วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

8 สาเหตุพบบ่อยของอาการเจ็บหน้าแข้ง

 May Clinic คลินิกนักวิ่งโดยหมอเมย์

17 กันยายน 2020  · 


8 สาเหตุพบบ่อยของอาการเจ็บหน้าแข้ง

เจ็บแข้ง เป็นจาก 2 ส่วน แข้งใน แข้งหน้า

แข้งใน tibilais posterior

แข้งหน้า tibialis anterior

เจ็บแข้งจากอะไรบ้าง

1. วิ่งเร็ว หรือลง interval ไม่จำกัดระยะนะคะ 200, 400 เมตรก็พังได้ 😅

ช้าของเขา อาจจะเร็วของเรานะคะ ระวังให้ดี

2. พื้นผิวที่รองรับแข็ง จะคอนกรีตหรือรองเท้าracing ช่วงตบเท้าลงแรงๆ กล้ามเนื้อต้องเกร็งรับแรงกระแทกเยอะ

3. ปรับท่าวิ่ง ไม่มีท่าไหนถูกผิดนะคะ แค่คิดและลองทำบางทีก็เจ็บได้ แต่ให้รอดูอาการไปก่อน กล้ามเนื้อสลับส่วนใช้งานก็ปวดได้บ้าง

4. เพิ่งระยะเร็วเกินไป แบบเพิ่มแล้ว เออไม่เจ็บแฮะ เพิ่มอีกอะไรแบบนี้ 

5. ยืดน้อย นวดน้อย ยืดแข้งมันก็ดีนะคะแต่บางทียืดไม่ถึง ก็ต้องนวดด้วยช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ด้วย

6. พักน้อย ซ้อมหนัก พักก็สำคัญในตารางซ้อม

7. โดดเชือก ถ้าชอบโดดเชือกต้องคอยสังเกตการเจ็บข้อเท้าและเอ็นร้อยหวายด้วยนะคะ

8. ดาวน์ฮิล แข้งจะช่วยเบรคไม่ให้เร่งเกินไป หรือเกร็งกล้ามเนื้อประคองเวลาลงเนินมาอย่างเร็ว

แก้ไขอาการที่นี่

https://www.facebook.com/Mayrunningclinic/videos/4454572547947283/

#เพิ่มความเร็วเพิ่มระยะมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณก่อนการปรับเปลี่ยน

ที่มา: https://www.facebook.com/Mayrunningclinic/posts/692479334702219

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ทำไหมไม่เห็นผลทั้งที่เทรนหนัก

 Be fit & Eat well

14 กันยายน 2020  · 


ถ้าเป้าหมายของเราคือต้องได้ประโยชน์สูงสุดจากการเทรนเราก็จะต้องจำไว้ และเข้าใจว่า

.

สมองของเราจะให้พลังงานเพื่อที่จะสร้างเนื้อเยื่อที่ใหญ่และแข็งแรงขึ้นหลังจากที่เรากินได้เพียงพอตามสารอาหารที่เราต้องการในแต่ละวัน (basic metabolic needs) และการออกกำลังกายที่ถึง

.

สมองเราจะไม่เสียสละพลังงานแม้แต่เล็กน้อยที่จะใช้ทำให้เรามีชีวิตรอดเพียงเพื่อที่เราจะยกน้ำหนักได้หนักขึ้น วิ่งได้เร็วขึ้น หรือหุ่นดีขึ้น 

.

ระบบการเผาผลาญพลังงานของเราจะสามารถผลิตพลังงานได้ในปริมาณหนึ่งต่อวัน ไม่ว่าเราจะกินอาหารเข้าไปมากมายแค่ไหน หรือพักผ่อนแค่ไหนก็ตาม ⁣⁣⁣⁣⁣⁣

.

ดังนั้นคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราออกกำลังกายแบบ

⁣⁣high-intensity training 4-5 รอบต่ออาทิตย์

.

นี่ยังไม่นับว่าเรารวมการออกกำลังกายหนักนั้นเข้ากับความเครียดในกิจกรรมอื่นในแต่ละวันของชีวิต

⁣⁣⁣.

เราก็จะลงท้ายด้วยการเป็นหนี้การพักผ่อน (Recovery Debt) ซึ่งการเป็นหนี้การพักผ่อนนี้จะเกิดขึ้นเวลาที่เราสร้างความเครียดให้กับเซลล์และเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อในร่างกายโดยที่ไม่ได้ให้พลังงานกับมันมากพอที่จะซ่อมแซมและฟื้นตัว  รวมถึงไม่ให้เวลาพักด้วย

⁣⁣⁣⁣⁣⁣.

ลองกลับมาคิดใหม่ว่าบางทีเราใช้เวลาเทรนอยู่ในยิมหรือในลู่วิ่งมากแต่ทำไมเราไม่เห็นผลลัพธ์ เหตุผลง่ายๆเลยคือ เราใช้พลังงานมากมายในการเทรนและจัดการกับความเครียดในแต่ละวันซะจนไม่มีพลังงานเหลือพอที่จะซ่อมแซมสร้างร่างกายของเราขึ้นมา

.

การฟื้นตัวของร่างกาย (ไม่ใช่เวลาที่เราเทรน) คือสิ่งที่จะนำไปสู่พัฒนาการทางความฟิตที่แท้จริง ดังนั้นถ้าเราไม่ได้กินเผื่อหรือกินเพียงพอที่จะเหลือมาซ่อมร่างกายได้ ผลลัพธ์ก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าเราจะเทรนมากหรือหนักแค่ไหนก็ตามค่ะ

⁣⁣

โค้ชเอิน xx

ที่มา: https://www.facebook.com/Befiteatwell/posts/3147563418689556

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ใกล้ปิด challenge คนอึด แล้วเริ่ม challenge แปลก 2


แปลก 2 คือใน 1 เดือนวิ่ง 5k ทุกวันให้เวลาลดลงวันละ 5 วินาที

ปกติ 5k วิ่งทำเวลาประมาณ 30 นาที ถ้าเริ่มที่จุดนี้ในวันที่ 1 ดังนั้นวันที่ 30 จะวิ่ง 5k ทำเวลาลดลงเหลือ  ...

