การวิ่งระยะไกล ไม่เหมือนการวิ่งระยะสั้น พวกเราเข้าเส้นห่างๆกัน เพราะระยะที่มันไกลนี่เองทำให้มันเป็นเช่นนี้
.
แต่มีบางกรณีเหมือนกัน ต่างคนต่างมากันตั้งยี่สิบโลแล้ว เหลือระยะทางเพียงโลเดียว แถมเป็นรุ่นและวัยเดียวกันด้วย อยู่ในวิสัยอันดับทั้งคู่ โดยเฉพาะชิงป้ายอันดับสุดท้าย
.
อย่างนี้ต้องแลกหมัด
.
ในช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นกับคู่ประกบคนสุดท้าย การใช้กำลังงาน อยู่ในช่วงก็อกที่สองกันแล้ว พื้นที่รอบๆไม่เหลือใคร มีกันแต่สองคน
.
ยิ่งเป็นแนวหน้าเท่าใด ช่วงสุดท้ายนี้ยิ่งจะเริ่มซดกันยาวไกลมากขึ้น จะสบัดหลุดกันก็ตรงนี้เอง ยิ่งแนวไม่หน้ามากเท่าไร ระยะสลัดนี้จะยิ่งสั้นลงไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะไม่สลัด แต่เพราะแต่ละคนไม่มีแรงสลัดใดๆเหลือแล้ว
.
บางรายสลัดกันที่ 400 เมตรสุดท้าย บางรายที่ 200 บางรายได้แค่ 50 เมตร บางรายไม่ได้เลย ตื้อ วิ่งไม่ออก ได้แค่ไหนแค่นั้น ระดับแชม์โลก เขาเริ่มสลัดกันตั้งแต่ก่อนเข้าพรมแดงกัน 2-3 โลนั่นเทียว
.
เขาเอาพลังมาจากไหน จากการฝึกครับ ฝึกอย่างไร จะแตกต่างกันไปแต่ละโค้ช แต่ไม่ใช่ประเด็นในวันนี้
.
ต่อกรณีนี้ สำหรับนักแข่ง ให้จำหลักไว้เพียงว่า อย่าเพิ่งรีบแซง ถ้าแซงต้องแซงให้ขาด ไม่ขาดอย่าแซง นักแข่งจำนวนมากจะมาสลัดให้หลุดจากกันได้ในไม่กี่สิบเมตรสุดท้ายเท่านั้น
.
ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ Mental สำคัญกว่า Physical กว่าจะมาถึงตรงนี้ ทั้งคู่ประกบกันมาเป็นสิบโลแล้ว มาแลกหมัดกันหน้าเส้นนี่เอง
.
เมื่อก็อกที่สองก็หมดแล้ว เหลืออยู่แค่ "ยอม" กำลังถอดใจ ปล่อยก็ปล่อย ฉันกำลังจะขาดใจแล้ว
.
ใครที่กำลังคิดแบบนี้ ห้ามคิดเป็นอันขาด เพราะประสบการณ์ครั้งหนึ่งของผู้เขียนเองเคยดำริที่จะ "ปล่อย" แบบนี้เหมือนกัน แต่เดชะบุญ นายคู่ประกบเราเขาถอดใจก่อนเราวินาทีเดียว อย่างฉับพลันที่กระพริบตา หมัดน็อกก็เข้าเป้า
.
เราที่กำลังจะถอดใจ ไปต่ออีกนิด แต่เร็วขึ้นไม่ได้แล้ว เพียงแต่ไม่ตก ตีคู่เสมอเท่านั้นเอง อย่าถามว่าทรมานไหม สุดๆเลยลูกเอ๋ย และแล้วเกมส์ก็พลิกเมื่อมีบางคนถอดใจ
.
