ss-เขียนเอง

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน Advanced 1

เป็นโปรแกรมการซ้อมวิ่งจากโค้ชฮาล นักวิ่งผู้มีประสบการณ์ยาวนานและเขียนหนังสือวิ่งมาแล้วหลายเล่ม โปรแกรมAdvanced 1 จะค่อยๆมีการเพิ่มระยะทางในการซ้อมเหมือนกับโปรแกรม Novice และ Intermediate แต่จะมีระยะทางการซ้อมวิ่งระยะไกลเริ่มต้นจาก 16 กม. ไปจนถึง 32 กม. และมีการซ้อมวิ่งโดยใช้ Racepace มากกว่า จะมีวันซ้อมวิ่งแบบ Speedwork แค่หนึ่งวัน (ต่างจากโปรแกรม Advanced 2 ซึ่งมีสองวัน)


คำพูดของโค้ชฮาลถึงโปรแกรมการซ้อมวิ่งนี้

โค้ชได้เตือนว่า ในวันวิ่งระยะไกลห้ามใช้ Racepace เด็ดขาด ให้วิ่งแบบ Easy ไปเลย เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะกับการซ้อมแบบ Speedwork ในวันพฤหัส การซ้อมที่มากเกินไปจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการวิ่งอย่างแน่นอน


การซ้อมแบบ Speed sessions จะเป็นการซ้อมวิ่งขึ้นเนิน , วิ่งเทมโปและ Intervals ซึ่งจะมีการอธิบายรายละเอียดวิธีซ้อมในข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้ แต่ถ้าใครรู้ตัวว่าซ้อม Speedwork ไม่ไหวก็ให้ไปใช้โปรแกรม Intermediate 1 และ 2 ได้ เพราะโปรแกรมการวิ่ง Advanced มันยากมาก และนักวิ่งที่คิดว่าตัวเองอยู่ในระดับ Advanced ก็มีอยู่ไม่มากเช่นกัน

 

และโค้ชยืนยันว่าไม่ว่าเพื่อนๆจะทำเวลาในการวิ่งมาราธอนได้มากน้อยเท่าไหร่ , มีเพศอะไร มีอายุมาน้อยแค่ไหน ก็มีสิทธิที่จะซ้อมแบบ Advance ได้ทั้งนั้น แต่สำหรับผู้ที่พึ่งจะวิ่งมาราธอนครั้งแรกในชีวิต ขอแนะนำให้ไปใช้โปรแกรมการซ้อมง่ายๆอย่าง Novice 2  ก่อน สามารถค้นหาได้ในเว็บไซต์ของเราเลย


วันวิ่งระยะไกล

กุญแจหลักในการซ้อมวิ่งมาราธอนคือการวิ่งระยะไกลในวันอาทิตย์ โดยจะเริ่มจาก 16 กม.ไปจนถึง 32 กม. (ซึ่งมีอยู่สามครั้งในสัปดาห์ที่ 11,13,15) แม้ว่านักวิ่งที่มีประสบการณ์บางคนจะวิ่งได้ไกลกว่านั้น แต่โค้ชฮาลมองไม่เห็นว่ามันจะทำให้มีข้อได้เปรียบอะไรขึ้นมา เพราะว่าเขาลองมาเองแล้วและก็ทำให้เหนื่อยมากขึ้นด้วย เก็บแรงเอาไว้ซ้อมวิ่งแบบเน้นคุณภาพตลอดทั้งสัปดาห์ดีกว่า และก็เราสามารถหยุดซ้อมได้บางวันหรือจะสลับวันบ้างก็ได้ แต่ห้ามงดวิ่งระยะไกล การวิ่งระยะไกลจะมีระยะทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทุกสัปดาห์ที่สามจะมีการลดระยะทางลงเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว การพักนั้นเป็นสิ่งสำคัญในทุกโปรแกรมการซ้อม


วิ่งให้ช้า

เพื่อนๆบางคนคงคิดอยากจะใช้ความเร็วให้เต็มที่ อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด!! โดยปกติแล้วโค้ชฮาลจะแนะนำให้วิ่งช้ากว่า Racepace ประมาณ 30-90 วินาที/1.6 กม. (1 ไมล์) นี่มันสำคัญมากโดยเฉพาะกับนักวิ่งระดับสูงที่มีการซ้อมแบบ Speedwork รวมอยู่ด้วย โค้ชบอกว่าไม่ว่าเราจะวิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่ หากเราวิ่งได้ 90-120 นาที รับรองว่าได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีแน่ เราจะได้เผาผลาญแคลอรี่และสอนให้กล้ามเนื้อรู้จักสงวนพลังงาน การวิ่งเร็วเกินจะทำให้กล้ามเนื้อฉีกโดยไม่จำเป็น เก็บการวิ่งเร็วไว้ใช้ในวันลงแข่งจริงเถอะ ดังนั้นในวันซ้อมวิ่งระยะไกลให้เราวิ่งแบบสบายๆในระดับที่สามารถวิ่งไปพูดคุยไปได้