กฎกติกา

  • ใน 1 เดือนวิ่งทุกวันติดต่อกันไม่มีพัก
  • วอร์มอัพ คูลดาวน์ ครบสูตร
  • ในแต่ละวันวิ่ง 5k ทำเวลาให้ลดลง 5 วินาที
  • ไม่กำหนด pace
  • ไม่กำหนด HR
  • ไม่กำหนดโซน

เป้าหมาย

  • สร้างความเร็วในการวิ่ง
  • สร้างความแกร่งของกล้ามเนื้อ

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เพิ่มเกราะป้องกันโรคง่าย ๆ แค่ออกมาวิ่ง

 Longyoung Run

27 กรกฎาคม 2020  · 

เพิ่มเกราะป้องกันโรคง่าย ๆ แค่ออกมาวิ่ง 💪✨

__________________________________


Running is Medicine ในยุคที่มีโรคระบาดถ้าเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง จะเกราะป้องกันโรคได้ในระดับหนึ่ง เพราะการวิ่งคือยาวิเศษ ที่สร้าง 10 ประโยชน์มหัศจรรย์ให้กับร่างกาย ได้แก่

1. หัวใจ การวิ่งและการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต,

2. กล้ามเนื้อ การวิ่งเป็นการฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อทำให้นักวิ่งมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น

3. เข่า การวิ่งที่ถูกวิธีอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มการหมุนเวียนน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ

4. ไขมัน การวิ่งทำให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วงโมดีเรต หรือชีพจรเต้นอยู่ที่ร้อยละ 75-85 นักวิ่งจะรู้สึกเหนื่อยในระดับปานกลาง ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันออกมาใช้ได้ถึงร้อยละ 60,

5. คอเลสเตอรอล การวิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) ได้ 5-10%,

6. สมอง ยิ่งวิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งหลั่งสารบำรุงสมองมากเท่านั้น,

7.เหงื่อ จะถูกหลั่งออกมาพร้อมสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน เป็นสารเคมีในร่างกายที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี,

8. น้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หากออกกำลังกายอย่างถูกวิธีจะช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น,

9. ระบบข้อ การวิ่งที่เหมาะสมต่อร่างกาย จะช่วยลดปัญหาข้อต่อเสื่อม ลดอาการปวดข้อและป้องกันการเกิดข้อแข็ง,

10. ความดัน การวิ่งช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้

🔸 ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงแตกต่างจากผู้ชายในเรื่องของฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงวันนั้นของเดือน มักทำให้เธอนอนไม่ได้ กระส่ายกระสับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลตามมาหลายเรื่อง ริ้วรอยหมองคล้ำ (!) ทว่าการสร้างสมดุลด้วยการออกวิ่งอย่างสม่ำเสมอ เช่น การวิ่งให้ร่างกายเหนื่อยและผ่อนคลายกล้ามเหนื่อย มีผลให้เธอหลับง่าย หลับดี ตื่นมาสดชื่น สดใส

🔸 ทำให้การขับถ่ายสะดวก เมื่อขับถ่ายสะดวกย่อมท้องไม่ผูก ไม่หงุดหงิด ไม่อึดอัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้ผิวสวยได้

ทั้งหมดนี้คือประโยชน์ของการวิ่ง และสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราสวยและสุขภาพดีกันแล้วใช่ไหมค่ะ ที่นี้ก็เหลือแค่การตัดสินใจของคุณสาวๆ นี้แหละค่ะ ว่าจะลุกขึ้นมาไปออกกำลังกายกันเมื่อไหร่ดี

__________________________________

ที่มาข้อมูล : https://www.allure.com/story/what-happens-skin-on-a-run?

.

กลุ่มพูดคุย "YoungRun"

https://www.facebook.com/groups/392343794827887/

ช่องทางสั่งซื้อสินค้า

https://www.digivshop.com/

อย่าลืมติดตาม กดติดดาวตั้งค่าเห็นก่อนนะคะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร #เผ่านักวิ่ง #longyoungrun

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/posts/914389572393145

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิ่งเหมือนซ้อมลงมาราธอนกับการบ้าน week 29 ระยะ 14k,15k, 16k, 17k, 18k, 19k

 


week นี้ได้ระยะสะสมเกือบ 100k เพราะวิ่ง challenge แบบขันบันได 14k, 15k, 16k, 17k, 18k, และ 19k โดยวิ่งวันละ 2 มื้อคือ วันอาทิตย์ นอกนั้นวิ่งรวดเดียว 

ตอนวิ่ง 18k คิดว่าจะไม่ได้ซ่ะล่ะเพราะเริ่ม 18:00 น. แต่ก็หวนคิดถึงครั้งเมื่อเริ่มวิ่งใหม่ๆ เคยวิ่งซ้อมคนเดียว 34k เส้นทางไปอบต. เมืองจัง ที่จ.น่าน ตอนนั้นเริ่มตี 4 มืดก็มืด เสบียงก็ไม่มี ไปด้วยใจล้วนๆ แต่ก็ยังผ่านมาได้ อุปสรรคข้างหน้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว

โชคดีตอนเขียนกฎของ challenge นี้ไม่ได้ระบุว่าต้องวิ่งรวดเดียว ก็เลยวางแผนว่าบางวัน วิ่ง 2 มื้อ ได้ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว แต่คงแหกกฎข้อ 5. ที่ระยะ 20k+ แน่ๆ ส่วนข้อ 1. วิ่งโซน 2 รวดๆ ก็มีบางมื้ออดใจไม่ไว้เล่นความเร็วกับ HR มัง อีกอย่างคือ แรกๆวิ่ง ก้าวเท้าช้ามาก หลังๆ เลยใช้ ฟังก์ชั่น Metronome ในแอป Zepp ของ Amarfit Neo ช่วยเคาะจังหวะให้


วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

นักวิ่งสถิติโลก เค้าวิ่งกันแค่ไหน?

 Jones Salad

23 กรกฎาคม 2020  · 


#ความเร็วของนักวิ่งระดับโลก

เคยสงสัยมั้ยว่าคนที่วิ่งเร็วๆ เค้าวิ่งเร็วกันแค่ไหน? 

ก็เร็วขนาดนี้ยังไงหละ 

- 100 m  เร็วสุด  9.58 วิ

- 10 km เร็วสุด  26.17 นาที

- Half marathon เร็วสุด 58.01 นาที

- Marathon เร็วสุด 1 ชั่วโมง  59 นาที

…….

เจ้าของสถิติเหล่านี้คือใคร?

