สิ่งที่เราเชื่อกันมาเสมอคือการออกกำลังกายที่ความเข้มข้นต่ำๆ เช่น zone 2 มีการใช้ไขมันมากกว่า zone อื่นๆ
.
ความเป็นจริงแล้ว “จริงบางส่วนเท่านั้น” เพราะจากงานวิจัยพบว่า การออกกำลังกายที่ความเข้มข้นต่ำๆ นั้น ใช้ไขมันมากกว่า ความเข้มข้นสูงๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ทางผู้วิจัยใช้คำว่า slightly higher) หรือสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูงๆ หรือต่ำๆ ร่างกายก็ดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ไม่ต่างกัน
.
ที่สำคัญคือ การออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูงๆนั้นทำให้เราประหยัดเวลาในการออกกำลังกายด้วย เนื่องจากการลดไขมัน 1 กก. นั้นต้องทำให้พลังงานติดลบราวๆ 7,700 kcal (ถ้าพลังงานที่กินน้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายต้องการใช้ ร่างกายก็จำเป็นต้องดึงเอาไขมันที่สะสมในร่างกายมาชดเชยส่วนที่ขาด)
จากภาพเราจะเห็นว่า ถ้าวิ่งด้วย zone 2 นั้น จะต้องวิ่งถึง 924 นาที ร่างกายถึงจะมีพลังงานติดลบมากพอเท่ากับที่ใช้ในการดึงไขมันสะสมให้ลดลง 1 กก.
ในขณะที่วิ่งด้วย zone 3 นั้นใช้เวลาเพียง 687 นาที
เท่ากับว่าประหยัดเวลาไปกว่า 237 นาที หรือประหยัดเวลาไปเกือบ 4 ชม.เลย
.
สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำคือหัวใจของการลดไขมันนั้นคือ #การทำให้ร่างกายมีพลังงานติดลบเลยทำให้ต้องดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งพลังงานที่ติดลบนั้นจะติดลบจาก การคุมการกินอาหารให้น้อยลง (ลด intake), การใช้พลังงานมากขึ้น (เพิ่ม outtake) โดยที่ไม่ได้สนว่าพลังงานที่ใช้มากขึ้นนั้นจะมาจากน้ำตาลหรือไขมัน เพราะเมื่อร่างกายมีพลังงานติดลบแล้ว (ไม่ว่าจากอะไร) ก็ต้องดึงไขมันที่สะสมมาชดเชยอยู่ดี นั่นคือไขมันในร่างกายก็จะน้อยลงเรื่อยๆ
.
นอกเหนือไปจากนี้แล้วจากงานวิจัยยังพบว่าการออกกำลังกายที่ความเข้มข้นสูง ๆ #มีการเผาผลาญไขมันหลังออกกำลังกายมากกว่าการออกกำลังกายที่ความเข้มข้นต่ำๆ ซึ่งตรงนี้เรียก EPOC (Excess Post-Exercise Oxygen Consumption) จึงทำให้การเผาผลาญไขมันเกิดได้เยอะกว่าเวลาปกติอีกด้วย ดังนั้นการออกกำลังกายที่ความเข้มข้นสูงนั้นก็จะยิ่งประหยัดเวลาและมีประสิทธิภาพที่ดีสำหรับการลดไขมัน
.
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรจะออกกำลังกายที่ความเข้มข้นต่ำๆเลย เพราะอย่าลืมว่าการออกกำลังกายที่ความเข้มข้นสูง ๆ อาจทำให้เกิด overtraining ได้ ควรที่จะทำสลับกันไป ไม่ใช่เน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง
.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมอ้างอิงจากงานวิจัยได้ที่
https://planforfit.com/fat-burn-zone-ไม่มีจริง/
https://planforfit.com/คาร์ดิโอแบบ-hiit-vs-liss-ทำไมเรายั/
ที่มา : https://www.facebook.com/taodoi.runner.2559/photos/a.1870191956572093/2213520295572589/?type=3&eid=ARDc4WgFP16IEyY6Esd7HMoOg5BEvrot8W5ko_oW83IHuKey8GXqQdPbiBYK9wybNj3H3R1gb-Dam3mh&__xts__%5B0%5D=68.ARBb611p_GdLaQWfhooUb3mlRAWb4lSyyj1wpXTjQOHSXYj5ywZYQLN8FdEjZg0nDYHd7-nNAQpLFcM4wmfnmhOEbevSos5Xa_HeG8n4cH5Ycgn48bZtiVF11b-mYDEYbW85RSvJLFphtD3xstm750JeX3ZltkybrIjSDSu-QGYczamwfnRzsRb62J9WjK3yazjHh3OqyTUpT9srLSUtmnmZ&__tn__=EEHH-R
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น