การวิ่งแบบ 3/1 Training

คือการแบ่งระยะทางการวิ่งเป็น 4 ส่วน โดยสามส่วนแรกเราจะวิ่งแบบ Easy และส่วนสุดท้ายให้ใช้เพซที่เร็วกว่าเดิมแต่ยังไม่เร็วเท่ากับ Racepace  การวิ่งแบบ 3/1 Training นั้นมีไว้สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์มากแล้วเท่านั้น และถ้าอยากจะเอาการวิ่งรูปแบบนี้มาใช้ก็ให้ใช้ได้ 1 ครั้งต่อสามสัปดาห์เท่านั้น เช่นในสัปดาห์แรกวิ่งแบบ Easy , สัปดาห์ที่สองวิ่งแบบ 3/1 และสัปดาห์สุดท้ายจะมีการลดระยะทางเพื่อฟื้นตัว อย่าวิ่งเร็วในวันฝึกวิ่งระยะไกลสิ่งสำคัญอยู่ที่ระยะทางส่วนเรื่องความเร็วนั้นไม่ต้องไปใส่ใจ


การฝึกวิ่งขึ้นเนิน

แม้ว่าเส้นทางวิ่งมาราธอนมันจะเป็นเส้นทางราบเรียบ แต่การฝึกวิ่งขึ้นเนินสามารถทำให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงขึ้น และการวิ่งขึ้นเนินยังมีแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่งบนพื้นราบเรียบอีกด้วย ถ้าหากเส้นทางในการวิ่งมาราธอนของเพื่อนๆมีเส้นทางขึ้นเนินด้วยก็ควรซ้อมวิ่งขึ้นเนินให้มากกว่าเดิมสัก 6 รอบขึ้นไป


ความเร็วที่ได้รับจากการซ้อมวิ่งขึ้นเนินจะไม่ต่างจากที่ได้มาจากการซ้อม Intervals ในสนามกีฬาเลย นักกีฬาโอลิมปิกชื่อ Frank Shorter เคยกล่าวไว้ว่าการฝึกวิ่งขึ้นเนินมันก็เหมือนกับการฝึกวิ่งแบบ Intervals  ให้เราเลือกเนินที่มีความยาวสัก 400 เมตร และวิ่งขึ้นไปอย่างสุดกำลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับลงมา และวิ่งกลับขึ้นใหม่จนกว่าจะจบการฝึก

 

ถ้าหากเพื่อนๆมีแผนจะเข้าร่วมการวิ่งมาราธอนที่มีเส้นทางลงเนินมากว่าขึ้นเนินเช่น “บอสตันมาราธอน” ล่ะก็ , ให้ซ้อมวิ่งลงเนินด้วย ซ้อมในปริมาณมากพอกันไปเลย มันจะช่วยฝึกกล้ามเนื้อให้เคยชินกับแรงกระแทกตอนวิ่งลงเนิน แต่อย่าซ้อมหนักเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นได้รับบาดเจ็บ ในตอนที่โค้ชไปวิ่งบอสตันมาราธอนเขา ซ้อมวิ่งขึ้นเนินและลงเนินในอัตราส่วน 2/1 และสำหรับผู้เริ่มต้นก็ควรใช้ 3/1


Interval Training

สำหรับการฝึกเพื่อวิ่งมาราธอนการฝึกวิ่ง (800 เมตร ,1600 เมตร , หรือไกลกว่านั้น) แบบซ้ำๆมันได้ผลมากกว่าการวิ่งในระยะทาง 200,400 เมตร โค้ชฮาลจึงได้เอาระยะทาง 800 เมตรมาใช้ในโปรแกรมการซ้อมนี้ ให้เราใช้เพซที่มีความเร็วมากกว่า เพซในการวิ่งมาราธอน และในการวิ่งแต่ละรอบให้เราพักด้วยการจ็อกกิ้งหรือเดิน 400 เมตร


Bart Yasso จากนิตยสารรันเนอร์เวิร์ลแนะนำว่า ถ้าเราวิ่งมาราธอนโดยใช้เวลา 3 ชั่วโมงก็ให้เราซ้อมวิ่ง 800 เมตรให้ได้ภายใน 3 นาที ถ้าใช้เวลาวิ่งมาราธอน 3:10 ชั่วโมงก็ให้วิ่ง 800 เมตรให้ได้ภายใน 3:10 นาทีเป็นต้น แต่ถึงแม้เราจะสามารถวิ่ง 800 เมตร 10 รอบได้ภายใน 3:10 ชั่วโมงก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะวิ่งมาราธอนได้