1. ระยะวิ่ง 100 m

สถิตินี้เป็นของ ยูเซน โบลต์  ชาวจาไมกาครับ เค้าได้รับขนานนามว่าเป็นนักวิ่งที่วิ่งระยะสั้นเร็วที่สุดในโลก เพราะเค้าวิ่งความเร็วที่  45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วเท่าม้าควบเลยทีเดียว

ยูเซน โบลต์ ทำสถิตินี้ไว้เมื่อวันที่ 16 สิงหา  2009  ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ที่กรุงเบอร์ลิน แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้เค้าได้อำลาลู่วิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. ระยะวิ่ง 10 km 

สถิตินี้เป็นของ เคเนนิซ่า เบเกเล่ ชาวเอธิโอเปีย ทำไว้ในการแข่งขัน เมโมเรียล ฟัน ดาม  เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2005  ครับ 

เบเกเล่ นอกจากจะเป็นเจ้าของสถิติวิ่ง 10 km เร็วสุดแล้ว ในระยะ 5 km เค้าก็เป็นเจ้าของสถิติวิ่งเร็วสุดเช่นกัน 

โดยใช้เวลาวิ่งไปแค่ 12 .37 นาทีเท่านั้นเอง ว้าววว 

3. ระยะวิ่ง Half marathon  

สถิตินี้เป็นของ เจฟเฟรย์ แคมวอร์ฮอร์ นักวิ่งระยะไกลยาวเคนย่า   ทำไว้ในการแข่งขัน โคเปนเฮเกนฮาล์ฟมาราธอนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2019  ครับ

4. ระยะ Marathon 

 สถิตินี้เป็นของ เอลีอุด คิปโชเก้ ชาวเคนย่า วิ่งในโปรเจค INEOS 1:59 Challenge เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม  2019  การวิ่งครั้งนี้ทำให้เค้ากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ โดยวิ่งจบระยะมาราธอนด้วยเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงสำเร็จเป็นคนแรก 

เพราะก่อนหน้านี้นักวิทยาศาตร์มีความเชื่อว่า มนุษย์เราไม่สามารถวิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้ แต่คิปโชเก้ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ แถมยังวิ่งที่ความเร็วเพซเฉลี่ย 2.50 เท่านั้น โอ้ววววว นี่มันยอดมนุษย์ชัดๆ 

ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ทำลายสถิติโลกได้คือความมีวินัยล้วนๆเลยครับ

ดังนั้นใครอยากทำลายสถิติโลกก็พยายามฝึกเยอะๆครับ และถ้าถามว่าต้องฝึกยังไงถึงจะไปถึงจุดนั้น 

คำตอบก็คือไม่มีอะไรมากแค่ต้องฝึกวิ่งให้ได้เพซ 2 เข้าไว้  ไม่ยากใช่มั้ยละครับ ลุงเป็นกำลังใจให้ !!! 

อ้างอิงข้อมูลจาก Guinness World Records

ที่มา: https://www.facebook.com/JonesSaladThailand/posts/2686921294876682

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

challenge ขั้นบันได้ ส่งการบ้าน week 28 วิ่ง 9k, 10k, 11k, 12k, 13k

 


week ที่แล้ว วิ่ง 6k, 7k, 8k, 9k,10k มาคิดดูว่าน่าจะทำ mission แปลกแก้เบื่อช่วง covic-19 ระบาดหนัก (เพิ่งขึ้นหลัก 1 หมื่น 2 วันแล้ว) week นี้ก็เลยวิ่งสะสมระยะแบบขั้นบันไดต่อจาก week ที่แล้ว มีกฎคือ
  1. วิ่ง zone 2 เท่านั้น (ตั้ง Amazfit เตือน)
  2. ไม่ต้องวอร์มอัพคูลดาวน์ที่เคยทำประจำ
  3. วิ่งในหมู่บ้านเท่านั้น (วิ่งสวนฯเสี่ยงติด)
  4. หยุดพักกินน้ำ@8k+
  5. วิ่งติดต่อ 4 วัน แล้วหยุดพัก 1 วัน

มาลองดูซิว่าจะขึ้นไปถึงระยะไกลสุดเท่าไร ฮ่าฮ่าฮ่า

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ฟิตอย่างไรไม่ให้หัวใจล้มเหลว

 เหล่านักกีฬาและแฟนตัวยงของการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ คงเคยได้รับข่าวสารนักกีฬาเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว วูบเสียชีวิตคาสนามแข่งขันกีฬา หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปที่สามารถเกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้ได้ในขณะออกกำลังกาย ซึ่งทุกคนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ด้วยการตรวจเช็กหัวใจเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอและครบทุกรายการตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ



นพ.อนุสิทธิ์ ทัฬหสิริเวทย์ อายุรแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า สถิติของประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า อาการวูบคาสนามทำให้นักกีฬามีโอกาสเสียชีวิตถึง 1 ใน 50,000 คนต่อการแข่งขันกีฬาระดับวิทยาลัยและอาจจะสูงถึง 1 ใน 5,000 คนในการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล โดยในนักกีฬาที่อายุมากกว่า 35 ปีมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากถึง 5% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุและมักพบในนักกีฬาผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยสาเหตุที่ทำให้นักกีฬาเกิดอาการวูบกลางสนามมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น 1) กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว ซึ่งป็นโรคที่พบได้ในนักกีฬาอาชีพ เกิดจากการหนาตัวของกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างที่มีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย หรือเกิดได้จากความผิดปกติทางพันธุกรรม 30% และจะพบได้มากในนักกีฬาผิวดำ โดยหากตรวจเจอว่ามีพังผืดในชั้นกล้ามเนื้อหัวใจแล้วลงแข่งกีฬาหนัก ๆ อาจเกิดแรงกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิตแบบ Sudden Death ได้ เพราะเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นมา จะไปขัดขวางระบบการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจทำงานหนัก และถ้านักกีฬาไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา แล้วต้องลงแข่งกีฬาเป็นเวลานาน ๆ และออกแรงมาก ๆ จะส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายแบบฉับพลันจนวูบกลางสนามได้ 2) กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยคือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นอันตรายรุนแรง จึงทำให้เป็นข้อห้ามในการออกกำลังกาย เพราะอาจกระตุ้นให้หัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดจังหวะและหยุดเต้นได้ จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตขณะออกกำลังกายได้สูง 3) หัวใจเต้นผิดจังหวะขณะออกกำลังกาย เพราะการแข่งขันในแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน ทำให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่จนส่งผลให้ระบบไฟฟ้าหัวใจเสียสมดุลและเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะตามมา ในบางกรณีคือไม่เคยทราบมาก่อนว่าตนเองมีภาวะหัวใจผิดปกติ โดยเฉพาะในคนที่อายุน้อยกว่า 35 ปี ทำให้ละเลยการตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ รู้ตัวอีกทีอาจสายเกินไป



