ทำให้นักวิ่งเท้าเปล่ามีโอกาสเกิดการบาดเจ็บในฝ่าเท้าหรือรองช้ำได้ยากกว่า

#ข้อ4 การวิ่งเท้าเปล่ามักจะมีแผลถลอก ตุ่มน้ำ และรอยช้ำบริเวณนิ้วเท้าและฝ่าเท้ามากกว่า เนื่องจากการวิ่งแบบนี้จะเกิดแรงกดและแรงเสียดสีภายในรองเท้าและกับพื้นผิวถนน 

#ข้อ5 การวิ่งเท้าเปล่ามักจะเกิดการบาดเจ็บบริเวณขาท่อนล่าง ได้แก่ น่องอักเสบ / เอ็นร้อยหวายอักเสบ / กล้ามเนื้อหน้าแข้งอักเสบ เนื่องจากการวิ่งแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อบริเวณข้อเท้าทำงานในลักษณะกระดกข้อเท้าขึ้นขณะลงน้ำหนัก และถีบปลายเท้าลง เพื่อเคลื่อนตัวไปด้านหน้ามากกว่า

#รู้แบบนี้แล้ว!!! แฟนเพจที่ชอบวิ่งเท้าเปล่า อย่าลืมฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน่องด้วยนะครับ 

แฟนเพจท่านใดสนใจ Workshop #วิ่งจบแบบไม่เจ็บ ช่วย comment บอกแอดมินหน่อยนะครับ

เรียบเรียงโดย Sahavate

ที่มา: วรรณพงษ์ อิ่มธนบัตร. การวิ่งเท้าเปล่าต่างจากการใส่รองเท้าอย่างไร?. [Internet]. 2020 [cited 2020 Apr 13]. Available from: http://www.pt.mahidol.ac.th/knowledge/?p=1547

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

7 step ขั้นตอนในการซ้อมวิ่งกับ เขาทราย

 Runner's journey

20 พฤศจิกายน 2019  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/runnerjourney/photos/a.1148179065315992/1745856072214952/


7 step ขั้นตอนในการซ้อมวิ่ง 

ส่วนหนึ่งจากการพูดคุยใน podcast runner's journey กับ เขาทราย 

ฟังเต็มๆ ที่ https://spoti.fi/377D89N และ https://bit.ly/374LYVo

ชมคลิป ที่ https://bit.ly/2NJpWQp

.

1 warm up อบอุ่นร่างกาย เตรียมความพร้อม

2 stretching stretching ยืดเหยียดร่างกาย คลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ 

3 drill + stride ฝึกท่า จัดท่าทางการวิ่ง ได้ทั้งกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ใช้วิ่ง ฝึกกล้ามเนื้อให้จำในท่าทางที่ถูกต้อง ชมคลิปการดริลได้ที่ https://bit.ly/2Qh7iRC

4 main set มื้อหลักของการซ้อม วันนั้นๆ จะซ้อมอะไร วิ่งยาว วิ่งสบายๆ เบาๆ วิ่งลงคอร์ท หรือ เล่นความเร็ว

5 cool down เดิน อย่าหยุดทันที ให้ร่างกายค่อยๆลดความร้อน

6 stretching ยืดเหยียดร่างกาย คลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ 

7 recovery หลังซ้อมอาจเติมอาหารโปรตีน ประคบเย็น กล้ามเนื้อให้ฟื้นตัวเร็ว ด้วยความเย็น จากน้ำแข็งเจล ประคบ

นี่คือ 7 ขั้นตอนสำหรับนักวิ่งทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าที่ควรยืดปฎิบัติ จะทำให้การซ้อมวิ่งในแต่ละมื้อ แต่ละครั้งได้ผลดี

ส่วนหนึ่งจากการพูดคุยใน podcast runner's journey กับ เขาทราย ฟังเต็มๆ 

ชมคลิปเต็มๆได้ ที่​ https://spoti.fi/377D89N และ https://bit.ly/374LYVo

และ https://bit.ly/2NJpWQp

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563

new gear++Mizuno inspire 15 & Amazfit Neo

 Mizuno inspire 15 & Amazfit Neo

ช่วงนี้ Mizuno Thailand จัดโปรลดราคาสิ้นปี เล็งรุ่น 16 รุ่นล่าสุด มันลด 30% เหลือ 2870 บาท แต่รุ่น 15 ลด 50% เลยจัดซ่ะ ตัวเก่ารุ่น 13 ใช้ซ้อมมา 1 ปีเต็ม และวิ่งแข่งอีก 3 ราย หมดอายุไขล่ะ