Designed by Freepik


การวิ่งเทมโป

จะเป็นการเพิ่มความเร็วในการวิ่งเรื่อยๆให้ใกล้เคียงกับเพซ 10k  โค้ช Jack Daniels ได้อธิบายเรื่องเพซสูงสุดในการวิ่งเทมโป ถ้าหากเป็นการวิ่งในเส้นทางราบเรียบว่ามันค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่งเทมโปนาน 45 นาที แต่เราจะเร่งความเร็วไปเกือบสูงสุดเมื่อผ่านไปแล้ว 3-6 นาทีในระหว่างการวิ่ง


ในโปรแกรม Advanced 1 จะมีการวิ่งเทมโปในวันพฤหัสทุกรอบสามสัปดาห์ โดยเราจะซ้อมกัน 30-40 นาที ในช่วง 10-15 นาทีแรกให้วิ่งแบบ Easy จากนั้นในช่วงกลางการซ้อม 10-20 นาทีถัดมาให้เพิ่มความเร็วสูงสุด และปิดท้ายการซ้อมด้วยการวิ่งแบบ Easy อีก 50-10 นาที


เราจะใช้วิธีค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆไม่ใช่อยู่ดีๆก็วิ่งเร็วทันที เราจะใช้ความเร็วสูงสุดแค่ 2/3 เท่านั้นและใช้ความเร็วระดับนี้นานไม่กี่นาที เราสามารถฝึกวิ่งเทมโปที่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นถนน , การวิ่งเทรลหรือในลู่วิ่งสนามกีฬา การวิ่งเทมโปจะต้องไม่สร้างความรู้สึกเหนื่อยล้า เมื่อซ้อมเสร็จแล้วเราควรจะยังรู้สึกสบายอยู่ ดังนั้นอย่าเพิ่มความเร็วมากหรือนานจนเกินไป และจะให้ดีควรวิ่งคนเดียวถ้าวิ่งกับคนอื่นก็จะทำให้เราต้องใช้เพซเดียวกับเขาอีก ไม่ว่าเราจะวิ่งเร็วเกินหรือช้าเกินไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้น


Race Pace

ส่วนใหญ่ในวันเสาร์เราจะมีการซ้อมวิ่งโดยใช้ Race Pace (จะเขียนบอกไว้ว่าสัปดาห์ไหนบ้าง) Race Pace ก็คือเพซที่เราตั้งใจจะเอามาใช้ในวันแข่งขันจริงนั่นเอง ถ้าหากว่าเราซ้อมเพื่อที่จะวิ่งมาราธอนโดยทำเวลาให้ได้ 4 ชั่วโมงหมายความว่าเราต้องวิ่งให้ได้ 9:09 นาทีต่อ 1.6 กม.(1 ไมล์)


การลงแข่ง

ปกติแล้วในโปรแกรมการวิ่งของโค้ชฮาลจะไม่ได้กล่าวถึงการไปลงแข่งวิ่งสักเท่าไหร่นัก แต่จะแนะนำให้ไปลงแข่งฮาล์ฟมาราธอนในสัปดาห์ที่ 9 เพื่อช่วยในการเพิ่มความฟิตให้กับร่างกาย แต่การไปลงแข่งในระยะทางก็ไม่ได้ให้อะไรกับเราเป็นพิเศษหรอก และถ้าหากใครเป็นนักวิ่งอาชีพก็สามารถปรับเปลี่ยนตารางเพื่อให้ตรงกับวันลงแข่งก็ได้


Easy Runs

การซ้อมวิ่งในวันจันทร์ , พุธ การวิ่งโดยใช้เพซ Easy และมีวันที่ลดระยะทางให้ได้พักด้วย แต่ถึงอย่างนั้นระยะทางการวิ่งทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทีละนิด โปรแกรมการซ้อมถูกออกแบบให้มีระยะทางทางการวิ่งเพิ่มมากที่สุดในช่วงท้าย ซึ่งก็สมเหตุสมผลอยู่ใช่ไหมล่ะ มีนักวิ่งมาราธอนนับพันคนที่ใช้โปรแกรมการซ้อมวิ่งของโค้ชฮาล ดังนั้นไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง


วันพัก

วันพักเป็นสิ่งสำคัญมากในทุกโปรแกรมการซ้อม ในช่วงเวลา 24-72 ชั่วโมงของการพัก หลังการซ้อมหนักร่างกายของเราจะสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ และมีความแข็งแรงมากกว่าเดิมอีกด้วย โค้ชกำชับมาว่าอย่าซ้อมวิ่งหนัก หากมันไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการซ้อมวิ่งเยอะนี่ล่ะที่จะช่วยให้เราเก่งขึ้นได้ แต่ถ้าหากไม่ได้พักร่างกายก็จะเริ่มล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะไม่สามารถเก่งขึ้นได้ ดังนั้นในทุกวันศุกร์ต้องพักอย่างเต็มที่ มันจะทำให้มีแรงซ้อมต่อในวันเสาร์อาทิตย์ แต่ถ้าหากจำเป็นหรือมีเหตุจำเป็นต้องพักมากขึ้นก็ให้พักไปเลย สิ่งสำคัญจะอยู่ที่ความคงเส้นคงวาในการซ้อม ถ้าเราซ้อมได้ครบ 18 สัปดาห์รับรองได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน


ที่มา : https://bit.ly/2pmFZub


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP

.

#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running

#Cycling #Triathlon #Swimming


ที่มา: https://www.vrunvride.com/marathon-training-advanced-1/?fbclid=IwAR1nXgEtsZn-92ukX8UXuj9DoFC2Y6UxUBd7B0ts86eZLjqNWL2YabFVMPk

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ผลประกอบครึ่งปี 2021 (ปีชงโควิค) และส่งการบ้าน week 25

 


แยกระยะสะสมรายเดือนได้ ดังนี้
  1. มกราคม 140.1k
  2. กุมภาพันธ์ 238.8k
  3. มีนาคม 262.4k
  4. เมษายน 246.4k
  5. พฤษภาคม 256.3k
  6. มิถุนายน 237.3k

เดือนมกราคมบันทึกแค่ครึ่งเดือนเพราะซื้อ Smart watch มาตอนต้นเดือนกว่าจะใช้เป็นใช้คล่องและเห็นประโยชน์ของการบันทึกผลการวิ่งขึ้นคราวด์ของ Zepp แต่ก่อนบันทึกผลการวิ่งลงสมุด มันก็ดีหลายอย่าง เช่นได้วาดแผนที่ที่ไปวิ่ง, จดบันทึกอาการบาดเจ็บ, จำนวนการเวทเทรนนิ่ง เป็นต้น


ช่วงนี้โควิท ระลอก 3 ยังระบาดแรงไม่เลิก การวิ่งก็ปรับลดความเข้มข้นลง กอรปกับงานแข่งวิ่งจัดไม่ได้ด้วย เลยวิ่งน้อยลง และไม่ได้วิ่้ง B2B วันเสาร์ เป็นหยุดพักเลย เพื่อวิ่ง 18k วันอาทิตย์

ทำไหมต้อง 18k เพราะ
  • พลังงานได้พอดี ไม่ต้องโหลด ไม่ต้องเติม กินแต่น้ำ
  • สภาพหลังวิ่ง ร่างกายไม่ช้ำมาก
  • ใช้เวลาไม่มากไม่น้อย 1.45 - 2 ชม. เท่านั้น หากมาสายก็ไม่ร้อนมาก
  • ระยะทางวิ่งยาว 20k+ มันยุ่งยาก
  • ระยะ 18k ก็พอทดสอบ ทดลองอะไรได้หลายอย่างถ้าขยัน เช่นวิ่งเทมโบ้ 3k 4 เที่ยว, วิ่ง Interval 500 เมตร 10 เที่ยว และวิ่งทำเวลา 10k แรกแล้วมาเช็คสภาพ 8k หลัง

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

กฏ 5 ข้อของการมีสุขภาพดี

 Doctor Runner - วิ่งดิหมอ

25 พฤศจิกายน 2019  · 

เรื่องนี้น่าสนใจค่ะ 🙂 ใครอยากมีสุขภาพดีควรอ่าน ✅

ผลการศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพอันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 34 ปี จากจำนวนประชากร 122,000 ราย โดยมหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด ✅

--------------------------------


⭕ ได้ค้นพบ "กฏ 5 ข้อ ของการมีสุขภาพดี" ไว้ดังนี้

✅ 1. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ (Eat nutritious diet)

ผู้คน 1 ใน 5 ของโลก เสียชีวิตจากการรับประทานอาหารที่ไร้คุณค่า อาหารอันสะสมไปด้วยสารก่อการอักเสบ และความเสื่อมของร่างกาย อาทิ เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูป, ขาดการรับประทานผลไม้ ธัญพืช อย่างเพียงพอ

มื้ออาหารที่พร้อมไปด้วย ผัก ผลไม้ที่มีกากใย ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็ง และโรคหลอดเลือดเฉียบพลัน ที่เกี่ยวกับหัวใจและสมอง ได้ถึงร้อยละ 20

--------------------------------

✅ 2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (Regular exercise)

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ*** เพิ่มโอกาสการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 20-30%

คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสม ต่อการมีสุขภาพดี คือการออกกำลังกลุ่มแอโรบิก ที่มีความเหนื่อยปานกลาง สัปดาห์ละ 150 นาที 