ในการออกกำลังกายจะมีการจัดโซนจากเบาที่สุดไปจนถึงหนักที่สุด โดยแต่ละโซนจะมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดต่อนาที (MPHR) ที่แตกต่างกัน การที่เรารู้ลิมิตของแต่ละโซนจะทำให้สามารถเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพหัวใจได้ Zone 1 50 – 60% MPHR (Very Light) คือการออกกำลังกายเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง จะไม่รู้สึกเหนื่อยมาก Zone 2 60 – 70% MPHR (Light) การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ช่วยดึงไขมันออกจากร่างกาย ดีต่อหัวใจและปอด Zone 3 70 – 80% MPHR (Moderate) ช่วยระบบเผาผลาญ เพิ่มความฟิต เหงื่อออกมาก เหมาะกับคนรักสุขภาพที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย Zone 4 80 – 90% MPHR (Hard) ช่วยเพิ่มความทนทานให้แก่กล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย เกิดการหายใจเร็ว กล้ามเนื้อตึงล้ามาก เหมาะกับนักกีฬาหรือคนทั่วไปที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ Zone 5 90 – 100% MPHR (Maximum) การเพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกาย ทำให้รู้สึกเหนื่อย หายใจเร็ว กล้ามเนื้อเกิดการตึงล้า เหมาะกับนักกีฬาที่ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวลงแข่งขัน


การตรวจเช็กความฟิตของนักกีฬาก่อนลงแข่งมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันอาการวูบคาสนามและหัวใจล้มเหลวขณะออกกำลังกายได้ โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น 1) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG – Electrocardiogram) เป็นการคัดกรองความผิดปกติของหัวใจ ด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อของหัวใจ ทำให้สามารถลดการเสียชีวิตในกลุ่มของนักกีฬาที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีได้ถึง 90% 2) การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน (Exercise Stress Test) จะทำให้ทราบระบบไหลเวียนเลือดและกราฟไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยคัดกรองโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันในระยะที่มากกว่า 70% ได้ 3) ตรวจหัวใจด้วย MRI (Magnetic Resonance Imaging) แสดงการบีบตัวของหัวใจได้ใกล้เคียงอวัยวะจริงมากที่สุด สามารถแสดงตำแหน่งทางเดินของเส้นเลือดหัวใจว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ ที่สำคัญคือ ใช้ในการตรวจค้นหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตรวจหาพังผืดในโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว เพื่อป้องกันหัวใจเต้นผิดจังหวะขณะออกกำลังกาย 4) ตรวจหาคราบหินปูนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Calcium Scan: CAC) เป็นการประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่มีสาเหตุจากหลอดเลือดหัวใจตีบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป


และในทุกการแข่งขันผู้จัดควรเตรียมอุปกรณ์การช่วยชีวิตให้พร้อม โดยเฉพาะเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED) อุปกรณ์ที่ช่วยช็อกไฟฟ้ากระตุกหัวใจเพื่อหยุดการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ ช่วยให้หัวใจกลับมาเต้นในจังหวะที่ถูกต้อง และควรมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถทำการช่วยชีวิตได้ทันทีหากมีเหตุฉุกเฉินขณะทำการแข่งขัน ซึ่งการช่วยเหลือจะต้องถูกวิธีและอยู่ระหว่าง 3 – 5 นาที เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ซึ่งก่อนช่วยเหลือควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมว่าปลอดภัยหรือมีความเสี่ยงหรือไม่ โทรสายด่วน 1669 หรือรถพยาบาลสนามที่มีเครื่อง AED เพื่อทำการช่วยเหลือ โดยเริ่มจากการเรียกผู้ป่วยฉุกเฉิน ถ้าไม่มีการตอบสนองให้ทำการฟื้นคืนชีพโดยกดหน้าอกทันทีจนกว่าเครื่อง AED หรือทีมรถพยาบาลจะมาถึง


สำหรับนักกีฬาอาชีพสิ่งสำคัญคือการตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอทุกปีเพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายพร้อมที่จะลงแข่ง โดยเฉพาะการตรวจเช็กสุขภาพหัวใจเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด ส่วนคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายควรตรวจเช็กสุขภาพทุกปี ที่สำคัญหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายจะได้พบแพทย์ได้ทันท่วงที สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ รพ.หัวใจกรุงเทพ โทร. 02-310-3000 โทร.1719 หรือ HEART CARE LINE Official : @hearthospital

ที่มา: https://www.prachachat.net/public-relations/news-716386

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิ่งเพซไหน ซ้อมให้ตรงจุด

 Running Insider

15 พฤษภาคม 2020  · 


เอ๊ะ ❗️ ทำไมความรู้สึก Easy Run วันนี้

ความรู้สึกเหมือน Tempo เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว

นี่เราหลงเพซไปหรือไม่

ความฟิตดรอปลงไปขนาดนั้นเลยหรือนี่

.

หากใครมีความคิดเหล่านี้เข้ามา

ผมขอพาเพื่อนๆ มาทบทวน “Training Pace” 

หรือเพซที่ใช้ซ้อมให้ตรงจุดกันนะครับ 

.

เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา 

มีสถานการณ์ต่างๆ มากมายที่ไม่เอื้อต่อการซ้อมวิ่ง

เมื่อไม่ได้วิ่งนานๆ หรือวิ่งน้อยลง

🔻 ระดับความเข้มข้นของการซ้อมลดลง 

🔻 ระยะทางสะสมต่อสัปดาห์ ก็อาจจะลดลง

🔻 หรือ ไม่ได้ Tempo ไม่ได้ Interval เลย

.

🔻 ความฟิต ความแข็งแรง ย่อมลดลงไปบ้าง

เพซที่ใช้วิ่ง ก็อาจจะไม่เหมือนเดิม หรือมีการขยับขึ้นลงเล็กน้อย

.

แต่ไม่เป็นไรครับ เพื่อนๆ ไม่ได้เจอปัญหานี้คนเดียว

ผมเอง ก็เจอกับตัวเหมือนกัน

.