Casio Riseman ตัวเก่าจอเสื่อม เป็นจุดตรงกลางทำให้มองตัวเลขไม่ชัด มันคงหมดอายุล่ะ ใช้มา 6-7 ปีได้ เลยเปลี่ยนเป็นตัวใหม่เป็น Smart watch Amazfit Neo รูปทรงย้อนยุค, น้ำหนักเบา, ใช้งานง่ายเป็นปุ่มกด, หน้าจอติดตลอดเวลา ซื้อ Shoppe โปร 12.12 ลดเหลือ 855 บาทจาก 1220 บาท




วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

กินหลังวิ่งทันที ป้องกันกระดูกเปราะ!!!

 Learn and Run

15 มกราคม 2018  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/LearnandRun/photos/a.285068351673539/881613128685722/



เรื่องการกินอาหารก่อน หรือหลังวิ่งอย่างไรนั้น เป็นคำถามที่มีนักวิ่งมักจะสงสัย และแนะนำกันอย่างมาก เช่น คำแนะนำที่ว่าไม่ให้กินอะไรก่อนวิ่ง เพื่อฝึกให้ร่างกายใช้ไขมันให้ได้ดีขึ้น??? หรือการงดอาหารหลังวิ่ง เพื่อลดน้ำหนัก???... โดยบทความนี้ ผมขอไม่พูดถึงรายละเอียดของ 2 คำแนะนำข้างบนนะครับ เดี๋ยวจะยาวเกินไป

---------------------------------

เรารู้กันอยู่แล้วว่าการกินอาหารที่มีแป้ง และโปรตีนหลังวิ่งภายใน 90 นาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งในเวลาดังกล่าว กล้ามเนื้อจะสามารถดูดซึมสารอาหารได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า

แต่เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับการกินอาหารหลังวิ่งเสร็จ กับความแข็งแรงของกระดูกที่น่าสนใจมากๆออกมาครับ เลยขอเอามาเล่าให้ฟังหน่อย

---------------------------------

เป็นงานวิจัยของทีมนักวิจัยชาวอังกฤษ ที่ทำในนักวิ่งแนวหน้า โดยให้นักวิ่งทั้งหมดที่เข้าร่วมงานวิจัย วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าจนรู้สึกเหนื่อยมากๆ แล้วให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแป้ง และโปรตีน เปรียบเทียบกับเครื่องดื่มหลอก(เป็นน้ำเปล่าแต่งรสเฉยๆ)

พบว่านักวิ่งที่ดื่มเครื่องดื่มหลอกเฉยๆนั้น มีค่าของเลือดที่บ่งบอกว่ากระดูกมีการสลาย มากกว่ากลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแป้ง และโปรตีน... และยังมีค่าของการสร้างกระดูกน้อยกว่าอีกด้วย

นั่นก็แปลว่า กลุ่มที่ไม่ได้เสริมแป้ง และโปรตีนเข้าไปทันทีหลังวิ่งเสร็จ จะมีโอกาสที่การสร้างกระดูกจะไม่สมดุล และทำให้กระดูกมีโอกาสได้รับบาดเจ็บมากกว่ากลุ่มที่เสริมอาหารเข้าไปทันทีได้... อาการบาดเจ็บเหล่านั้นก็เช่น กระดูกหน้าแข้งร้าว(Stress Fracture) เป็นต้น

---------------------------------

โดยสัดส่วนที่ใช้ในการทดลอง และแนะนำกันก็คือ แป้ง 3 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน(3:1) หรือ 4:1 ก็ได้... แต่จริงๆแล้วการกินอาหารทั่วไปที่ไม่ใช่เครื่องดื่ม ก็ช่วยเรื่องนี้ได้เหมือนกันนะครับ แต่อาจจะต้องกินเร็วขึ้นนิดนึง เผื่อเวลาย่อยหน่อยครับ

