29 พฤษภาคม 2565 เป็นตะคริวอาการหนักครั้งแรกในชีวิตการวิ่ง แต่มันดันมาเป็นในวันแข่ง เหมือนสัญชัย นามเขตว่า "มาราธอนอะไรก็เกิดขึ้นได้"
มาดู time line กันก่อนครับ
- 17.00 น. เริ่มนอน
- 0.00 น. ตื่นนอน
- 2.00 น. วอร์มอัพ
- 3.00 น. ปล่อยตัว
- 4.00 น. วิ่งตาม Pacer 4.00
เร็วไปจนเท้าลอย - 5.00 น. เป็น กม.ที่ 21 ยังคงวิ่งตาม Pacer 4.00
- 5.30 น. เริ่มโดน Pacer 4.00 ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ พร้อมกับวิ่งหลงทางไป 1.5k
- 5.46 น. พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนปุณณกัณฑ์ แถวหน้า มอ. โดน Pace 4.30 แซง ตรงนี้วิ่งมาได้ 26k (อ้างอิงจาก Pace 4.30 เขาบอกเหลืออีก 16k คือเขาใช้เวลาวิ่งไปแล้ว 2hr 46min) ความเร็วเราตกลงเรื่อยๆ
- 6.00 น. ผ่านรั้ว มอ.แล้ว เส้นทางเริ่มขึ้นเนิน ไต่ขึ้นลง มีอาการกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายด้านในกระตุก มันเตือนภัยล่ะแต่ยังไม่รู้เรื่อง สักพักต้นขาขวากระตุกอีกก็ฝืนวิ่งต่อไป
- 6.10 น. ก่อนขึ้นเนินมนัส ตะคริวก็เป็นหนักจนต้องนั่ง เพื่อนนักวิ่งผ่านมาก็ถามไถ่อาการ คนที่มีสเปร์ก็ฉีดให้ คนที่มียานวดก็แบ่งให้ จนมาเจอคนหนึ่งเขาเก่งยืดเหยียดเป็น ดึงมือให้เราลุกขึ้นได้แล้วค่อยๆเดินต่อไป
- 7.30 น. เริ่มกลับมาจ็อกได้อีก 3k ตรงวัดพรุเตาะถึงปากทางถนนใหญ่ถนนกาญจนวานิช
- 8.00 น. เดินยาวๆ ครับ พอยกขาขึ้นจะจ็อกตะคริวก็จะขึ้นที่น่องขวาตลอด
- 8.19 น. เข้าเส้นชัย ทำเวลาไป 5.19 นาที ที่หน้าเส้นชัยเจอคนที่ช่วยเรายืดเหยียดอีกครั้งก็ขอบคุณเขาอีกครั้ง เขาก็ยกนิ้วโป้งให้ น่าจะความหมายถึงยกย่องเราว่าพยามยามจนเข้าเส้นชัยได้ ไม่ต้องขึ้นรถกู้ภัย
- สรุปว่านับตั้งแต่ลงนั่งจนเข้าเส้นช้ยกับระยะทาง 15k ใช้เวลาไป 2hr 55min มันเยอะกว่าเวลาที่วิ่งตอนแรก 26k ซ่ะอีก
- 10.00 น. ลงรถสองแถวตรงปากทางถนนราษฎร์ยินดี เริ่มเดินอีกกลับโรงแรม Sakura Budget ระยะทาง 1.7k
- 10.20 น.ถึงโรงแรมคือเดิน 20 นาที
- เจ็บปวดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน, น่องและ ข้อเท้าทั้งสองข้าง ข้างขวาเยอะกว่าข้างซ้าย
- ไม่ปวดเคล็ด ขัดยอกช่วงบน, แกนกลางและหัวไหล่
- ยังแข็งแรงดี ไม่หมดสภาพ แค่ทะเลาะกับบันได
- รองเท้าคู่นี้ใช้วิ่งมาราธอนได้ เจ็บเล็บนิ้วเดียวเท่านั้นขนาดใส่ 5 ชม.กว่า แต่แอบปาดพื้นรองเท้าส่วนนิ้วเท้าให้บางลง
- ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นตะคริวแล้วมีอาการแบบนี้ เป็นแล้วเสียเวลาเยอะมาก คงจะเดิน ยืดเหยียดให้นาน แล้วค่อยจ็อกต่อไป
- ซ้อมวิ่งครั้งใหม่ยังคงใช้รูปแบบเดิมได้ เพิ่มเติมการวิ่ง B2B เท่านั้น
- เวทเทรนนิ่งต้นขากับน่องให้หนัก โหนบาร์ ชิตอัทเหมือนเดิม
- กินกล้วยหอมด้วย ดูคิปโชเก้เป็นตัวอย่าง
- การวิ่งแข่งครั้งต่อไปต้องไม่ประมาทกับมาราธอนอีกแล้ว
- น้ำเกลือแร่ตามจุดบริการดีมาก เราแอบกินอินทผลัมไปกว่า 10 ลูก
- อาหารหลังจากแข่งเสร็จก็ดีมาก มีกินเหลือเฟือ ทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ น้ำเต้าหู กาแฟ เครื่องดื่มน้ำเกลือแร่ แถมคูปองอีก 2 ใบให้ไปแลกข้าวกล่องมื้อเที่ยงกับเย็น
- สถานที่จัดงานกว้างขวาง ไม่แออัด ระยะทางห่างจากใจกลางเมือง 4k ถือว่ากำลังดี
- เส้นทางวิ่งไม่ยาก ถนนลาดยางมะตอย มีทั้งวิ่งในเมือง วิ่งชมวิว อากาศดี
- มีรถรับส่งนักวิ่ง
- ปิดถนนไม่ 100% แต่ก็จัดการจราจรได้ดีปลอดภัย จนท.ส่วนนี้เพียงพอ
- เหรียญรางวัลสวย เสื้อพอใช้ได้
- ไม่มีหลักกม. ทำให้ไม่รู้ว่าวิ่งมาถึงไหนแล้ว
- ตรงจุดเลี้ยวสำคัญ ป้ายบอกทางไม่ชัดเจนและไม่มีจนท.บอกทาง
- แสงสว่างไม่พอช่วงจะไป U-turn ตรงศูนย์ Totota กอรปกับแถวนั้นถนนเป็นหลุดเยอะ
- ไม่มีจนท.ช่วยเหลือประจำจุดอันตรายและไม่เห็นจนท.ช่วยเหลือลาดตะเวน
- ได้เจอคุณสุคนธ์ ท่านอายุ 78 ปีแล้ว เริ่มวิ่งตอนเกษีณอายุราชการ ตั้งแต่ 2547 ถึงปัจจุบันก็ 18 ปี ได้เหรียญรางวัล 132 อัน ถ้วยรางวัลเยอะมาก มางานนี้ท่านทำเวลา 5hr 9 min เราเดินทางมาถึงไฟต์เดียว นั่งสองแถวไปรับบิบด้วยกัน ทานอาหารร่วมกัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวการวิ่ง
- แอบส่องนักวิ่งกางเกงสีเหลือง เสื้อสีส้ม ปลอกแขนหมวกสีเขียว ท่านนี้รุ่น 55-59 ออกสตาร์ทพร้อมกัน ฟอร์มวิ่งสวยงามไหลเรื่อยมาก เรียกว่าวิ่งแบบประหยัดแรง ท่านจบที่ 4hr 18min