วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จากประสบการณ์ของผมโดยตรงน่ะคับ


เนื่องด้วยในทุกวันนี้สังเกตุได้ว่า การจัดแข่งขันวิ่งมาราธอนในบ้านเรา เกิดขื้นมากมาย หลายสนาม มากจนถึงในบางอาทิตย์ มีรายการแข่งมาราธอนมากกว่า 2-3 รายการก็มี และก็มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหน้าเก่า ใหม่เพิ่มขื้นเป็นหลายๆเท่าเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งบางทีผมยังงงเลยว่า หลายๆท่านวิ่งได้งัยในระยะมาราธอน ได้แทบจะทุกอาทิตย์ และที่สำคัญบางท่าน พึ่งจะเริ่มเข้ามาซ้อม ผ่านการแข่งขัน ในระยะมินิ และฮาฟเพียงไม่กี่สนาม ก็กระโดดขื้นมาแข่งในระยะฟูลมาราธอนกันแล้ว.อาจจะเพราะหลายๆเหตุผลที่ทำให้ท่าน ได้ตัดสินใจลงวิ่งน่ะคับ และในวันนี้ เหตุที่ผม จะออกมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากตัวผมเองน่ะคับ เหตุผมสำคัญก็เพราะเป็นห่วงสิ่งที่จะตามมาในอนาคต ผมจะพูดถึงผลกระทบในทางลบน่ะคับ #ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีใครอยากให้มันเกิดขื้นน่ะคับ คือนักวิ่งบางส่วนอาจจะไม่ทราบ เกี่ยวกับผลกระทบของการวิ่งมาราธอน คือผมจะยกตัวอย่างพวกผมนักกีฬามาราธอนทีมชาติ กว่าที่พวกผมจะตัดสินใจวิ่งมาราธอนสนามแรกนั้น ผมใช้เวลาไต่ระยะจาก 5 โล 10 โล จนถึงฮาฟ 21 โล (ผมขออนุญาติใช้คำสั้นๆที่เข้าใจง่ายน่ะคับ) คับใช้เวลาอยู่นาน ในการสะสมความแข็งแรง ประสบการณ์ และอีกหลายๆ อย่าง อยู่ไม่ต่ำกว่า 7-8 ปี จนผมมั่นใจว่าผมสามารถจบมาราธอนได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ทรมาน ผมถึงตัดสินใจลงมาราธอนงานแรก ซึ่งสนามแรกที่ผมลงแข่งคือพัทยามาราธอน ผมทำเวลาในฟูลแรกของผมครั้งนั้น จบที่ 2ชั่วโมงกับ 33 นาทีซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่ดีทีเดียว และผมใช้เวลาเตรียมร่างกายเพื่อลงสนามถัดมาอยู่ราวๆ 3-4 เดือนถึงจะตัดสินใจลงมาราธอนรายการถัดมาคับ จากวันนั้นถึงวันนี้ผมก็ยังสามารถลงมาราธอนได้เรื่อยๆ อาจจะมีบาดเจ็บหรือปัญหาอื่นๆบ้าง #ก็แล้วแต่เหตุผลของตัวแปรอื่นๆ ที่ทำให้เราวิ่งดีและไม่ดีในหลายๆสนาม..แต่สิ่งสำคัญ ที่ผมกำลังจะบอกและเป็นห่วงคือ อยากให้หลายท่านที่กำลังคิดจะลงมาราธอน อยากให้มีการเตรียมตัวให้ดี ถ้าต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และมีความสุขกับมัน สามารถวิ่งได้นาน อย่างมีความสุข ก็ควรคิดวางแผนการซ้อมให้ดีๆแล้ว ท่านจะสามารถวิ่งได้นานๆ และที่สำคัญวงการวิ่งมาราธอนจะสามารถเติบโตได้อย่างถาวร เพราะกีฬาวิ่งคือสิ่งที่พวกเรารัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น