สรุปว่า การกินอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีแป้ง และโปรตีนเป็นส่วนประกอบ หลังวิ่งเสร็จทันที มีโอกาสช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นที่กระดูกจากการวิ่งได้นะครับ... เข้าทางหลายๆท่านเลยใช่มั๊ยครับ

วิ่งสนุก ลุกนั่งสบายนะครับทุกท่าน

Run Hard and Be Nice to People

หมอแป๊ป Learn’n’Run

The Effect of Postexercise Carbohydrate and Protein Ingestion on Bone Metabolism

https://goo.gl/JdHpjH

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Dr. Anthony Fauci

วิ่งไหนดี : Wingnaidee

24 กรกฎาคม 

ที่มา: https://www.facebook.com/WingNaiDee/photos/a.623528221031015/3307480902635720/


Dr. Anthony Fauci วัย 79 ปี วิ่ง 5.6 กิโลเมตรทุกวัน

แม้ต้องทำงานหนักวันละ 19 ชั่วโมง

แอดไปเจอเรื่องของ Dr. Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของอเมริกา (NIAID) ปัจจุบันอายุ 79 ปี เขาได้พูดถึงเรื่องการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำแม้จะอยู่ในช่วงที่ต้องทำงานต่อสู้กับ COVID-19 วันละ 19 ชั่วโมงก็ตาม

Fauci บอกว่าทุกวันนี้เขาวิ่งเป็นประจำวันละ 3.5 ไมล์ หรือประมาณ 5.6 กิโลเมตร แต่ถ้าหากย้อนไปเมื่อเขาหนุ่มกว่านี้ล่ะก็ในสัปดาห์นึงเขาจะวิ่ง 5-6 วัน วันละ 7 ไมล์ (11 กิโลเมตร) เลยล่ะ นอกจากนี้ Fauci ยังเล่าต่ออีกว่าในอดีตเมื่อปี 1984 เขาเคยจบมาราธอนด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 37 นาทีอีกด้วย

Dr. Fauci บอกว่าสิ่งที่ทำให้เขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจเป็นเรื่องของความเครียดก็ได้ ส่วนตัวแล้วงานของเขาค่อนข้างหนักและเครียดเอามาก ๆ ดังนั้นการออกไปวิ่งช่วงพักกลางวัน ได้ชมนกชมไม้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ แล้ว

ถึงแม้ว่า Dr. Anthony Fauci จะมีอายุที่สูงมากแล้วร่างกายของแกก็ยังคงแข็งแรงและออกกำลังกายได้อย่างสบาย ๆ และเราจะเห็นว่า Dr. Anthony Fauci ได้เก็บสะสมความแข็งแกร่งมาตั้งแต่สมัยแกหนุ่ม ๆ แล้วนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นตอนนี้หากเรายังมีแรงกันอยู่ก็อย่าลืมดูแลร่างกายเผื่อตัวเองในอนาคตด้วยนะ


#วิ่งไหนดี

#WingNaiDee ดูน้อยลง

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563

10 ท่าพื้นฐาน ยืดเหยียดร่างกาย

 

เต่าดอยรันเนอร์
17 สิงหาคม 2019  · 

ทำได้ครบทุกท่าจะดีมาก หรือเลือกทำเฉพาะบางท่าตามสะดวก เช่น ท่าที่ 5 6 7 9 ควรทำทุกครั้งหลังซ้อมเสร็จ เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากการซ้อมวิ่ง

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความสำคัญของเอ็นร้อยหวาย และ Core Exercise

 

Teelakow - ทีละก้าว

29 มกราคม 2019  · 

ทีละก้าว Running Tips:

ตอน ๑

เอ็นร้อยหวาย คือหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราวิ่งได้ตามที่ร่างกายมนุษย์ออกแบบมา  ช่วยให้เราสปริงตัวไปข้างหน้าด้วยแรงส่งที่รับมาจากการลงและก้าวเท้า

หลายคนอาจจะนึกว่า เอ็นที่ดีคือต้องยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งก็ถูกต้องสำหรับเอ็นบางส่วน

