สันหน้าแข้งอักเสบมักเกิดขึ้นหลังจากมีการบาดเจ็บสะสม ซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อกล้ามเนื้อ soleus ที่ตำแหน่งเกาะกับกระดูกหน้าแข้ง
การบาดเจ็บซ้ำ ๆ สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองของกล้ามเนื้อ posterior tibialis และการอักเสบของเยื่อหุ้มกระดูก (periosteum) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกระดูก tibia สันหน้าแข้งอักเสบมักเป็นผลมาจากการใช้งานเนื้อเยื่อเหล่านี้หนักเกินไปจากการทำกิจกรรมหนักหน่วงซ้ำ ๆ โดยไม่มีเวลาพักระหว่างกิจกรรมที่นานเพียงพอ
อะไรเป็นสาเหตุของสันหน้าแข้งอักเสบ ?
นักกีฬาส่วนใหญ่ที่มีอาการสันหน้าแข้งอักเสบมักอธิบายประวัติการออกกำลังกายที่มีการเพิ่มความหนักหรือระยะเวลาของกิจกรรมโดยไม่มีระยะเวลาพักที่เหมาะสมระหว่างการออกกำลังกาย
มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดสันหน้าแข้งอักเสบได้ สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดคือการบาดเจ็บซ้ำ ๆ ไม่ว่าจะต่อกล้ามเนื้อหรือกระดูกของขาส่วนล่างการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ (exertional compartment syndrome) มักสัมพันธ์กับการฝึกหนักเกินไปหรือการวิ่งบนพื้นแข็งมากเกินไป การใช้งานซ้ำ ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบวม และมีแรงดันต่อเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (fascia) ของขาส่วนล่าง ทำให้เกิดแรงกดและอาการเจ็บ
การบาดเจ็บของกระดูกขาส่วนล่างสามารถทำให้เกิดกระดูกหักล้า (stress fracture) ได้ การมีแรงกระทำต่อเนื่องต่อกระดูกขาอาจทำให้เกิดรอยแตกเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และกระดูก tibia และ fibula (กระดูกของขาส่วนล่าง) เกิดการหักได้ การพักเป็นสิ่งจำเป็นต่อการซ่อมแซมรอยแตกดังกล่าว แต่หากไม่มีระยะพักฟื้นเพียงพอ รอยแตกเหล่านี้จะขยายใหญ่ขึ้น และอาจหักได้ ผลคืออาการเจ็บปวดฉับพลันและการพักฟื้นระยะยาว
นักวิ่งมือใหม่มีความเสี่ยงต่ออาการสันหน้าแข้งอักเสบและกระดูกหักล้ามากกว่า เนื่องจากพวกเขายังไม่คุ้นชินกับการวิ่งที่มีแรงกระทำสูงต่อกล้ามเนื้อและข้อขาส่วนล่างและเท้า การวิ่งบนพื้นแข็ง (โดยเฉพาะหากสวมใส่รองเท้าที่เก่าขาดแล้ว) จะเพิ่มแรงกระทำต่อกล้ามเนื้อ ข้อ และกระดูก และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการสันหน้าแข้งอักเสบ การคว่ำเท้า (pronation) มากเกินไป หรือปัญหาทางด้านชีวกลศาสตร์ (biomechanics) อื่น ๆ ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดสันหน้าแข้งอักเสบได้เช่นกัน
สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของสันหน้าแข้งอักเสบ
- การยืดกล้ามเนื้อที่ไม่เหมาะสม
- การไม่อุ่นเครื่องก่อน
- ฝึกหนักเกินไป
- เพิ่มระยะวิ่งเร็วเกินไป
- วิ่งหรือกระโดดบนพื้นแข็ง
- กล้ามเนื้อขาส่วนหน้าและส่วนหลังไม่สมดุล
- รองเท้าเก่าเกินไปที่ประคับประคองเท้าได้ไม่เพียงพอ
- การวิ่งบนพื้นเอียง
- ปัญหาทางชีวกลศาสตร์อื่น ๆ
อาการของสันหน้าแข้งอักเสบ
- อาการเจ็บทางด้านใน (medial หรือ inside) ของขาส่วนล่าง
- อาการเจ็บมักแย่ลงเมื่อวิ่ง หรือออกกำลังกายที่ต้องลงน้ำหนัก
- อาการเจ็บเพิ่มขึ้นหลังวิ่งบนพื้นแข็ง
- อาการเจ็บปวดจะยังคงอยู่แม้ว่าจะหยุดทำกิจกรรมไปแล้ว
- อาการเจ็บเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมที่ทำ
- อาการเจ็บเพิ่มขึ้นเมื่อวิ่ง กระโดด ปีนเขา หรือวิ่งลงจากเขา
- กล้ามเนื้อน่องอาจตึงและไม่ยืดหยุ่น
การรักษาสันหน้าแข้งอักเสบ
การพักเป็นการรักษาที่ดีที่สุดหากสันหน้าแข้งอักเสบ สำหรับการบรรเทาอาการอย่างรวดเร็ว ให้ใช้หลักการ R.I.C.E เพื่อควบคุมอาการปวดและการอักเสบ การกลับไปทำกิจกรรมต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยกิจกรรมที่ไม่ลงน้ำหนัก (ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ) เป็นการออกกำลังกายจนกว่าจะไม่มีอาการเจ็บปวดอีก
- การเสริมสร้างความแข็งแรงและการยืดกล้ามเนื้อจะช่วยได้ การทำกายภาพบำบัดสำหรับการบาดเจ็บของข้อเท้าก็สามารถใช้กับการบำบัดอาการสันหน้าแข้งอักเสบได้เช่นกัน
- พันผ้ารอบหน้าแข้งเพื่อลดแรงกระทำ
- สวมรองเท้าที่เหมาะสม
- เปลี่ยนรองเท้าเมื่อจำเป็น
การกลับไปทำกิจกรรมต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป มิฉะนั้นคุณจะมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บซ้ำ เปลี่ยนกิจวัตรของคุณ ลดเวลาการออกกำลังกายและความหนัก เพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกไม่สบายระหว่างและหลังการออกกำลังกายอีก หากอาการเจ็บหน้าแข้งของคุณยังเป็นอยู่หลังจากสามสัปดาห์ คุณควรจะไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่เหมาะสม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.honestdocs.co
#TeamBeyond #GoTogether
ที่มา : http://www.teambeyondsport.com/shin-splints-cureandcourse/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น