บทความนี้น่าสนใจมากๆครับ ผมจะลองสรุปเป็นภาษาของผมให้อ่านกันดูนะครับ
เค้าพูดถึงว่ามนุษย์เราเกิดมาก็เริ่มจากการหัดคลาน / เดิน / และเมื่อเราอยากไปให้เร็วขึ้น เราก็วิ่ง
วิ่งเป็นการออกกำลังกายเพิ่มความฟิตที่ง่ายที่สุด เรียกว่าเราไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะมันติดมากกับตัวเราอยู่แล้ว
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า เราทุกคนวิ่งได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ทุกคนจะวิ่งได้ดี 👍
ทุกวันนี้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกวิ่งมีอยู่เต็มไปหมด หาได้ง่ายมาก แต่ข้อมูลเหล่านั้นบางชุดข้อมูลก็มีประโยชน์ บางชุดก็สับสน บางชุดก็ผิด แล้วเราจะเชื่ออะไรดีล่ะ❓
Dr. Aaron เค้าเลยมาทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีฟอร์มการวิ่งแบบไหนที่มันถูกต้องที่สุดหรอก แต่เมื่อเราเจาะลึกลงไปดู จะเห็นได้ว่าฟอร์มของนักวิ่งระดับอีลีทจะมีบางจุดที่เป็นพื้นฐานสำคัญและจะมีเหมือนๆกันทุกคน ที่แตกต่างจากนักวิ่งทั่วไป และสิ่งเหล่านี้แหละที่นักวิ่งทั่วไปควรเรียนรู้
เค้าเอานักวิ่ง 2 คนมาทำการทดลองโดยใช้เทคโนโลยีจับความเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อดูการเคลื่อนไหวเปรียบเทียบระหว่างนักวิ่งทั้ง 2 คน คนแรกเป็นนักวิ่งอีลีท 1,500 เมตรระดับโอลิมปิค และคนที่2 เป็นนักวิ่งทั่วไปที่ซ้อม 2-3 วัน/สัปดาห์
⭐️ประเด็นใหญ่ที่ได้เรียนรู้จากการทดลองคือ ฟอร์มการวิ่งนั้นเป็นผลที่ได้จากการสัมพันธ์ของการเคลื่อนไหวทั้งร่างกาย ไม่ใช่แค่จากจุดใดจุดหนึ่ง ⭐️
1: จุดที่เท้าสัมผัสพื้น สัมพันธ์กับการวางเท้า
ถ้าจุดที่เท้าสัมผัสพื้นนั้นอยู่ไกลจากลำตัวของเรา แนวโน้มที่นักวิ่งจะลงส้นเท้า ( heel strike) นั้นมีมากเนื่องจากกลไกร่างกายจะบอกว่ามันสบายกว่าที่จะลงส้น ซึ่งการลงส้นนี้จะสร้างแรงเบรคให้เกิดขึ้นมากกว่าการลงเต็มเท้าหรือปลายเท้า และการลงส้นก็จะยิ่งสร้างแรงกระแทกขึ้นไปถึงเข่าและสะโพกโดยตรง
ฟอร์มที่ดีคือควรมีจุดวางเท้าที่อยู่ใกล้ลำตัวเรามากที่สุด ซึ่งกลไกการเคลื่อนไหวของร่างกายจะปรับให้เราลงเต็มเท้า หรือปลายเท้ามากกว่า( mid foot / fore foot ) ข้อเท้าจะเป็นจุดซับแรงกระแทก และถึงแม้จะมีแรงเบรคก็จะน้อยกว่าการลงส้น และการวางเท้าใต้ลำตัวจะช่วยลดระยะเวลาการเคลื่อนไปด้านหน้าของร่างกายได้ดีกว่า และเริ่มขั้นตอนการถีบส่ง ( toe off ) ได้เร็วกว่ามากครับ
2: ‼️ตำแหน่งของสะโพก ทำไมถึงโคตรสำคัญ‼️
จุดหลักที่แยกนักวิ่งอีลีทจากนักวิ่งทั่วไปคือตำแหน่งของสะโพก
นักวิ่งทั่วไปส่วนใหญ่แล้ววิ่งแบบย่อตัว กล่าวคือตำแหน่งสะโพกด้านบนโน้มไปด้านหน้า และด้านล่างโน้มไปด้านหลัง ( ดูตามรูปในบทความจะเข้าใจนะครับ) ทำให้กระดูกสันหลังแอ่นมากเกินไป ส่งผลให้เปิดองศาของสะโพกได้ไม่มาก
ในขณะที่นักวิ่งอีลีท ตำแหน่งสะโพกจะอยู่ในตำแหน่งกลาง ไม่ย่อตัว และกระดูกสันหลังไม่แอ่น และเมื่อรวมกับการวางเท้าที่ใกล้ลำตัว นักวิ่งอีลีทจึงมีฟอร์มวิ่งที่เรียกว่า Running Tall
ลองนึกถึงแกนกลางลำตัวที่ยืดตรง แรงที่ส่งผ่านจากด้านล่างขึ้นไปก็จะไปได้เต็มแรงกว่าแกนลำตัวที่แอ่น
🌟ส่วนตำแหน่งสะโพกแบบ Neutral ลองฝึกโดยการเก็บหน้าท้อง และขมิบก้น ครับ นั่นแหละครับตำแหน่ง neutral ที่ควรจะเป็นตอนเราวิ่ง🌟
ดูคลิปสอนการก้าวด้วยสะโพก
⭐️สรุป⭐️
จากการทดลอง ก็สรุปได้ว่าฟอร์มวิ่งที่ดีนั้นไม่ได้เกิดจากการโฟกัสไปที่เท้าของเรา แต่มันคือความสัมพันธ์กันของการเคลื่อนไหวทั้งร่างกาย ทุกๆการเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งส่งผลไปถึงการเคลื่อนไหวในจุดอื่นๆ ถ้าเราสามารถฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวในแต่ละจุดของร่างกายได้ดี เทคนิคการวิ่งของเราก็จะดีตามครับ
❤️TIPS❤️
: อย่าวิ่งแบบย่อตัว ปรับสะโพกให้อยู่ในตำแหน่งกลาง เก็บหน้าท้องและคุมแกนกลางลำตัวให้ตรง จะทำให้คุณวิ่งแบบ RUNNING TALL
: ลองปรับมุมมองเกี่ยวกับการก้าวใหม่ เพราะการวิ่งคือการส่งแรงไปด้านหลัง ทำความเข้าใจใหม่ว่าระยะก้าวที่ยาวขึ้น เกิดจากการยืด hip flexor แรงส่งจากด้านหลังให้เราพุ่งไปด้านหน้ามาจากก้น gluteus ไม่ใช่การเหยียดเท้าไปด้านหน้า
: สัมผัสพื้นให้เร็วและแผ่วเบา ไม่แช่เท้า
: และอย่าไปโฟกัสที่เท้า หรือ การวางเท้า เพราะฟอร์มวิ่ง รวมถึงการวางเท้าเกิดจากการเคลื่อนไหวทั้งลำตัว
เครดิต: Tollmahowk
ขอบคุณบทความจากเรื่อง
Why everything you thought about running is wrong
จาก abc.net.au
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น