แต่สำหรับเอ็นร้อยหวาย นักวิจัยพบว่า นักวิ่งหลายคน เมื่อวิ่งไปได้สักระยะหนึ่ง เอ็นร้อยหวายขยายตัวยาวขึ้น เพราะใช้งานมากจึงเกิดความร้อน อ่อนนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น ผลก็คือทำให้ประสิทธิภาพของกลไกร่างกายในการรับและส่งแรงสปริงเพื่อการพุ่งตัวไปข้างหน้าลดลง ทำให้ต้องออกแรงด้วยกล้ามเนื้อมากขึ้น ทำให้เหนื่อยมากขึ้น และความเร็วลดลง

เอ็นร้อยหวายเป็นเอ็นที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดในร่างกาย 

เป็นสิ่งที่บ่งบอกความแตกต่างทางชีววิทยาระหว่างสัตว์วิ่ง กับสัตว์ไม่วิ่ง

สัตว์ที่ธรรมชาติไม่ได้ออกแบบมาให้ “วิ่ง” (วิ่งเร็ว ไกล และวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ) เช่น หมู ช้าง ไก่ นั้นไม่มีเอ็นร้อยหวาย

ส่วนสัตว์ที่ “เกิดมาวิ่ง” เช่น ม้า กวาง เสือ และคน มีเอ็นร้อยหวาย

เอ็นร้อยหวายจะรับพลังงานที่เกิดขึ้นจากการที่เท้ากระทบพื้น และส่งแรงสปริงกลับมาให้เราพุ่งตัวออกไปข้างหน้า

ยิ่งสปริงส่งแรงได้ดี ยิ่งออกแรงเองน้อย เวลาที่เท้าสัมผัสพื้นก็สั้น (Ground contact time) และเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง (Running Economy)

แล้วจะฝึกอย่างไรให้เอ็นร้อยหวายแข็งแรง?

เราสามารถช่วยให้เอ็นร้อยหวายทำงานได้ดี และไม่เสียประสิทธิภาพ ด้วยการฝึกกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) รอบๆเอ็นร้อยหวายให้แข็งแรง เช่น กล้ามเนื้อน่อง ข้อเท้า ฝ่าเท้า 

ยิ่งกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ผลกระทบต่อความล้าของเอ็นร้อยหวายก็จะยิ่งลดลง

อาการบาดเจ็บและความล้าของเอ็นร้อยหวาย อาจมีสาเหตุจากการก้าวที่ยาวเกินไปด้วย (overstriding) คือเท้ากระทบพื้นก่อนลำตัวจะพุ่งไปถึง ซึ่งโดยมากจะทำให้เป็นการวิ่งลงส้น (heel strike) แต่อาจจะไม่เสมอไป 

วิธีแก้คือลดระยะการก้าวลง เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย และเพิ่มรอบขาให้สูงขึ้น จะช่วยให้ระยะการก้าวมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

สัปดาห์หน้า ทีละก้าว Running Tips ฟอร์ม ตอน๒ เราจะมาพูดกันถึงการรักษาฟอร์มการวิ่งให้สมบูรณ์ยืนระยะได้ทั้งเรซ เพื่อให้วิ่งได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ คงเพซไว้ได้ตามเป้า กล้ามเนื้อไม่ล้า ไม่มีอาการบาดเจ็บ แรงไม่ตก

ทีละก้าว Running Tips

ตอน ๒ บริหารกล้ามเนื้อแกนลำตัว Core Exercise

//

หลายคนคงเคยได้ยินถึงการบริหาร core body ซึ่งไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อหน้าท้อง (abs) แต่รวมถึงกล้ามเนื้อหลังทุกส่วนด้วย และถ้าจะให้ครอบคลุม ต้องบอกว่า core body นั้น นับกันตั้งแต่ไหล่ลงมาจนถึงสะโพกและก้นเอาเลย (บ้างนับรวมกล้ามเนื้อแฮมสตริงด้วย)

ความสำคัญของกล้ามเนื้อ core ก็คือมันเป็นกล้ามเนื้อที่พยุงกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับการวิ่ง

ถ้าcore body ไม่แข็งแรง กล้ามเนื้อหลักที่จะใช้วิ่ง เช่นก้น และขา ก็จะต้องออกแรงมากกว่าปรกติ และเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บ ในกรณีที่ฝึกซ้อมบ่อยและหนักมากเกินไป (too much too soon)

