คะแนน 8 เต็ม 10
☺️บางแสน42 2019 งานวิ่งระยะมาราธอนที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 งานวิ่งที่เหล่านักวิ่งส่วนใหญ่กล่าวขานกันว่าจัดได้ดีเยี่ยม ดีถึงขนาดบางสำนัก บางเพจ ยกให้เป็นงานวิ่งมาราธอนที่ดีที่สุดในไทย แต่ทำไมแอดถึงหักคะแนนไป 2 คะแนน ต้องมาอ่านกัน
🤔วันงาน expo - วันรับบิบหรือวันงาน expo ของงานวิ่งบางแสน ไม่ว่าจะบางแสน42/21/10 จะขึ้นชื่อเรื่องความเนี้ยบ ไม่มีการรับบิบแทน มีการ scan หน้า เพื่อป้องกันการสวมบิบหรือการนำบิบคนอื่นมาวิ่งในงาน เรียกได้ว่ามาตรฐานในเรื่องนี้เป็นมาตรฐานระดับโลก
😎การรับบิบของงานนี้เปิดให้รับวันศุกร์-เสาร์ที่ผ่านมา วันศุกร์ก็เหตุการณ์ปกติไม่มีดราม่าใดๆ พอวันเสาร์ตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงเท่านั้นแหละ ความดราม่าก็ได้เกิดขึ้น เมื่อนักวิ่งในงานจำนวนมากจากนักวิ่งทั้งหมด 11,841 คน ไปรับบิบพร้อมๆกัน การต่อแถวเป็นงูกินหางขดไปขดมาหลายรอบจึงเกิดขึ้น แถวล้นออกมานอกอาคาร ซึ่งเป็นช่วยจังหวะที่แอดไปถึงพอดี การต่อแถวจนถึงจบขบวนการรับบิบใช้เวลาประมาณ 40 นาที แบ่งเป็นการต่อแถว 35 นาที การรับบิบ 5 นาที ซึ่งผู้จัดแก้ไขด้วยการตัดขั้นตอนสแกนหน้าออก ใช้การตรวจสอบบัตรประชาชนและ sms โค้ดรับบิบทดแทน เพื่อประหยัดเวลา
จุดตรงนี้แหละครับ ที่แอดและนักวิ่งส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้จัดผิดพลาดและประเมินสภานการณ์ผิด ด้วยจำนวนนักวิ่งที่มาก โดยเฉพาะนักวิ่งที่มาจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 10 โมงเช้า ถึงบางแสนประมาณเที่ยงเป็นต้นไป ยังไงการเป็นคอขวดต้องเกิดขึ้นแน่นนอน
วิธีแก้ไขที่แอดพอจะคิดออกและข้อเสนอผู้จัดมี 2 ทาง ซึ่งไม่ทราบว่าจะพอเป็นไปได้ไหม คือ
1.กำหนดเวลาช่วงเลขบิบในการรับบิบ เช่น หมายเลข 100-3000 รับได้ในวันเสาร์ เวลา 11.00น. เป็นต้น ซึ่งเข้าใจครับว่าลำบากกับเหล่านักวิ่ง แต่หากคุณคิดจะวิ่งรายการนี้ หากอยากวิ่งงานระดับมาตรฐานโลก ก็ต้องลงทุนบริหารจัดการเรื่องเวลาเช่นกัน ไม่ใช่รอให้แต่ผู้จัดจัดการให้
2.การย้ายสถานที่หรือเพิ่มจุดรับบิบ - ด้วยความที่มีนักวิ่งจำนวนหลักหมื่น การไปรับบิบในอาคารขนาดเล็กที่ปัจจุบันใช้อยู่ คงไม่เพียงพอแล้วแหละครับ ควรเพิ่มอีกสัก 1 อาคาร ให้มีรับบิบได้ 2 จุดไหม หรือควรเปลี่ยนที่ให้ใหญ่ขึ้น ที่พร้อมรับนักวิ่งพร้อมๆกันสัก 1-2 พันคนสำหรับต่อแถวไหม
🏃♂️วันงานวิ่งจริง ปล่อยตัวตี 3
ที่บิบของนักวิ่งทุกคนมีชื่อ แบ่งสี เขียนบล็อคชัดเจน การแบ่งบล็อคการเข้าบล็อคมั่วไม่มีปัญหาแน่นอน หากใครมาช้าเข้าบล็อคไม่ทัน ต้องไปอยู่บล็อคหลังสุด การปล่อยตัวตรงเวลาไม่มีปัญหา เส้นทางวิ่งตลอด 42.195 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นหลายแบบมีถนนลาดยาง (กิโลเมตรที่ 1-14) สะพานคอนกรีตในตำนานที่หลายๆคนกลัว (กิโลเมตรที่ 15-26) ถนนคอนกรีตทะลุหมู่บ้าน (กิโลเมตรที่ 27-31) อ่างศิลา (กิโลเมตรที่ 32-37) เขาสามมุก (กิโลเตรที่ 38-40) ถนนเลียบหาดเข้าเส้ยชัย ใน 2 กิโลเมตรสุดท้าย จุดให้น้ำ เกลือแร่ ผลไม้ ขนม เจลพลังงานทุกจุดมีของเหลือเฟือ น้องๆตามจุดน่ารักตะโกนเชียร์นักวิ่งตลอด เรียกได้ว่าทำงานกันได้ยอดเยี่ยมมาก ขนาดตอนกลับตัวมาแล้ว อยู่ถนนฝั่งตรงข้าม น้องๆยังตะโกนเชียร์ระหว่างเก็บของเลย น่ารักจริงๆ ห้องน้ำระหว่างเส้นทางก็มีมากมายเพียงพอกับจำนวนนักวิ่งมาก