(aerobic, moderate intensity, 150 minutes a week) ✅

--------------------------------

✅ 3. รักษาระดับน้ำหนักตัวที่พอดี (Maintain healthy weight)

ประโยคนี้สำคัญที่คำว่า "พอดี" คือมีช่วงกว้างแบบจำเพาะบุคคล "ไม่ต่ำ หรือสูงเกินไป"

คำแนะนำคือ รักษาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ในระดับ 19.0-24.9 กิโลกรัม/เมตร2 

BMI คำนวนโดย น้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง เมตร ยกกำลังสอง

ดัชนีมวลกายที่มาก หรือน้อยเกินไป จะมีความเสี่ยงกับกลุ่มโรคแต่ละชนิดแตกต่างกัน

ขณะนี้ ผู้คน 900 กว่าล้านคนบนโลก กำลังเผชิญกับภาวะอ้วน (obese) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2016 !!!! ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

--------------------------------

✅ 4. ไม่สูบบุหรี่ หรือหยุดสูบ (Stop smoking)

การหยุดบุหรี่ เพียง 1 ปีแรก สามารถลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดเฉียบพลันต่างๆ ทั้งสมอง หัวใจ ได้ถึงครึ่งหนึ่ง (50%)

ลดโอกาสเกิด โรคมะเร็งปอด ได้ 50% ในระยะเวลา 10 ปี หลังหยุดบุหรี่

ลดภาวะการมีบุตรยาก หรือเสื่อมสมรรถนะทางเพศ

--------------------------------

✅ 5. ดื่มไวน์แดง ในปริมาณปานกลาง (moderate amount of red wine)

สำหรับข้อนี้ถือว่ามีความอ่อนไหวพอควร เนื่องจากต้องปฏิบัติแบบเคร่งครัด คือ ไม่มากจนเกินไป

คำว่า "ไวน์แดงปริมาณปานกลาง" คือ 5 oz เป็น 1 drinks, วันละ ไม่เกิน 3 drinks

เนื่องจากการรับประทานไวน์แดง ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถสรุปผลการศึกษาได้แล้วว่าสามารถช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็ง กลุ่มโรคหลอดเลือด และช่วยลดภาวะเครียดได้

แต่หากมีการรับประทานที่มากเกินระดับ ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ ก็มีรายงานว่ามีผลเชิงบวก เมื่อรับประทานในปริมาณที่กำหนด แต่อย่างไรก็ยังไม่สามารถสรุปผลได้แน่ชัด เท่ากับปริมาณของไวน์แดง

(ข้อนี้ แอดมินไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการรับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป อยากให้ทุกท่านศึกษาแบบถี่ถ้วน ตามคำแนะนำ)

--------------------------------

💥💥💥 นอกจากปัจจัยทั้ง 5 ข้อ ดังกล่าว ผู้วิจัยยังพบผลอันน่าอัศจรรย์ว่า

กลุ่มคนที่รักษาไว้ซึ่งปัจจัยทั้ง 5 ข้อนี้ จะมีอายุยืนกว่าอีกกลุ่มอย่างเห็นได้ชัด คือ ชาย มีอายุยืนขึ้นโดยเฉลี่ย 12 ปี และ หญิง อายุยืนขึ้น 14 ปี !!! 

--------------------------------

การศึกษาครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการมีคุณภาพชีวิต และสุขภาพที่ดี ส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข และมีอายุที่ยืนนาน

มาทบทวนตนเองกันนะคะ ว่ามีปัจจัยใดที่เรายังสามารถปรับแก้ และดูแลตนเองกันได้บ้าง เพื่อสุขภาพของทุกคน และคนรอบข้างนะคะ

--------------------------------

ด้วยรัก

©️ #วิ่งดิหมอ

source : World economic forum, November 2019

ที่มา: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=562863607858011&id=285739865570388

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ทำความรู้จักกับ Drills ว่ามีความสำคัญอย่างไร

 Run Better

17 พฤศจิกายน 2019  ·   · 

วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Drills ว่ามีความสำคัญอย่างไร เพราะอะไรถึงต้องฝึก ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ

.


==========================

.