ในการวิ่งระยะไกล เมื่อถึงช่วงปลายเรซ เราจะเริ่มเหนื่อยและล้า กล้ามเนื้อแกนลำตัวที่ดีจะรักษาฟอร์มการวิ่งของเราไว้ ทำให้ยืนระยะและคงเพซที่ต้องการไว้ได้

การบริหารกล้ามเนื้อแกนลำตัวจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับนักวิ่งระยะกลางถึงระยะไกล เช่นเกินมินิมาราธอนขึ้นไป

กล้ามท้องหกหรือแปดชิ้นที่ชัดสวย ไม่ได้หมายความว่าเรามีกล้ามเนื้อ core ที่แข็งแรง ทนทาน ช่วยให้ “ยืนระยะ” ได้ดีเสมอไป

เป็นปรกติที่คนที่มีไขมันน้อยจะเห็นลายกล้ามเนื้อ(definition)ที่ชัดเจนกว่า

กล้ามท้องที่ “โทน” และ บางนั้น อาจจะไม่สามารถช่วยพยุ่งกล้ามเนื้อได้ดีมากเท่ากับกล้ามท้องที่แข็งแรงและได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยพยุงกล้ามเนื้อหลัง ลดการบาดเจ็บ และเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง

ถ้าไม่นับกล้ามเนื้อก้นและแฮมสตริง (หลังต้นขา) กล้ามเนื้อ core ส่วนที่สำคัญต่อการวิ่ง ก็คือกล้ามเนื้อท้องทุกชิ้น (บน กลาง ล่าง ข้าง) และ หลังทุกชิ้น (บน กลาง ล่าง) และส่วนที่ไม่สำคัญมากนักก็คือหน้าอก

และแน่นอนว่าการบริหาร core ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการวิ่ง ไม่ใช่การใช้น้ำหนักมากๆ และสร้างกล้ามเนื้อให้ใหญ่โต

แต่เป็นการใช้น้ำหนักเบาๆ หรือท่าบริหารแบบไม่ต้องใช้น้ำหนักอื่นใดนอกจากตัวเราบวกกับแรงโน้มถ่วง และฝึกโดยเน้นความทนทาน มากกว่าการรับหรือยกน้ำหนักได้มากๆ

///

ตัวอย่างท่าบริหาร core ที่มีประโยชน์ต่อการวิ่ง

๑. แพลงค์ (Plank)

ประโยชน์_ ท่านี้ตอบโจทย์ทุกอย่างดังที่ได้กล่าวมา ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และสร้างความทนทานให้กล้ามเนื้อท้อง ไหล่ และหลัง

ทิป_ นอกจากแพลงค์ปรกติแล้ว ควรทำside plank หรือแพลงค์ด้านข้างด้วย ทั้งสองข้าง เพื่อบริหารกล้ามเนื้อท้องด้านข้างเสริม


๒. ท่าสะพานก้น (Glute Bridges) หันหลังนอนราบบนพื้น ชันเข่า แล้วยกก้นขึ้น ยกค้าง ผสมกับ ยกขึ้นลงสลับ

ประโยชน์_ บริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและก้นส่วนบน ซึ่งนักวิ่งหลายคนวิ่งแล้วปวด/มีอาการบาดเจ็บบริเวณนี้

ทิป_เพิ่มความยากเข้าไปด้วยการยกขาขึ้นหนึ่งข้างแล้วดันก้นขึ้นด้วยขาข้างเดียว


๓. ท่าซุปเปอร์แมน _ หันหน้าลงนอนราบบนพื้น เหยียดแขนขาตรง ยกขาและแขนขึ้นค้าง ผสมกับยกขึ้นลงสลับ

ประโยชน์_ฝึกกล้ามเนื้อหลักทุกชิ้นและส่วนที่ต่อเนื่องไปกำกับแขนและขาโดยตรง

ทิป_เพิ่มความนานและจำนวนการยกขึ้นลงขึ้นเรื่อยๆ เสริมความทนทานให้กล้ามเนื้อ

//

แถมให้ ก่อนส่งท้าย

การบริหาร core ที่ไม่ควรทำ

_ท่าซิท อัพ

สาเหตุก็คือ นอกจากจะไม่ได้เสริมความแข็งแรงที่เป็นประโยชน์แล้ว การทำซิทอัพยังเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังและคอ

===

เติมท่าบริหารเหล่านี้เข้าไปในการฝึกระหว่างสัปดาห์ จะช่วยให้เราวิ่งได้ดีขึ้นแน่นอน

สัปดาห์หน้า ทีละก้าว Running Tips จะพูดถึงเรื่อง ฟอร์มการวิ่ง โปรดติดตามตอนต่อไปและคลิปตัวอย่างการบริหารเร็วๆนี้

==

#Teelakow

#ทีละก้าว

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563

คาเฟอีน crash อันตรายใกล้ตัวที่หลายคนยังไม่รู้

 เรื่องเล่าจากร่างกาย by หมอเอ้ว ชัชพล

12 มิถุนายน 2019  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/ChatchapolBook/posts/2816271715056822



ขอย้อนเหตุการณ์ไปในช่วงที่น้อง บิ๊ก ดีทูบี เสียชีวิต นะครับ 

สำหรับใครที่จำเรื่องราวไม่ได้ ขอย้อนเล่าเตือนความจำสักเล็กน้อยครับ

เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึก รถที่น้องบิ๊กนั่งไปตกลงไปในน้ำกลางดึก

หลังเหตุการณ์ก็มีการสัมภาษณ์หรือคุยถึงสาเหตุ

บางคนก็เชื่อว่าเป็นจากการอดนอนจึง หลับใน 

ดารานักร้องหลายคนก็ให้สัมภาษณ์ว่าด้วยลักษณะงาน

หลายครั้งต้องทำงานดึกๆ อดหลับอดนอนแล้วยังต้องรีบขับรถไปเตรียมสำหรับงานถัดไป

ในช่วงนั้น มีรุ่นพี่ของบิ๊กในวงการบันเทิง ให้สัมภาษณ์พูดถึงเหตุการณ์ว่า 

ปกติจะคอยแนะนำน้องๆว่าไม่ควรขับรถตอนง่วง ให้นั่งพัก ดื่มกาแฟไปก่อน 

พอหายง่วง ค่อยขับรถ 

ตอนนั้นผมจบหมอ ทำงานแล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไร 

และก็คิดว่าว่าเป็นคำแนะนำที่ฟังดูโอเค 

หลายครั้งผมเองก็ต้องขับรถหลังจากอดนอนมาเป็นวัน เหมือนกัน

และนั่นทำให้ผมรู้จักถึงภาวะที่เรียกว่า caffeine crash

caffeine crash คืออะไร และเกิดขึ้นได้ยังไง?

1. ภาวะนี้ จะเกิดขึ้น 3-4 ชม. (ต่างไปในแต่ละคน) หลังอดนอน ง่วงอ่อนเพลีย แล้วได้รับคาเฟอีนเข้าไปจำนวนมากๆ จากกาแฟ หรือเครื่องดื่มผสมคาเฟอีอื่นๆ

2. อาการคือ หมดแรง ง่วงนอน ลงอย่างรวดเร็ว ทันทีทันใด ง่วงจนลืมตาแทบจะไม่ไหว

3. กลไกมันเกิดขึ้นจาก ในภาวะตื่น สมองเราจะมีการสะสมของสารที่เรียกว่า อะดิโนซีน (adenosine) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมากถึงจุดหนึ่งเราจะรู้สึกง่วง 

4. เมื่อเรากินคาเฟอีนเข้าไป คาเฟอีนจะทำให้เราไม่ง่วง ด้วยการไปกัน ไม่ให้สาร adenosine ตัวนี้จับกับ ตัวจับในสมองเราได้ เหมือนเข้าไปแย่งที่นั่ง

5. ระหว่างที่คาเฟอีนกำลังทำงานอยู่นั้น สาร adenosine แม้ว่าจะไม่สามารถจับกับสมองได้ แต่ปริมาณก็ยังสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

6. หลายชั่วโมงผ่านไป เมื่อคาเฟอีน เริ่มหมดฤทธิ์และสลายไป สาร adenosine ที่เพิ่มขึ้นจนมีจำนวนมากก็ทะลักทลายแย่งกันไปจับกับตัวจับในสมองจนเต็ม ผลคือ ความรู้สึกง่วงอย่างท่วมท้นที่เกิดขึ้นฉับพลัน