------------------------------

🌿 วันนี้ อยากชวนทุกคน มาทบทวนย่านความเร็ว 

เป็นการย้ำให้มั่นใจ ว่าได้วิ่งในเพซที่ถูกต้อง

เพื่อการซ้อมที่มีประสิทธิภาพ

เราจะได้คืนฟอร์มเก่ง ในเร็ววัน

และนั่นคือเหตุผลของการหา Training Pace

.

วิธีการง่ายๆ เลยครับ

กรอกข้อมูล จากงานแข่งล่าสุดที่เพื่อนๆ ได้ไปหวดความเร็ว

ประกอบไปด้วย 

ระยะทาง เวลา เเละหน่วยของเพซ 

ซึ่งส่วนมากเราจะใช้เป็น min/km 

กดปุ่ม calculate ปุ๊ป

โปรแกรมจะคำนวนตัวเลขต่างๆ ออกมาให้เลยยยยย

.

------------------------------

ยกตัวอย่างนะครับ

สมมุติว่า งานแข่งล่าสุดของผมคือ งานวิ่ง 10k เมื่อตอนปลายปี

งานนี้ผมใส่เต็มที่เลย กดหมดแม๊ก ทำเวลาไป 50:00 นาที

.

กรอกข้อมูลเสร็จ กด Calculate

ผมก็จะได้ตัวเลขมาเลยครับ 

Easy Run ประมาณนี้นะ

Tempo เพซนี้

เป็นตัวเลขคร่าวๆ ให้เรากลับไปเรียกความฟิต

.

------------------------------

✅ แล้วในกรณีที่ ไม่ได้แข่งมานานมากๆ แล้วหละ 

.

แนะนำแบบนี้ครับ

เพื่อนๆ สามารถออกไปวิ่งระยะสั้น (3k-5k)

แล้วเราสามารถใช้เวลาจากตรงนั้น 

มาคิดคำนวณเทรนนิ่งเพซ ได้เหมือนกัน 

***ช่วงนี้อากาศร้อน ต้องเตรียมความพร้อมก่อนวิ่งด้วยนะ

.

------------------------------

สำหรับนักวิ่งมือใหม่ Running Insider ขออธิบายคำศัพท์ต่างๆ ดังนี้ครับ

.

🏃🏻‍♂️ Pace (เพซ)

คือตัวเลข สำหรับเวลาที่ใช้เดิน/วิ่ง ในหนึ่งหน่วยระยะทาง 

ไม่ว่าจะเป็นไมล์ หรือกิโลเมตร 

ในประเทศไทยนิยมใช้ระยะทางเป็นกม.

เช่น 

วันนี้วิ่งเพซ 7 นาที/กม. 

หมายความว่า

เราใช้เวลา 7 นาทีต่อการวิ่งระยะทาง 1 กม. 

.

🏃🏻‍♂️ Easy run 

การวิ่งสบายๆ ใช้ในการเก็บระยะทาง

การวิ่งแบบนี้เป็นหัวใจในการสร้างเครื่องยนต์ของเรา

วิ่งอีซี่รันอย่างตรงจุด จะช่วยให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น 

ความฟิตเพิ่มขึ้น

หลีกเลี่ยงการวิ่งแบบ “Junk mile”

.

🏃🏻‍♂️ Tempo run

การวิ่งด้วยความเร็วสม่ำเสมอ 

ในความรู้สึกที่ “ยาก แต่ควบคุมได้” 

การวิ่งเทมโป้ จะยกระดับเพดานความแกร่งให้สูงขึ้น

“เพิ่มความนิ่ง เพิ่มความอึดแบบวิ่งเร็ว” ในวันแข่ง

.

🏃🏻‍♂️ VO2Max run

หรือ บางคนเรียกว่า ลงคอร์ท / อินเทอวัล (Interval) 

วิ่งด้วยความเร็วที่สูงขึ้น แต่ยังควบคุมได้ 

โดยแบ่งเป็นเซ็ท ยกตัวอย่างเช่น 8 x 800m.  

วิ่งอินเทอวัล 800 เมตร ด้วยเพซ 4:35 พัก 1 นาที 

ทำซ้ำแบบนี้ 8 รอบ เป็นต้น

.

🏃🏻‍♂️ Speed form 

ใช้ฝึกรอบขา ความเร็ว สำหรับแข่งระยะสั้น 

ลักษณะการฝึกจะคล้ายกับ VO2Max run แต่จะพักนานกว่า

ต่างกันตรงที่การวิ่งแบบนี้ ฝึกด้วยระยะทางที่สั้นกว่า

ยกตัวอย่างเช่น 

วิ่ง 400 เมตรด้วยความเร็ว สลับกับการจ๊อกกิ้ง 3 นาที

.

🏃🏻‍♂️ Long run 

แน่นอนว่าสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น 

การวิ่งยาว หรือ การวิ่งทางไกล

จะเป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความอึด หรือ Endurance นั่นเอง

Long Run ที่ดี ควรวิ่งด้วยความเร็วที่เหมาะสม

มิเช่นนั้น อาจจะวิ่งได้น้อยกว่าระยะทางที่ตั้งใจเอาไว้

.

🏃🏻‍♂️ Yasso 800s 

คำนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ อาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไร 

เพราะว่าเป็นทฤษฎีที่คิดค้นโดยนักเขียนของนิตยาสาร Runner’s World 

คุณ Bart Yasso

นักเขียนคนนี้จบการวิ่งมาราธอน และอัลตร้ามาราธอนมาแล้วกว่า 50 สนาม 

เขามีทฤษฎีแบบนี้ครับ 

.

✅ ถ้าอยากวิ่งมาราธอนได้ 3:47 ชั่วโมง 

ให้ฝึกลงคอร์ท 800 เมตร 10 รอบ 

[ 10 x 800m. ] สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

และต้องทำเวลาได้อย่างน้อย 3:47 นาที ต่อหนึ่งรอบ 800 เมตร

.

สำหรับมือใหม่ 

คุณ Yasso แนะนำว่า ให้เริ่มจาก 4 x 800m. ก่อน 

จากนั้นค่อยๆ ขยับความหนักขึ้นไป

.

.

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาเพซที่ใช่ ตามเข้าไปทางนี้เลย https://bit.ly/2T6UrCq 

.

*การแนะนำข้างต้น เป็นเพียงหนึ่งในหลายทฤษฎี ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ ให้เข้ากับบุคคลนั้นๆ ได้

.

.

เรื่องโดย #Fridayss

.

