เพื่อน ๆ ที่ไปซ้อมวิ่งเป็นประจำน่าจะเคยเห็นนักวิ่งที่ใช้วิธีการวิ่งถอยหลังกันบ้างใช่ไหมครับ แล้วเพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมครับว่าการวิ่งถอยหลังนั้นต่างจากวิ่งไปข้างหน้าอย่างไรแล้วมันส่งผลอะไรกับนักวิ่งบ้าง เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันครับว่าการวิ่งถอยหลังนั้นช่วยอะไรและต่างจากการวิ่งไปข้างหน้าอย่างไรบ้าง
.
การวิ่ง หรือ เดินแบบถอยหลังนั้นเป็นที่ยอมรับในวงการเวชศาสตร์ฟื้นฟูและวิทยาศาสตร์การกีฬา เนื่องจากท่าวิ่งของการวิ่งถอยหลังนั้นเป็นการลงเท้าโดยใช้ปลายเท้าลงพื้นซึ่งสามารถช่วยลดแรงกระแทก หรือ ลดแรงกดบริเวณข้อต่อได้ทำให้ข้อของนักวิ่งได้รับแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่งไปข้างหน้าซึ่งเหมาะกับนักวิ่งที่ต้องการพักฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของข้อเข่าได้นั่นเองครับ และการวิ่งถอยหลังยังสามารถทำให้กล้ามเนื้อในส่วนที่ไม่เคยใช้เวลาที่เราวิ่งไปข้างหน้านั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
.
มีผลการวิจัยออกมาว่าการวิ่งถอยหลังนั้นใช้พลังงานมากกว่าการวิ่งไปข้างหน้าถึง 30% เลยนะ ซึ่งหมายความว่าจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมากกว่าการวิ่งไปข้างหน้า และแน่นอนว่าความเหนื่อยล้าจากการวิ่งก็จะมากกว่าการวิ่งไปข้างหน้าแน่นอนครับ แต่ถึงการวิ่งถอยหลังจะใช้พลังงานเยอะขนาดนี้ เชื่อไหมครับว่าเคยมีคนที่สามารถวิ่งถอยหลังจนจบ Boston Marathon มาแล้วด้วยนะ ด้วยเวลา 5:43:59 (ชื่อของเขาคือ Loren Zitomersky)....จริง ๆ เวลาแค่นี้ กับการวิ่งถอยหลังก็ถือว่าสุดยอดมาก ๆ แล้ว แต่เชื่อไหมครับว่าสถิติโลกวิ่งถอยหลังระยะมาราธอนเป็นของ Xu Zhenjun ซึ่งทำไว้ที่ Beijin Marathon เมื่อปี 2004 ด้วยเวลา 3:43:39 ซึ่งนั่นหมายความว่าเค้าใช้ Pace 5 ในการวิ่งถอยหลังเป็นระยะกว่า 42.195 km!!!
.
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากหลายแหล่งที่ชี้ว่าการวิ่งถอยหลังนั้นช่วยพัฒนาสมาธิให้กับนักวิ่งรวมไปถึงช่วยพัฒนาสมองให้ใช้ความคิดมากกว่าเดิมเพราะต้องคอยเพ่งสมาธิไปกับเส้นทางที่เราวิ่งอยู่ตลอดเวลา (ไม่งั้นล้มนะ)
.
หากเพื่อน ๆ อยากลองวิ่งถอยหลังดูบ้างแนะนำว่าให้ค่อย ๆ ลองวิ่งเบา ๆ หรือ เดินดูก่อนนะครับ หรือ ลองซ้อมในที่ที่คนน้อยเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุนะ
.
#วิ่งไหนดี
#WingNaiDee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น