7. ภาวะนี้คือ caffeine crash

8. ถ้าง่วงจริงๆ ก็คงต้องนอนครับ กาแฟอาจจะช่วยให้พอทำงานที่ไม่อันตรายได้ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่อันตรายถึงชีวิตต่อตัวเองหรือคนอื่น เช่น ขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักรกล ถ้าอดนอนจนง่วง ก็นอนเถอะครับ ตายหรือพิการไป ยังไงก็ไม่คุ้ม

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นักกีฬาหัวใจเต้นช้าขนาดไหนถึงอันตราย ?

 อัตราการเต้นหัวใจ แปรผันตามความหนักในการออกกำลัง ยิ่งออกกำลังกายหนัก หัวใจยิ่งเต้นเร็ว ยิ่งออกกำลังกายบ่อย หัวใจจะปรับตัว ให้อัตราการเต้นหัวใจลดลงขณะพัก หรือเรียกว่า Resting Heart rate ( RHR ) ค่าปกติของคนทั่วไป อยู่ที่ 60-80 ครั้งต่อนาที แต่ ค่าที่บอกหัวใจเต้นช้า คือ ต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที ซึ่งเราพบนักกีฬาหลายคน มี RHR ต่ำกว่า 60 บางคนลงไปถึง 50 หรือ 40 กว่าก็มี ยิ่งขณะนอนหลับ ยิ่งต่ำลงไปอีก



ทำไมหัวใจเต้นช้าลง ยิ่งฟิต ยิ่งเต้นช้า?


การออกกำลังเป็นประจำ ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดไปได้มากขึ้น ต่อการบีบตัว 1 ครั้ง รวมถึงการออกกำลังเป็นประจำ ทำให้ระบบ Parasympathetic ทำงานเด่นขึ้น ทำให้หัวใจเต้นช้าลง​ทั้งขณะออกกำลังกายที่ความหนักเท่าเดิม​และขณะพัก


นอกจากนี้การออกกำลังกายมาก และนานถึงระดับหนึ่ง จะเกิดการเปลี่ยนรูปร่างทางหัวใจ ( EICR = Exercise induce cardiac remodelling ) ทำให้ รูปร่างหัวใจเปลี่ยนไป เช่น โตมากขึ้น หรือหนาตัวมากขึ้น ทำให้สามารถสูบฉีดเลือดต่อ 1 การบีบได้ดีขึ้นไปอีก หัวใจก็ยิ่งเต้นช้าลงไปอีก


ช้าขนาดไหน ถึงผิดปกติและควรพบแพทย์?


อยากให้ยึดอาการร่วม มากกว่าอัตรการเต้น ถ้าช้า ต่ำกว่า 50 แต่ไม่มีอาการ อาจเป็นปกติ​ไม่ต้องตรวจอะไรเลย

เทียบกับที่ช้ากว่า 60 แต่มีอาการ


อาการหัวใจเต้นช้าเป็นยังไง?

อาการของหัวใจเต้นช้า ที่เป็นจากโรคซ่อน​ คือ เวียนหัว หน้ามืด วิ้งๆ หวิวๆ จะเป็นลม หรือเป็นลม

เร่งการออกกำลังแล้วชีพจรยังไม่สูงขึ้น ร่วมกับมีอาการดังกล่าวมากขึ้น


โดยทั่วไป ถ้ามีการเต้นของหัวใจ ต่ำกว่า 50 ควรพบแพทย์ เพื่อ ตรวจคลื่นหัวใจ ว่าไม่ได้มีโรคหัวใจเต้นช้าที่เป็นโรคซ่อนอยู่ หรือหัวใจไม่ได้มีขนาดที่โตขึ้น​หรือหนาตัว​ จากการออกกำลังที่มากเกินไป


นอกจากนี้ในกลุ่มหัวใจเต้นช้า สามารถ เดินสายพาน ดูการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายว่าเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นจนเป็นปกติไหม