#RunningInsider

#TrainingPace

#เพซซ้อม

ที่มา: https://www.facebook.com/RunningInsider/posts/716524219113160

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

การบ้าน week 27 วิ่ง 6-7-8-9-10

 


week นี้หยุดวิ่งไป 2 วัน เนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ของ week 26 การวิ่งแล้วเกิดอาการเจ็บเส้นด้านนอกตั้งแต่สะโพกลงมาถึงเข่าด้านซ้าย ITB หรือป่าวไม่รู้ ก็เลยหยุด เพราะ น้าชายเคยบาดเจ็บ ITB ต้องพัก 6-7 เดือนกว่าจะกลับมาวิ่งได้และวิ่งได้ไม่เหมือนเดิม

พอวันพุธก็จ๊อกกิงเรื่อยๆ ไม่เจ็บแล้ววันที่เหลือก็วิ่งได้ปกติแต่จะเริ่มต้นวิ่งช้าเพซ 7-8 แล้วเร่งขึ้นไปจนถึง 5.30-6 ตอนใกล้จบการซ้อม


ที่เจ็บครั้งนี้เป็นเพราะดริลแบบใหม่ 2 ท่าที่เจอมา ตามลิงค์นี้

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แนวทางเบื้องต้นแก้อาการรองช้ำ.. เอ็นร้อยหวาย เท้าแบน

 Fitdemy Colab

10 พฤษภาคม 2020  · 
















แนวทางเบื้องต้นแก้อาการรองช้ำ.. เอ็นร้อยหวาย เท้าแบน อุ้งเท้าสูง ภาวะแม่โป้งเท้าเอียง เท้าพลิก   แต่ถ้าสนใจหาสาเหตุและแนวทางต่างๆลงคอร์สนี้⬇️

💢🦶🏻Foot & Ankle Impairment🦶🏻💢

>> คอร์สออนไลน์คอร์สใหม่จากฟิตเดมี่ <<

🤔รู้หรือไม่ ปัญหาความไม่สมดุลของการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันอาจมีสาเหตุมาจากเท้า

ระเบียบร่างกายของเราเริ่มที่เท้า ร่างกายของเรามีความเชื่อมโยงกันหมดตามหลัก Kinetic Chain ถ้าการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณฝ่าเท้า และรอบข้อเท้าไม่สมดุล หรือผิดปกติ ความสมดุลของร่างกายก็จะเสียไปด้วย ซึ่งอาจเป็นที่มาของอาการบาดเจ็บต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หัวเข่า สะโพก และหลัง

👉🏻มาเรียนเพลิน ๆ ได้ความรู้เพิ่มเติม ดูแลเท้าของเราได้ง่ายๆ กับคอร์สออนไลน์ความยาวกว่า 300 นาที โดยเนื้อหาประกอบด้วย

📌ส่วนที่ 1: ภาคทฤษฎี

✔️ทำความเข้าใจว่าภาวะความไม่สมดุลหรือความบกพร่องในส่วนของกล้ามเนื้บริเวณฝ่าเท้าและรอบข้อเท้าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

✔️วิธีการประเมินร่างกายด้วยตัวเอง ด้วยการทดสอบ mobility test เพื่อหาสาเหตุของอาการต่างๆรอบๆฝ่าเท้าและ ข้อเท้า เช่น

- รองช้ำ

- เท้าแบน/อุ้งเท้าสูง

- เอ็นร้อยหวายอักเสบ

- ภาวะนิ้วหัวแม่โป้งเอียง

- shinsprint   หรือกล้ามเนื้อหน้าแข้ง​อักเสบ

- ข้อเท้าพลิกเป็นประจำ

📌ส่วนที่ 2 : ภาคปฏิบัติ 1

Rehab exercise หรือการบริหารเพื่อการฟื้นฟู โดยเน้นการบริหารข้อต่อและกล้ามเนื้อใต้ฝ่าเท้าและรอบข้อเท้า การคลายระบบประสาท   การยืดเหยียดและคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆที่มีความตึงเกินไป

📌ส่วนที่ 3: ภาคปฏิบัติ 2

Prehab exercise เป็นวิธีการบริหารกล้ามเนื้อฝ่าเท้า นิ้วโป้งเท้า กล้ามเนื้อ รอบข้อเท้า และกล้ามเนื้อ รอบสะโพกให้แข็งแรง และการฝึกการทำงานร่วมกัน (coordination) ของข้อเท้า ฝ่าเท้า และข้อต่อสะโพก เพื่อลดความเสี่ยงการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวบริเวณรอบฝ่าเท้าและข้อเท้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

🖥 วิธีการเรียน : เรียนผ่าน เว็บไซท์ โดยสามารถเรียนเวลาไหนก็ได้ที่สะดวก และสามารถดูซ้ำกี่ครั้งก็ได้

คอร์สราคาปกติ 4,500 บ. 

‼️ราคา Early Bird ก่อน 15 พ.ค. 3,500 บ. 

สำหรับนักเรียนเก่าราคา 3,000 บ. 

👉🏻พิเศษสุดๆ แถมฟรียางยืดบริหารนิ้วโป้งเท้า มูลค่า 130 บาทจัดส่งถึงบ้าน‼️

เริ่มเรียนพร้อมกันวันแรกวันที่ 20 พ.ค.63 นี้ค่ะ

สนใจสอบถามลงทะเบียนเรียนได้ที่ 👇🏻

https://lin.ee/lMG4zhe

ที่มา: https://www.facebook.com/FitdemyOnline/photos/a.198224647769636/571854363739994/?type=3

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

‘วิ่ง’แรงข้ามปีทะลุ3,000งาน ออร์แกไนฯพรึ่บ-ถ้วยเหรียญรายได้พุ่ง

 วันที่ 31 ธันวาคม 2562 - 18:00 น.