ถ้า New PB หรือ สถิติการวิ่งใหม่ ๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนปรารถนา...แต่สิ่งที่หลายคนยังคงพบเจอนั้นก็คือ

❓ ซ้อมเยอะแต่สถิติไม่พัฒนา ยิ่งซ้อมยิ่งเจ็บ

❓ โอเวอร์เทรนนิ่ง หรือ ตารางให้ซ้อมหนักเกินไป ไม่เหมาะกับสภาพร่างกาย ทำให้ร่างกายและจิตใจเกิดอาการล้า ไม่อยากซ้อม และล้มเลิกไปกลางทาง

❓ ไม่มีโปรแกรมการซ้อมที่แน่นอน ซ้อมตามเพื่อน ขาดความรู้ความเข้าใจในการซ้อมตามตาราง

❓ ไม่สะดวกไปซ้อมกับโค้ช ไม่มีเวลาไปพบเทรนเนอร์ ค่าใช้จ่ายในการเรียนสูงเกินไป

👉 ปัญหาทั้งหมด สามารถแก้ไขได้ด้วยคอร์ส #RunFaster 🏃‍♀🏃‍♂

👟 Run Faster 👟 เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ 8 สัปดาห์ ที่ให้คุณได้เรียนรู้ #พื้นฐานการวิ่งที่จำเป็น พร้อม #โปรแกรมการฝึกซ้อมที่จะช่วยพัฒนาการวิ่งของคุณให้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการบาดเจ็บจากการวิ่งที่เร็วแต่ผิดวิธี 

.

เนื่องด้วยการวิ่งทำความเร็ว ถือว่าเป็นการแข่งขัน ไม่ว่าจะแข่งขันกับผู้อื่น หรือแข่งขันกับสถิติเดิมของตัวเอง นั่นหมายความว่าคุณเองต้องถือว่าเป็นนักกีฬาคนหนึ่ง ฉะนั้น เราไม่ได้ทำการออกกำลังกาย #แต่เรากำลังทำการฝึก เพื่อวิ่งให้ได้เร็วขึ้นกว่าสถิติเดิม โดยไม่บาดเจ็บ

.

โดย #หลักการเตรียมตัวไปจนถึงฝึก เพื่อเป็นนักกีฬาที่สามารถวิ่งให้ได้เร็วขึ้นกว่าสถิติเดิม โดยไม่บาดเจ็บ (ซึ่งเป็นหลักเดียวกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพด้วย) ของคอร์ส Run Faster ได้แบ่งออกเป็น 4 ช่วงด้วยกัน คือ

#ช่วงที่1

- ประเมินร่างกาย ทดสอบ ความคล่องตัว ความแข็งแรง ความสมดุล

- ฝึกพื้นฐานของแอโรบิค

#ช่วงที่2

- ฝึกท่าทางการเคลื่อนไหวพื้นฐานให้ได้อย่างถูกต้อง

- ฝึกทักษะการวิ่งเบื้องต้น ทักษะดริลล์การวิ่ง เรียนรู้และฝึกฝนฟอร์มวิ่งที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

- ฝึกระบบแอโรบิคให้มีประสิทธิภาพ

#ช่วงที่3

- เพิ่มงาน เพิ่มความหนัก เพิ่มความเร็ว อย่างเหมาะสม

- ฝึกความทนทานของระบบแอนแอโรบิค

#ช่วงที่4

- พัฒนาสมรรถภาพสูงสุด

- ฝึกพลังของระบบแอนแอโรบิค

.

ซึ่งหากทำครบทั้ง 4 ช่วงอยากถูกหลักการวิทยาศาสตร์การกีฬาแล้ว การวิ่งของคุณก็ย่อมพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน

.

🎁 #สิ่งที่คุณจะรับจากคอร์ส

✅1.โปรแกรมซ้อมวิ่งระยะ mini หรือ half marathon (ทั้งขั้นต้นและสูง)

✅2.วิธีการปรับประยุกต์โปรแกรม และการออกแบบตารางด้วยตัวเองเบื้องตัน

✅3.โปรแกรมการฝึกทักษะ ความแข็งแรง ความคล่องตัว ยืดหยุ่น พร้อมคลิปวิธีการฝึก

✅4. โปรแกรมพัฒนาฟอร์มการวิ่ง

✅5. โปรแกรมป้องกันและบรรเทาอาการบาดเจ็บ

✅6. โปรแกรมประเมินร่างกาย

✅7. Facebook Group ลับคอยตอบทุกคำถามตลอด 8 สัปดาห์

✅8. กิจกรรมสนุก ๆ ในการพัฒนาการวิ่งของคุณให้เร็วขึ้นไม่บาดเจ็บ เพื่อชิงของที่ระลึกจากทีมงาน Run Better ภายในคอร์ส

.

ทุกเนื้อหา และกิจรรมทั้งหมด นี้ถูกกลั่นมาจากประสบการณ์ตรงของ #โค้ชเป้ง สาธิก ธนะทักษ์ และทีมงาน Run Better ที่ผ่านการสอนนักวิ่งมาแล้วมากมาย ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ และพัฒนาปรับปรุงจนออกเป็นคอร์ส Run Faster นี้

🔖โดยทั้งหมดราคาเพียง 990 บาท/ คอร์ส8สัปดาห์ เท่านั้น

รับสมัครถึง 30 พ.ย. นี้

เริ่มเรียนพร้อมกัน 2 ธ.ค. 2562

.

