นักวิ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้นึกถึง ‘วิตามินดี’ (Vitamin D) แม้แต่ตัวผู้เขียน แต่การวิจัยในหลายครั้งบอกว่า วิตามินดี ส่งผลดีต่อนักวิ่ง ทั้งในแง่ ความทนทาน (Endurance) และการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ (Muscles Recovery)
.
.
การวิจัยเกี่ยวกับวิตามินดีกับนักวิ่งอาสาสมัคร พบว่า วิตามินดีส่งผลดีต่อการเพิ่มขึ้นของระดับ VO2-Max หรือปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายรับและใช้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะออกกำลังกาย ซึ่งมีผลต่อความฟิต นั่นแปลว่า หากร่างกายมีวิตามินดีสำรองอย่างเพียงพอก็จะดีต่อการวิ่งยาว หรือวิ่งระยะไกล
.
นักวิจัยให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า วิตามินดีมีผลดีต่อการฟื้นฟูตัวเองของกล้ามเนื้อที่รวดเร็วขึ้น ภายหลังจากซ้อมหรือลงสนามหนักๆ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดปัจจัยของการอักเสบต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ ผลวิจัยบางชิ้นยังกล่าวอีกว่าวิตามินดีช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่กล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการวิ่งด้วย
.
สำหรับแหล่งอาหารอันอุดมวิตามินดี อาทิ อาหารปลาจำพวก แซลมอน ทูน่า หรือซาดีน และจะให้ดีก็ต้องได้รับวิตามินดีควบคู่กับวิตามินเค และแคลเซียม สำหรับทำงานส่งเสริมกันเพื่อกระดูกของบรรดานักวิ่ง วิตามินเคอุดมในผักใบเขียวทั้งหลาย ส่วนแคลเซียมมีในเต้าหู้ด้วย แต่ถ้าจะเสริมวิตามินดีด้วยวิตามินสังเคราะห์ต้องระลึกว่า ปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต้องไม่เกิน 2,000 IU ต่อวัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นผลเสีย
.
หากไม่ปลื้มปลา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า แหล่งวิตามินดีที่น่าสนใจอีกแหล่ง คือ แสงแดดอ่อนๆ …เอ่อ ที่อาจหาได้จำกัดสักหน่อยในบ้านเรา
ว่าแล้ว ขอกลับไปกินปลาแทน ^0^
.
.
วิ่งด้วยกัน
.
.
สุขภาพดีไปด้วยกัน
.
.
บทความนี้ อนุญาตให้แชร์ได้ตามสะดวก
.
.
#ThaiRun
|เพจแรกที่นักวิ่งเลือก
Original post โดย #Nahmo_Life #ไทยรัน
อ้างอิง
https://www.runnersworld.com/…/the-nutrient-every-runner-n…/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น