บริษัทออร์แกไนเซอร์ผุดรับดีมานด์งานวิ่งแรงทะลักข้ามปี คาดปี 2563 ยอดจัดงานทะลุ 3,000 งาน ธุรกิจเสื้อ ถ้วย-เหรียญรางวัล รายได้โตก้าวกระโดด ตลาดรองเท้า-อุปกรณ์การวิ่ง รับอานิสงส์เต็มๆ ส่วนค้าปลีกเพิ่มพื้นที่แบรนด์ดังรับไลน์อัพรองเท้าใหม่ สมาร์ทวอตช์เปิดเกมรุกฆาตส่งทีม ฉก.บุกต่างจังหวัด


ถึงวันนี้กระแสการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ได้ทำให้งานวิ่งผุดขึ้นมาเฉลี่ย 200-250 งานต่อเดือน หรือประมาณ 3,000 งานในปี 2562 นี้ และปีหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงง่าย ๆ และจากดีมานด์ที่มีอย่างมากมายและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายธุรกิจเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะออร์แกไนเซอร์จัดงานวิ่งที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด รองเท้าวิ่ง อุปกรณ์การวิ่ง รวมถึงเสื้อ ถ้วย เหรียญ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด


วิ่งกระแสแรงไม่มีตก


แหล่งข่าวจากบริษัทออร์แกไนเซอร์จัดงานวิ่งรายใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การวิ่งยังเป็นกระแสที่นิยมอย่างต่อเนื่องและยังแรงไม่ตก โดยเบื้องต้นคาดว่าปี 2563 จะมีการจัดงานวิ่งประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟันรัน มินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน วิ่งเทรล ฯลฯ ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการจัดงานวิ่งเฉลี่ยประมาณ 200-250 งานต่อเดือน ที่สำคัญคือ กระแสการวิ่งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีออร์แกไนเซอร์จัดงานวิ่งรายใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งรายที่เป็นออร์แกไนเซอร์งานอีเวนต์ทั่ว ๆ ไปที่หันมารับจัดงานวิ่งเพิ่ม รวมถึงกลุ่มนักวิ่ง ชมรมวิ่ง กลุ่มช่างภาพ ที่ผันตัวเองมาเป็นออร์แกไนเซอร์จัดงานวิ่ง


“ตอนนี้ยังไม่มีใครที่รวบรวมตัวเลขเกี่ยวกับจำนวนผู้จัดงานวิ่งไว้ แต่คนที่อยู่ในแวดวงก็จะรู้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นมีรายใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่มีผู้จัดงานวิ่งอยู่ไม่เกิน 15-20 ราย แต่ถึงวันนี้น่าจะมีร่วม ๆ 100 ราย เพราะลำพังรายเดิม ๆ ที่มีอยู่ก็รับงานได้ไม่มากในแต่ละเดือน จึงเป็นโอกาสของรายใหม่ที่กระโดดเข้ามา


แหล่งข่าวย้ำด้วยว่า ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดงานวิ่งอีกหลายธุรกิจที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานหรือบริษัทที่รับผลิตเสื้อวิ่ง ถ้วยรางวัล เหรียญรางวัล ที่เติบโตมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนหลัง ๆ มานี้ีหลายบริษัทหันไปจ้างโรงงานในประเทศจีนเป็นผู้ผลิตเหรียญ-ถ้วยให้เพราะมีต้นทุนถูกกว่า


“ตอนนี้ออร์แกไนเซอร์หลาย ๆ บริษัทเริ่มเตรียมงานของปีหน้าแล้ว และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงหันมาสนใจการวิ่งมากขึ้น ทำให้สัดส่วนนักวิ่งผู้หญิงมีตัวเลขที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับนักวิ่งชาย คือ อยู่ในระดับ 50/50 จากเดิมที่มีผู้หญิงวิ่งมีสัดส่วนเพียง 20% พร้อม ๆ กับการจัดงานวิ่งระยะสั้นที่เหมาะกับผู้หญิงมีมากขึ้น อาทิ ฟันรัน หรือ 5 กิโลเมตร และมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร”


จัดงานวิ่งยอดทะลุ 3,000 งาน


นางมัลลิกา ผลอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเมซิ่ง ฟิลด์ จำกัด ออร์แกไนเซอร์จัดงานวิ่งรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มการจัดงานวิ่งในปี 2563 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากเทรนด์สุขภาพยังแรงไม่ตก ทำให้ผู้บริโภคยังคงสนใจร่วมงาน ประกอบกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั้งค้าปลีก, ยานยนต์, พลังงาน รวมถึงโรงพยาบาล ฯลฯ หันมาทำการตลาดด้วยการจัดงานวิ่ง หวังสร้างการรับรู้แบรนด์และสินค้าในวงกว้าง คาดว่าปี 2563 ในแง่ของจำนวนการจัดงานวิ่งต่าง ๆ เบื้องต้นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3,000 งาน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าการจัดงานวิ่งจะมีในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากสถานที่จัดงานในกรุงเทพฯหายากขึ้น ไม่ว่าจะถนนหรือสวนสาธารณะ ซึ่งหลายแห่งต้องจองข้ามปี ทำให้ผู้จัดหันไปหาทำเลในต่างจังหวัดแทน

อย่างไรก็ตาม จากงานวิ่งและจำนวนออร์แกไนเซอร์ที่มากขึ้น แต่ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวจึงทำให้มีการแย่งชิงสปอนเซอร์และนักวิ่ง เนื่องจากจำนวนงานที่มีมากทำให้นักวิ่งมีตัวเลือกมาก และนักวิ่งหลายรายก็เข้าร่วมงานวิ่งน้อยลง จากเดิมวิ่งทุกสัปดาห์ เป็นวิ่งเดือนละ 1-2 งาน ทำให้ต้องเพิ่มงบฯเพื่อทำประชาสัมพันธ์และการตลาด รวมถึงลด แลก แจก แถม และดึงอินฟลูเอนเซอร์ภายนอกเข้ามาช่วย


สำหรับปี 2563 บริษัทปรับกลยุทธ์รวมถึงการนำด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้มากขึ้น อาทิ เรื่องของไลฟ์สด, คิวอาร์โค้ด เพิ่มระบบสมาชิกและระบบโปรโมชั่น เช่น โควตส่วนลดค่าสมัครร่วมงาน ฯลฯ เพื่อให้สามารถผลิตงานวิ่งที่หลากหลายตอบโจทย์เจ้าภาพทั้งภาครัฐและเอกชนทุกธุรกิจได้ตรงจุด นอกจากนี้ ยังขยายไลน์ธุรกิจด้วยการต่อยอดโนว์ฮาวด้านบริหารจัดการงานวิ่ง โดยรับบริหารจัดการหรือเป็นที่ปรึกษางานวิ่ง อาทิ ออกแบบเส้นทาง, การรับสมัคร, กระบวนการตัดสิน และคุมงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะมุ่งขยายฐานนักวิ่งให้ครอบคลุมกลุ่มสูงวัยที่มีจำนวนมากขึ้นด้วยการให้ส่วนลดค่าสมัคร-สิทธิ์วิ่งฟรี เพื่อดึงคนกลุ่มนี้เข้าร่วมงานพร้อมครอบครัว


นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) ออร์แกไนเซอร์อีเวนต์ไอทีและงานกีฬา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจุบันอีเวนต์งานวิ่งต่าง ๆ อาทิ ฟันรัน, มาราธอน, เทรล เติบโตสูงมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก แต่ก็มีความท้าทายมากขึ้นในแง่ของการหาสปอนเซอร์ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของการจัดงาน เนื่องจากปัจจุบันมีคู่แข่งมากขึ้น สำหรับบริษัทเองเบื้องต้นปี 2563 จะมีการจัดงานวิ่งประมาณ 20 งาน จากปกติที่จัดเฉลี่ยปีละ 3-4 งาน รวมถึงศึกษาโอกาสการจัดงานปั่นจักรยานอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถโฟกัสกับธุรกิจนี้ได้เต็มที่และมีความคล่องตัวในการบริหาร-จัดการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ร่วมกับบริษัท รันนิ่ง คอนเน็ค จำกัด ผู้ให้บริการจัดงานวิ่งและบริหารเว็บไซต์งานวิ่ง runningconnect.com ตั้งบริษัท เอ็มอาร์ซี (MRC) ขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจจัดอีเวนต์กีฬาและการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยเอ็มอาร์ซีจะโฟกัสการจัดงานวิ่งระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑา, สมาคมวิ่งเทรล นานาชาติ ฯลฯ ที่นักวิ่งสามารถสะสมคะแนนเพื่อนำไปสมัครวิ่งรายการใหญ่ ๆ ได้ และจะชูจุดขายด้านสถานที่ที่เน้นแหล่งท่องเที่ยวประเภท unseen เพื่อสร้างความแตกต่าง ดึงนักวิ่ง-สปอนเซอร์


แอ็กเซสซอรี่รับอานิสงส์


นอกจากนี้ กระแสความนิยมออกกำลังกายด้วยการวิ่งยังส่งผลให้สินค้าที่เกี่ยวกับการวิ่งและแอ็กเซสซอรี่ต่าง ๆ มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สปอร์ต รีโวลูชั่น จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสินค้าวิ่งมัลติแบรนด์ “เรฟ รันเนอร์” กล่าวว่า การวิ่งยังคงเป็นกีฬาหลักที่ช่วยให้ตลาดสินค้ากีฬาเติบโต เพราะเป็นกีฬาที่เข้าถึงง่าย จึงทำให้ความนิยมแพร่หลายในทุกกลุ่มอายุ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังใส่ใจรายละเอียดการวิ่งมากขึ้น บริษัทจึงเพิ่มไลน์อัพอุปกรณ์เสริม เช่น อุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บ รวมถึงสินค้าสำหรับการวิ่งเทรล รองรับเทรนด์การวิ่งที่ท้าทายมากขึ้น เช่นเดียวกับสินค้ากลุ่มสมาร์ทวอตช์ที่เป็นแอ็กเซสซอรี่สำคัญของนักวิ่ง


นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ “การ์มิน” ระบุว่า เทรนด์การวิ่งที่มาแรงทำให้ตลาดสมาร์ทวอตช์ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาโตขึ้นและเชื่อว่าจะต่อเนื่องไปในปี 2563 ด้วย ซึ่งบริษัทจะเพิ่มทีมขายและทีมงานสัญจรเดินสายไปจังหวัดต่าง ๆ รับกับเทรนด์การจัดงานวิ่งในต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น


ขณะที่นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้าสปอร์ตมอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กีฬาวิ่งเป็นหนึ่งในตัวผลักดันยอดขายที่ดีมาก ด้วยจำนวนนักวิ่งกว่า 20 ล้านคน และกลุ่มผู้หญิงที่เติบโตรวดเร็วจนปัจจุบันสนามต่าง ๆ มีผู้หญิงประมาณ 30% แล้ว


ขณะเดียวกัน นักวิ่งสนใจด้านแฟชั่นเพิ่มขึ้น จนซื้อรองเท้าเฉลี่ยคนละ 3-5 คู่ เพื่อให้เข้ากับชุดวิ่งที่ใส่ ส่วนกลุ่มวิ่งจริงจังจะมีมากกว่า 5 คู่ ให้เหมาะกับสนาม-ประเภทการวิ่ง เพื่อรองรับดีมานด์ดังกล่าว สปอร์ตมอลล์ได้มีการขยายพื้นที่ของแบรนด์หลัก ๆ อาทิ ไนกี้ อาดิดาส สำหรับการเพิ่มไลน์อัพรองเท้าวิ่ง รวมถึง โซนสินค้าแคมปิ้งซึ่งจะรองรับกลุ่มวิ่งเทรลด้วย รวมถึงปี 2563 จะเพิ่มจำนวนกิจกรรมกีฬาทั้งวิ่ง, เดิน และปั่นจักรยานให้ถี่ขึ้น


ที่มา: https://www.prachachat.net/marketing/news-406711?fbclid=IwAR2Wx-Q4jp75WhzbHggDMrtvlPI5rAULCKW48TmSVKQbEp6gQxEm2xfutb8

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ปรับก่อนป่วย : จบมาราธอนได้แบบไม่เจ็บ

 รายการ คนสู้โรค

ออกอากาศ 3 ธ.ค. 61

มาฟังคำแนะนำเกี่ยวกับการวิ่งมาราธอนกับ หมอเมย์ - พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ พร้อมเทคนิค “จบมาราธอนได้แบบไม่เจ็บ” สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ ติดตามชมในรายการคนสู้โรค วันจันทร์ – อังคาร เวลา 16.05 – 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือ ชมย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/konsuroak



ลิงค์วิดีโอ

ที่มา: https://www.facebook.com/fittogethers/


วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ท่าดริล 2 ท่าทำให้วิ่งเร็วขึ้นง่ายได้ผลจริง

 

วิ่งมาตั้งนานเพิ่งจะเข้าใจหลักการวิ่งที่แท้จริงเมื่อมาเจอท่าดริล 2 ท่านี้จากเทพเจ้า แค่ลองฝึกคาบเดียวก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากการวิ่งแบบเดิมๆ มันทำให้วิ่งแล้วฟินและแข็งแรง อย่างบอกไม่ถูก ต่อไปจะฝึกดริล 2 ท่านี้ก่อนออกซ้อมวิ่งและหลังจากวอร์มอัพเสร็จ