🤝 สมัคร/อ่านรายละเอียด คลิก >> https://runbetter.co/runfaster

.

💬สอบถามเพิ่มเติม คลิก >> https://m.me/RunBetterCourse?ref=w5983969

.

Line: @runbetter

ที่มา: https://fb.watch/6kQFK9Kuoz/

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564

รวมท่ายืดโดยครูสุข

Krusukh - ครูสุข

1 ตุลาคม 2019  · 

รวมท่ายืด

Original source  :  brightside

เรียบเรียง​ :ครูสุข

ผมไม่เคยลองใช้ 5 ท่า จาก 18 ท่า คือท่าที่ 1 , 11 , 13 , 14 และ 15 


วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สวนบวรประชานันท์ ย้อนวิ่ง 18k สวนธน ส่งการบ้าน week 24 ปี 2021


 week นี้ สวนกทม.กลับมาเปิดปกติ มีโอกาสได้ไปวิ่งเล่นที่สวนบวรประชานันท์ ถ.อนามัยงามเจริญแถวๆบ้าน ส่วนวันอาทิตย์เช้าก็ได้กลับมาซ้อมวิ่งยาว 18k ที่สวนธนบุรีรมย์เหมือนเดิม



เกาะลำพูนที่กำลังปรับปรุงและจะทำสะพานข้าม



ทางวิ่งเดิน ปั่นของสวนบวรประชานันท์

ระยะทางที่วิ่งไป 10k


วิ่งยาว18k สวนธน

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เทคนิคการวิ่ง ลดความเสี่ยงเจ็บ สำหรับคนน้ำหนักเยอะ

 Longyoung Run

28 กันยายน 2019  · 

เทคนิคการวิ่ง ลดความเสี่ยงเจ็บ สำหรับคนน้ำหนักเยอะ

--------------------------------------------


นักวิ่งเก่งๆจะมีฟอร์มท่าวิ่งที่ดี มองแล้วเท่จัง  ส่วนนักวิ่งใหม่ๆอย่างเราช่วงแรกๆ อาจหาฟอร์มตัวเองยังไม่เจอ  ปัญหาส่วนใหญ่หลักคือ มีการวิ่งที่ไม่ไม่ถูกลักษณะและมีวิธีการลงเท้าที่ผิดวิธี จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บ  ยิ่งน้ำหนักตัวที่เกินพอดีไปนิดนึงอย่างพวกเราด้วยแล้ว มีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป อาจจะทำให้ข้อต่อเรา แบกรับน้ำหนักเราเยอะเกินไป การลงน้ำหนักเท้าจึงต้องทำด้วยความระวังมากขึ้น

--------------------------------------------

เทคนิคที่จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ คือ

1️⃣ ลักษณะการวิ่งที่ถูกวิธี - การวิ่งที่ถูกวิธีคือการวิ่งโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย   ห้ามแกว่งไปซ้ายไปขวา

2️⃣  แขนงอไม่เกิน 90 องศา - ไม่เกร็ง แกว่งแขนไปด้านหน้าและหลัง ขณะวิ่ง  มื่อแกว่งแขนถูกวิธีจะช่วยให้วิ่งได้ดี และบาลานซ์ร่างกายให้สามารถวิ่งได้ไม่เหนื่อย ส่งผลทำให้ร่างกายวิ่งได้สะดวก

3️⃣ ลักษณะลงเท้าที่ถูกวิธี - การลงเท้าสำหรับการวิ่งเพื่อลดการกระแทกที่จะเกิดขึ้นให้ลงปลายเท้าหรือกลางเท้า  ลงเท้าให้นิ่ม การลงเท้าที่ดีจะต้องผ่อนน้ำหนักให้ลงพื้นอย่างพอดี และไม่หนักหรือเบาเกินไป 

ลดระยะการก้าวเท้าให้สั้นขื้น  - ภาษาวิ่งเรียกว่า higher cadence  โดยเพิ่ม cadence (จำนวนก้าวต่อนาที) ในการวิ่งแทน 

การก้าวเท้าที่ยาวเกินไป (Over-striding) เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นดิน ส้นเท้าจะลงพื้นก่อน (heel strike) โดยขาจะกางออกตรง เข่าจะล็อคทําให้เกิดการเบรคและมีเเรงปะทะที่มาก ซึ่งสามารถทําให้เกิดการบาดเจ็บได้

จากภาพเห็นว่ายิ่งมุมของเข่ากางออกเท่าไหร่ จังหวะที่เท้าเราสัมผัสพื้นตำแหน่งของเท้านั้นอยู่ห่างจากลำตัวของเรา ภาษาอังกฤษเรียกว่า CG (Center of Gravity) หมายถึงว่าน้ำหนักตัวของเราจะลงตรงนั้น ยิ่งถ้าเท้าของเราสัมผัสพื้นห่างออกจากเส้นนี้มากเท่าไหร่ เเรงปะทะที่เกิดขื้นกับร่างกายก็จะยิ่งมากขื้นเท่านั้น !!! 

