วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง หากเราแนะนำคนรอบข้างให้ออกกำลังกายโดย “การวิ่ง” ใครๆ ก็มองว่าเป็นกีฬาพื้นฐานที่ง่ายที่สุดของการออกกำลังกาย แต่เมื่อหลายคนได้ฝึกซ้อมวิ่งกันจริงๆ มันกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพบว่านักกีฬาส่วนใหญ่ที่เพิ่งเข้าสู่สนามวิ่ง มักเกิดอาการเหนื่อยล่า เหนื่อยหอบ กล้ามเนื้อแขนและกล้ามเนื้อขาอ่อนล้าจนหมดแรงในวันรุ่งขึ้น โดยสาเหตุเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากการที่เราขาดความรู้พื้นฐานของการวิ่งที่ถูกวิธี วันนี้เราเลยมีวิธีการวิ่งที่ถูกต้อง ที่จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายและลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกาย มาฝากทุกคนกันค่ะ
เรียนรู้การแกว่งแขนที่ถูกต้อง การแกว่งแขนขณะวิ่งนับเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดการบาดเจ็บของหัวไหล่ ทำให้เราวิ่งได้ในระยะที่ไกลมากขึ้น ลดความเหนื่อยล่าจากการวิ่ง โดยการการแกว่งแขนที่ถูกต้องจะเริ่มต้นฝึกได้จากการยืนกับที่และแกว่งแขนไปมา ไม่แกว่งหัวไหล่ไปพร้อมกับการแกว่งแขน แต่ปล่อยให้แขวนแกว่งไปเองตามธรรมชาตินั่นเอง
ลำตัวโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย การโน้มตัวไปข้างหน้านิดหน่อยในขณะวิ่ง จะเป็นวิธีการที่ช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น ช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหน้าอก ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เราเหนื่อยน้อยลงขณะที่วิ่งในสนาม และทำให้เราวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลมากขึ้นอีกด้วย
การลงเท้าที่ถูกต้อง เป็นวิธีการที่ช่วยลดการบาดเจ็บของเท้าและหัวเข่าได้อย่างดี เพราะหลายคนที่ลงจังหวะเท้าไม่ถูกต้อง จะเกิดการบาดเจ็บของหัวเข่า ทำให้ปวดหัวเข่ากันบ่อยๆ ขณะเริ่มต้นฝึกวิ่ง เราสามารถลดการบาดเจ็บดังกล่าวได้ด้วยการฝึกลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อนจะปล่อยน้ำหนักไปที่ปลายเท้า วิธีนี้จะช่วยลดการบาดเจ็บได้ดีทีเดียว
การรักษาระยะการก้าวเท้า หรือการรักษาความสม่ำเสมอของการก้าวเท้าในระหว่างการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการยกเท้าขึ้นหรือจังหวะการลงเท้า โดยการรักษาระยะก้าวที่เท่ากันจะช่วยทำให้เราเหนื่อยน้อยลง ลดการบาดเจ็บของเท้าและหัวเข่า ช่วยรักษาระดับการลงน้ำหนักการวิ่ง ลดโอกาสบาดเจ็บของปลายเท้าและส้นเท้าในจังหวะที่เท้าสัมผัสพื้นดิน
หายใจต้องถูกวิธี การหายใจที่ถูกต้องระหว่างการวิ่งจะช่วยลดการบาดเจ็บของอวัยวะภายใน ทำให้เราไม่เหนื่อยหอบได้ง่าย โดยในช่วงแรกที่เราฝึกวิ่งจะต้องฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ ฝึกผ่อนลมหายใจออกให้สุด เพื่อให้ร่างกายนำออกซิเจนไปเลี้ยงหัวใจและปอดอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายเหนื่อยน้อยลงและแข็งแรงขึ้นได้นั่นเอง
เมื่อรู้จักวิธีการวิ่งที่ถูกต้องแบบนี้กันแล้ว ยังไงทุกคนก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กับการวิ่งของตัวเองกันนะคะ ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยทำให้เรามีกำลังใจที่จะออกกำลังกายในทุกวัน ได้อย่างถูกวิธีนั่นเอง
ที่มา : http://www.vrunvride.com/ran-correctly-create-strength/?fbclid=IwAR0oNyrdghWHThm8B002UUyqAV28GA9bPCzNbbN8ub6Xpjl8zqDBz6VmZmE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น