![]() |
ระยะสะสมเดือนสิงหาคม มีงานวิ่งอ่างทอง |
ระยะสะสมก็เยอะอยู่เพราะหลังแข่งเสร็จ ใช้การเดิน recovery จะเห็นว่าเดือนนั้นเดิน 7 ครั้ง ส่วน cycling 1 ครั้งคือจับระยะมาราธอน เพราะตอนวิ่งแข่งมาราธอนไม่ได้พกโทรศัพท์ smart watch เป็นรุ่นไม่มี GPS
ss-วิ่ง เราจะวิ่งมาราธอน 42.195k ทุกรายการในประเทศไทย
![]() |
ระยะสะสมเดือนสิงหาคม มีงานวิ่งอ่างทอง |
![]() |
เข้าใจแหละว่าลวดลายสีเสื้อวิ่งสื่อถึงท้องทุ่งนา |
วันที่ 27 กค.เป็นการวิ่งยาวระยะไกลสุดของการซ้อมสำหรับมาราธอนครั้งนี้ได้ 30k 🏃วิ่งแบบ LSD ใช้เวลา 4 ชม.เต็ม ส่วนวันที่ 13 กค.เป็นการวิ่งยาวระยะ 28k ใช้เวลา 3:34 ชม.
วันพุธเป็นการวิ่งแข่ง 5k 26 นาที ของรายการ Run khan du #2
จบการซ้อมเดือนกรกฎาคมก็เหลืออีก 3 week ก่อนไปแข่งอ่างทองมาราธอนในวันที่ 17 สิงหาคม 2568 ณ สวนสาธารณะหนองเจ็ดเส้น
คาดว่าคงใช้สไตล์การแข่งแบบงานน่านมาราธอน นั้นคือ🏃วิ่ง ฮาล์ฟมาราธอนแรก เพซ 6.30 ส่วนครึ่งหลังวิ่งเพซ 7 วิ่งไปยืดเหยียดไปทุกๆ จุดให้น้ำ จะได้เวลา 5 ชม.ในการแข่งครั้งนี้
ในเดือนมิถุนายน 2568 เป็น week 6, 7, 8 และ 9 ของโปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอน เพื่อไปแข่งงาน อ่างทองมาราธอน วันที่ 17 สิงหาคมปีนี้
ผลการฝึกซ้อมแย่มาก 🏃วิ่งยาว 27k ต้อง DNF ทั้งสองครั้ง โดยครั้งแรกตะคริวกินตั้งแต่ 18k ฝืนวิ่งจนตะคริวขึ้นหนัก 2 ขาเดินไม่ได้ นั่งพักเป็นชั่วโมง วันนั้นวิ่งเพซ 6.4 ตลอด เหงื่อออกเยอะและรู้สึกเครียด ตั้งใจวิ่ง กอรปกับนอนไม่ค่อยดี
ส่วนครั้งที่สอง พอจะครบ 23k มีอาการกระตุกที่น่องขวาซ้าย จึง DNF เลยกลัวซ้ำรอยครั้งที่แล้ว อายเขาด้วยวันนั้นวิ่งสวนธนบุรีรมย์ตอนเช้าคนเยอะด้วย วันนั้นวิ่งเพซ 7.0-7.4 กินกล้วยตากสลับกล้วยกวน ตั้งแต่ 3k - 20k แรงไม่หมดแต่กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง คงเพราะไม่ค่อยได้เวท
จากระยะทางสะสม 160k ในเดือนมิถุนายนใกล้เคียงเดือนพฤษภาคมเพราะวิ่งยาวไกลกว่า แต่ในละ week วิ่งน้อยเพราะวันพุธมีแข่งวิ่ง Run khan du#2 5k เพซ 5.1-5.3 ทำให้ต้องพักร่างกายในวันจันทร์และอังคาร
เดือนนี้ซ้อมวิ่งยาวไกลสุด 19k ใน week ที่ 4 ของโปรแกรม โดยได้ไปวิ่งที่สวนธนบุรีรมย์ ถิ่นเก่า ช่วงนั้นเข้ากรุงเทพฯ ส่วนการซ้อมวิ่งก่อนหน้านี้ซ้อมที่ชายทะเลสามร้อยยอด
...
5️⃣ น้ำตาล Fructose ที่สลายต่อไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วจะได้สารกักเก็บพลังงานชื่อ NADH จำนวนมาก แต่ซึ่งปกติแล้วสาร NADH จะนำไปพลังงานที่กักเก็บนี้ ไปสร้างสารให้พลังงานในรูป ATP
แต่ว่าตอนนี้เซลล์มีฟอสเฟตต่ำลง จึงขาดวัตถุดิบการสร้าง ATP ส่งผลให้เซลล์มีสารชื่อ NADH คั่งอีก เซลล์ตับจึงพยายามหาที่ระบายสารนี้ทิ้ง โดยการใช้พลังงานที่กักเก็บนี้ในการสร้างกรดแลคติกแทน (Lactate)
.
6️⃣ กรดแลคติกที่มีมากขึ้น จะถูกขับออกทางไต แต่วิธีการขับนั้น จะต้องแลกกับการเอากรดยูริกจากน้ำกรองที่กรองออกไปแล้ว กลับสู่กระแสเลือดอีกครั้ง ดังนั้นถือเป็นการลดการขับยูริกที่ไต