.
💪ลุงนิกร เหมทานนท์ ปีนี้อายุ 67 ปีแล้ว พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เข้ามาอยู่กรุงเทพกับลูกสาว คุณลุงนิกรมีรูปร่างเล็ก แต่ร่างกายของคุณลุงนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ บ่งบอกชัดว่าเป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอต่อเนื่องไม่มีขาด พวกเราอาจคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะคุณลุงลงวิ่งแทบทุกสนาม
.
📍#จุดเริ่มต้นในการวิ่ง
ต้องย้อนกลับไปในปี 2546 ตอนนั้นคุณลุงอายุ 51 ปี เป็นโรคหอบหืด ภูมแพ้ มักมีอาการหายใจไม่ออก ต้องใช้ยาพ่นติดตัวอยู่ตลอด หมอแนะนำให้ลุงออกกำลังกายด้วยการเดิน คุณลุงทำตามอย่างเคร่งครัด เดินไปได้เป็นปีค่ะ วันหนึ่งเจอเด็กวัยรุ่นที่ออกมาวิ่ง ถามคุณลุงแกมชวนให้ลุงลองวิ่งดูบ้าง ลุงนิกรนึกอยากลองดู ครั้งแรกวิ่งได้ 200 เมตรสลับเดิน แต่นานๆเข้า เริ่มวิ่งเก่ง และอึดมากขึ้น จนกลายเป็นวิ่งวันละ 1 ชั่วโมง และเป็นที่มาของการลงงานวิ่งครั้งแรกในปี 2547 ก็ได้ที่ 6 ของรุ่นมาเลยค่ะ
.
📍#16ปีแห่งความหวัง
ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ลุงนิกรยังไม่เคยหยุดวิ่ง ซ้อมวิ่งในหมู่บ้านทุกๆวัน ลงงานวิ่งตลอด จากระยะฟันรัน มินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และระยะมาราธอน ซึ่งติด 1 ใน 5 ทุกสนามทั่วประเทศ เช่น จอมบึงมินิมาราธอนมาราธอนคุณลุงก็เคยได้ที่ 1 ของรุ่นนะคะ เรียกได้ว่าถ้วยรางวัลนั้นล้นบ้านเลยละค่ะ
.
📍#อายุปูนนี้แต่ขาแรงไม่เบา
วิ่ง 10k ไม่เกิน 48 นาที
วิ่ง 21k ไม่เกิน 1.45 ชั่วโมง
วิ่ง 42k ไม่เกิน 3.50 ชั่วโมง
เป็นเวลาการวิ่งของลุงวัย 67 ปี และคุณลุงบอกจะรักษาระยะนี้ต่อไปเรื่อยๆ (แอดนี่อายเลยค่ะ)
.
📍#สนามวิ่งสุดภาคภูมิใจ
นั่นก็คือ งานวิ่งเขาชะโงก-ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน คุณลุงบอกว่าชอบสนามนี้มากๆ เพราะบรรยากาศดี ที่สำคัญคุณลุงคว้ารางวัลที่ 3 ในระยะ 32K ได้ในปี 2562 และได้รางวัลที่ 5 ระยะ 16Kในปี2560 ค่ะ ทำให้ได้รับถ้วยพระราชทาน พลเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถึง 2 ครั้ง สร้างความปลื้มปิติ และภาคภูมิใจให้กับคุณลุงนิกรเป็นอย่างมาก
.
📍#วิ่งได้ขนาดนี้ซ้อมมาขนาดไหน
จากการวิ่งเรื่อยๆมาจนชิน สู่การเป็นครูพักลักจำในสนามวิ่ง คุณลุงบอกว่าเวลาไปลงสนามวิ่ง จะสังเกตนักวิ่งเก่งๆ แนวหน้าของไทย หรือนักวิ่งอีลิท นักวิ่งเคนยา ว่าเขาวิ่งอย่างไร ทั้งการวางเท้า การแกว่งแขน จะได้เห็นก็ตอนพวกนักวิ่งเก่งๆกลับตัวสวนทางกับลุง หลังจากนั้นก็เริ่มศึกษาการวิ่งผ่านทางยูทูปต่างๆ ทำให้รู้มากขึ้นว่าจะวิ่งให้เร็วต้องวางเท้าอย่างไร วิ่งอย่างไรให้ลดอาการบาดเจ็บ จนปัจจุบันนี้คุณลุงนิกรวิ่งมาราธอนเสร็จก็เดินได้สบายๆ ไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ ส่วนตารางการวิ่งของลุง ก็จะซ้อมวิ่งในตอนเช้ามืด วันแรก 10k ถัดมา 16k และ 20k แบบนี้ วนไปเรื่อยๆค่ะ แต่ถ้าจะลงระยะมาราธอน จะวิ่งวันละ 20k เลย แต่ช่วงนี้โควิดแบบนี้ก็ต้องงดวิ่งข้างนอก หันมาออกกำลังกายในบ้านก่อนค่ะ
.
📍#เป้าหมายยิ่งใหญ่วิ่งถึงอายุ100ปี
ลุงนิกรจุดเริ่มต้นวิ่งสู้กับโรคภัย จนโรคภัยหายหมด ก็ไม่ยอมหยุดวิ่งเพราะมีความสุข สู่การเป็นนักวิ่งกวาดถ้วยรางวัล และเป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม คือ การวิ่งจนอายุ 100 ปี และต้องวิ่งได้ในระยะ 10K ด้วยการดูแลสุขภาพของตัวเองจากการออกกำลังกายนี่แหละ ออกให้พอเหมาะพอควรกับอายุ ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ มีความสุขกับครอบครัว ลุงนิกรบอกว่าทุกการวิ่งที่เคยฝันไว้สำเร็จหมดแล้ว ก็เหลือความฝันที่ใหญ่นี่แหละ #100ปีกับ10K ต้องทำมันให้ได้
.
📍#16ปีที่วิ่งเปลี่ยนชีวิตอย่างไร
แน่นอนว่าชีวิตดีขึ้นอย่างมาก ทั้งโรคภัยที่เคยเป็นก็หายไปหมด การวิ่งสร้างสมาธิ ทำให้ใจเย็น มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตเช่น ต้องตื่นเช้า นอนแต่หัวค่ำ ชีวิตมีความสุข เลี้ยงหลานไปด้วยก็วิ่งไปด้วย และการวิ่งเหมือนการได้ไปเที่ยว เพราะทุกครั้งที่ออกงานวิ่งต่างจังหวัด ลุงนิกรจะแบกเป้ แบกเต้นไปกางทุกสนามวิ่ง ไม่เคยขับรถยนต์หรือติดรถใครไป ใช้ชีวิตราวกับหนุ่มสาวแบกเป้ไปเที่ยวเลยค่ะ
.
😍🙆♂️นี่แหละความฝัน ความสุข ของลุงวัย 67 ปี
.
ฟังคุณลุงเล่าแค่นี้ก็มีความสุขล้นแล้วค่ะ
THAIRUN ขอเป็นกำลังใจให้ลุงนิกร วิ่งตามฝันให้สำเร็จนะคะ
และอยากให้เรื่องราวของคุณลุงเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆนักวิ่ง สู้กันต่อไปค่ะ🤟🥰
.
#THAIRUN | ฮับความสุขนักวิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น