พื้นถนนโดยรวมเป็นไปตามสภาพ ลาดยางบ้าง คอนกรีตบ้าง หากใครคิดจะไปวิ่งงานนี้บอกได้คำเดียวว่าให้ซ้อมวิ่งถนนคอนกรีตไว้ด้วยนะครับ มันสะท้านเท้า สะท้าน ITB อย่างรุนแรงและดูดแรงเราไปได้เยอะจริงๆ
ช่วงเข้าสะพานชลมารควิถีเป็นช่วงที่วิ่งยาวนานสมคำร่ำลือ แอดเห็นนักวิ่งระดับ Top 100 หลายท่านกลับตัวมาหน้าตาหมดแรง ท่าวิ่งดูอ่อนล้ามาก ก็รู้ได้เลยว่าสะพานนี้ไม่ธรรมดา
เมื่อผ่านจุดโหดแรกมา ก็จะมาเจอจุดวัดใจแถวอ่างศิลาที่มีถนนให้วิ่งขึ้นเนินซึมๆ จุดตรงนี้นักวิ่งก็เดินกันยับ แต่ยังเดินไม่เยอะเท่าเขาสามมุกในตำนาน จุดโหดที่สุดที่มาดักท้ายนักวิ่งที่อ่อนล้าอย่างรุนแรง กระทั่งนักวิ่งติด top100 ยังต้องลด pace ลงมาเกือบ 20 วินาที เพื่อไต่ขึ้นเขาสามมุก แล้วนักวิ่งแนวกลางแนวหลังจะเหลือหรอครับ เดินกันสนุกสนาน เดินไปก็หวาดระแวงลิงกันไป บันเทิงทรมานแท้ๆ
😢จุดด้อยที่สุดในสนามวิ่งคือ การให้รถดับเพลิงมาฉีดน้ำ ที่ด้อยเพราะว่าอะไรหรอครับ เพราะว่าไม่มีนักวิ่งคนไหนอยากรองเท้าเปียก การดับร้อนให้นักวิ่งมีหลายวิธี คนฉีดน้ำไม่มีความรู้เพียงพอที่จะมาฉีด คือคุณไม่จำเป็นต้องฉีดน้ำทั้งถนน อาจจะฉีดแค่ครึ่งถนนพอ แถมเมื่อคุณฉีดน้ำไปนานๆ น้ำก็ท่วมถนน นักวิ่งก็วิ่งลุยน้ำกันไป ปีหน้าอย่าทำแบบนี้เลยครับ แบบเป็นครึ่งถนนให้เป็นม่านน้ำจะดีกว่า
🏅เมื่อเข้าเส้ยชัยมา การบริหารจัดการหน้าเส้นเป็นไปอย่างดี อาหารการกินมากมาย แต่มีเพื่อนๆนักวิ่งติงว่าเมนูอาหารน้อยไปนิด จุดที่ควรแก้ไขอย่างมากคือ ICE BATH หรือจุดแช่น้ำแข็ง ซึ่งมีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอกับนักวิ่งหลักหมื่น แถมไม่ตรงตามแบบแพลนที่ได้เคยประกาศไว้ในเพจอีกด้วย เหมือนกับของจริงไม่ตรงปกนั่นเอง คือถ้าจะแบ่งแยกชายหญิง ก็ต้องชัดเจนกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องตำหนินักวิ่งชายที่ไปใช้ในส่วนของผู้หญิงด้วย
บทสรุปของงานบางแสน42 สำหรับแอดคือ เป็นงานวิ่งมาราธอนที่ถ้านักวิ่งซ้อมให้ถึงสนามนี้ก็จะตอบแทนคุณด้วยรางวัลที่เส้นชัย แต่ถ้าคุณอ่อนซ้อม มีแต่ใจมาวิ่ง ร่างกายไม่พร้อม การวิ่งของคุณก็จะจบไม่สวย ซึ่งจากนักวิ่ง 11841 คน มีสถิติออกมาว่า DNF ถึง 1854 คน เห็นไหมครับว่า 10 กว่าเปอร์เซนต์ที่ DNF ไม่ธรรมดาจริงๆ ขนาดปีนี้อากาศไม่เลวร้าย แดดมาไม่เร็ว (แดดเริ่มออกเวลา 07.21 น.)
คะแนน 8 เต็ม 10 ที่แอดให้ คือ หักคะแนนวัน expo ไป 1 คะแนน หักเรื่องฉีดน้ำไป 0.5 และเรื่อง ICE BATH ไม่ตรงปกไปอีก 0.5 คะแนน
ไม่ว่าอย่างไรจุดผิดพลาด 3 จุด ก็ไม่ได้ย่ำแย่จนให้อภัยไม่ได้ แอดเชื่อว่าปีหน้าบางแสน42 นักวิ่งจะเยอะกว่านี้ และมาตราฐานก็จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ นับเป็นสนามมาราธอนที่นักวิ่งไม่ควรพลาดจริงๆ
หากผิดพลาดประการใด หรือไม่เห็นด้วยประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
#runไปเรื่อยๆ #บางแสน42
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น