จำไว้ว่า สิ่งที่เรารู้สึกในอกในกล้ามเนื้อ คือของความรู้สึกเราเท่านั้น แต่เราหารู้ไม่ว่า ในอกของคู่ประกบ เขาก็กำลังจะถอดใจเหมือนกัน เราไม่รู้ ติ้ดต่างว่าเกมส์พลิกออกมาว่า เราถอดใจก่อนเขาเพียง 1 วินาที สถานะมีชัยจะเป็นของเขาทันที กำลังจะถอดใจพร้อมกันนั่นแหละ ฝ่ายที่เพลี้ยงพล้ำคือ คนที่ถอดใจก่อนกัน วินาทีเดียวแท้ๆ
.
รักจะเดินสายแข่ง ห้ามถอดใจ ถอดไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่เข้าหลังเส้น
.
ตรงนี้ต่างหากที่เป็นที่มาแห่งคำว่า "อยู่ที่ใจ" ที่ถูกต้อง เด็กสมัยนี้กลับใช้คิดว่า เจ็บแล้วไม่หยุดซ้อม อยู่ที่ใจ เอาใจเอาวินัยเข้าแลก เป็นลัทธิแก้โดยแท้
.
นักแข่งแต่ละคนมีวิธีคิดและวิธีปลุกกำลังใจไม่เหมือนกัน คือจะคิดอย่างไรก็ได้ ที่ทำให้ตัวเองมีพลังไปต่อข้างหน้า ในความเร็วที่เข้มข้นเดิมๆด้วย ค่าที่ว่าที่มาได้ตลอดทั้งเส้นทางนั้น ในส่วนของร่างกายก็เท่าๆไล่เลี่ยกัน ทีนี้ก็เหลือที่ใจแล้ว
.
จำไว้ว่าอดทนต่อไปในไม่กี่นาทีข้างหน้า ผลลัพธ์ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน เราจะพึงใจมันตลอดไป
.
ทุกครั้งที่กลับไปดูเหรียญอันนี้ในอนาคต ทุกครั้งที่เช็ดถูทำความสะอาด ต่อมความทรงจำจะ Recall ถึงการได้มันมาครั้งนั้นอย่างไร และชัยชนะจะอยู่กับเราตลอดไป มันคุ้มค่าครับ
.
ติ้ดต่างว่าแพ้.....ความคำนึงถึงเหรียญหนือถ้วยครั้งนี้ ความทรงจำที่เหลื่อมกันแค่ไม่กี่วินาที มันกลับเต้นระริก ขึ้นมาอีกทุกครั้งที่ลูบคลำ ยังให้เราก็ภาคภูมิอยู่ดี หาน้อยเนื้อต่ำใจใดๆไม่ เราทำได้สุดสามารถแล้ว
.
จดไว้หัวนอนเลย
Pain is temporary
but Pride is forever.
.
เพราะประโยคนี้แท้ๆ ที่ทำให้ผมทะลวงมาจนถึงวันนี้ได้
.
สำหรับใครคิดอย่างไรผมไม่ทราบ แต่สำหรับตัวเอง ถนัดคิดว่า แม้ศึกครั้งนี้อาจแพ้พ่าย แต่ขอให้คนที่ชนะเรา ต้องหนีเราจนปากเขียว หืดขึ้นคอเลย แม้จะแพ้ แต่ขอให้เป็นวินาทีที่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่เป็นกลวิธีคิดของตัวเองที่เรียกพลังก็อกที่สามออกมา ผมชนะได้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วด้วยวิธีคิดเช่นนี้
.
แม้จะแพ้แน่แล้ว แต่ขอกัดไม่ปล่อย ตราบใดที่ไม่เข้าเส้น อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เขานำอยู่ดีๆ ตะคิวขึ้นหน้าตาเฉย ความเร็วเขาตกวูบหน้าเส้นไม่กี่เมตรเท่านั้น
.
ถ้าเรากลับถอดใจไปก่อนระยะห่างก็ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนแม้ตะคิวของเขาที่มาช่วยเรา ก็ไม่อาจตามทัน
.
.
(ยังมีต่อในช่องความเห็น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น