ตอนนี้​ RHR ของคุณเท่าไหร่ครับ


หมอแอร์


Cr.ภาพ​ Sapa Mahachon เจ้าพ่อสวนผึ้ง​ Nagaya

ที่มา: https://www.avarinshop.com/how-slow-heart-athletes-are-dangerous/?fbclid=IwAR0bMsqgww21G7CyXl6Bs7rAkcAVsul8NTCVMgfP_gxqJ7OquPhDGISJNSs

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ภาพหนึ่งภาพ มีความหมายมากกว่าคำพูดล้านคำ

 Doctor Runner - วิ่งดิหมอ

13 กรกฎาคม 2019  · 

ที่มา: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=469350790542627&id=285739865570388


ภาพหนึ่งภาพ มีความหมายมากกว่าคำพูดล้านคำ #ภาพเอ๊กซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้าของต้นขา (MRI cross-section of leg)

#VDM044

.

แสดงให้เห็นชัดเจน ถึงความแตกต่างของผู้ที่ดูแลรักษาตนเองไว้ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

.

จากภาพจะเห็นได้ว่า ณ อายุ 40 คนเราจะมีมวลกล้ามเนื้อที่มาก โดยเฉพาะในนักกีฬา เปอร์เซ็นต์อาจไม่ต่างกันมากกับผู้ที่ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากยังไม่เข้าสู่วัยเสื่อมถอยที่เด่นชัด

.

แต่จาก MRI scan ของคนวัย 74 ปี (ภาพกลาง) แสดงให้เห็นชัดเจน ถึงความแตกต่างของผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายต่อเนื่อง จะมีมวลไขมันมาแทนที่กล้ามเนื้อเป็นจำนวนมาก การที่รูปร่างคนเราใหญ่เท่ากัน นั่นไม่ได้หมายความว่าสัดส่วนของ กล้ามเนื้อ กระดูก ไขมัน น้ำ ในร่างกายจะเท่ากันไปด้วย

.

👆 นั่นเป็นเหตุผลว่า >>> ทำไมคนแข็งแรง มีได้ทั้งรูปร่างอ้วนและผอม ... ในขณะเดียวกัน คนอ่อนแอ ก็มีได้ทั้งรูปร่างอ้วนและผอมเช่นกัน เพราะแท้จริง เราควรรู้ถึงมวลกล้ามเนื้อของบุคคลนั้นๆ มากกว่าการวัดด้วยสายตา จากการดูหุ่น หรือรูปร่าง 😄

.

โดยในภาพสุดท้าย คือ MRI ของคนวัย 74 ปี ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นตัวอย่างที่เด่นชัด ของการคงไว้ซึ่งมวลของกล้ามเนื้อที่ดี แม้วัยจะล่วงเลยไป 😊

.

หลายครั้งที่แอดรักษาคนไข้ แอดจะบอกกับคนไข้เสมอ

... "ร่างกายเราก็เหมือนต้นไม้ จะเอาแต่ใส่ปุ๋ยหรือของบำรุงจากการทานอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องการแรงกระตุ้นที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตด้วย มันถึงจะเจริญเติบโต งอกงาม"

.

คำว่า "Sedentary life" หมายความว่า "การใช้ชีวิตที่เคลื่อนไหวน้อย นั่งๆ นอนๆ" ... แบบที่มนุษย์เราในปัจจุบันมักทำกัน เป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยมากกว่าการติดเชื้อโรคเสียด้วยซ้ำ ... เป็นตัวการที่น่ากลัวมากๆ 

.

นำมาซึ่ง "ความอ่อนแอ" "ระบบเผาผลาญที่ด้อยลง" "ภาวะเสื่อมถอยของอวัยวะต่างๆ" ไม่เฉพาะกล้ามเนื้อเท่านั้น อวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด หัวใจ สมอง ก็เช่นกัน โดยเซลล์ที่เสื่อมถอย จะถูกแทนที่ด้วยไขมัน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงมหาศาล

.

หวังว่าบทความสั้นๆ นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อใครไม่มากก็น้อย แชร์ให้คนรอบข้างของเราได้รู้ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในทางกลับกันก็คือ โทษของการไม่ทำ นั่นเอง

.

ด้วยรัก

-วิ่งดิหมอ-

Cr. ภาพจาก Daily anatomy