4️⃣  ให้ออกแรงด้วยกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง  - ให้ใช้แรงโน้มถ่วงโลก ไม่ให้ใช้กล้ามเนื้อน่อง หล้กการของการก้าวขาคือการยืดผลักขาไปข้างหลังเพื่อให้ตัวไปข้างหน้ามากกว่าการก้าวขายาวขึ้นไปข้างหน้า คือใช้กล้ามเนื้อก้นและ hamstring ให้มากขึ้นในการผลักดันนั่นเองค่ะ

การวิ่งที่ดี ต้องวิ่งมาจากก้นไงคะ เมื่อใช้กล้ามเนื้อด้านหลังมากแล้ว นี่คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราไม่ต้องแตะเบรคทุกครั้งที่ลงเท้าเหมือนกับการก้าวขายาว (overstride)ไปข้างหน้า ไม่ว่าจะลงพื้นด้วยปลายเท้า กลางเท้า หรือส้นก็ตาม การ overstride คือการแตะเบรคตัวดีเลย

-----------------------------------------------

💬   นี่เป็นเพียงหลักการเบื้องต้นสำหรับการวิ่งช่วงแรกๆ เพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างสนุกและต่อเนื่อง  ก้าวขาสั้น และไม่ยกสูง ทำให้ร่างกายเหนื่อยน้อยลง

แต่ท้ายสุด การวิ่งจะมีประสิทธิภาพคือต้องมีวินัยในการฝึกฝนและพักผ่อนให้เพียงพอ  ขอให้เพื่อนนักวิ่งมีก้าวการวิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองกันนะคะ

-----------------------------------------------

ที่มาข้อมูล :

- Daniels’ Running Formula by Jack Daniels

- Running Cadence: Why it Matters and How to Improve Yours https://is.gd/XAap9M

. .

กลุ่มพูดคุย "YoungRun"

https://www.facebook.com/groups/392343794827887/

ช่องทางสั่งซื้อสินค้า

https://www.digivshop.com/

อย่าลืมติดตาม กดติดดาวตั้งค่าเห็นก่อนนะคะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร #เผ่านักวิ่ง2 #longyoungrun

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/posts/679884669176971

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สร้างกล้ามเนื้อวันนี้ เพื่อตัวเองในอนาคต

 วิ่งไหนดี : Wingnaidee

24 กันยายน 2019  · 


💪 สร้างกล้ามเนื้อวันนี้ เพื่อตัวเองในอนาคต

☝️ สำหรับมนุษย์เราแล้วเป็นธรรมดาที่เมื่อเราอายุมากขึ้นสมรรถภาพทางกายก็จะต้องมีเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา มวลกล้ามเนื้อก็เป็นส่วนหนึ่งที่เสื่อมเช่นกันครับครับ

.

📰 จากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิจัยเกี่ยวกับกระดูกและแร่ธาตุชี้ว่า..ผู้สูงอายุที่มีมวลกล้ามเนื้อต่ำนั้นมีโอกาสที่จะเสียชีวิตเร็วกว่าผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อที่สูงกว่า โดยนักวิจัยทำการทดลองกับกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 839 คน นักวิจัยใช้เวลากว่า 4 ปีในการเฝ้าติดตามผลการทดลองในครั้งนี้ พวกเขาตรวจดูมวลกล้ามเนื้อโดยรวมทั้งแขนและขารวมถึงไขมันใต้ผิวหนังและไขมันภายในอวัยวะด้วยเช่นกัน โดยผลการวิจัยออกมาว่า ผู้หญิงที่มีมวลกล้ามเนื้อต่ำนั้นมีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าผู้หญิงที่มีมวลกล้ามเนื้อเพียงพอถึง 63 เท่า และผู้ชายที่มีมวลกล้ามเนื้อต่ำมีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าผู้ชายที่มีมวลกล้ามเนื้อเพียงพอ 11 เท่า ทางด้านนักวิจัยแนะนำว่า “มวลกล้ามเนื้อนั้นมีความสำคัญมาก ๆ ในการรักษาสมดุลของร่างกายถ้าคุณมีมวลกล้ามเนื้อหรือกระดูกที่ต่ำนั้นหมายความว่าคุณมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหาในอนาคต (เสียชีวิตเร็วนั่นเองครับ)”

.

⏳ ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหยุดเวลาเอาไว้ที่เดิมได้ ยังไงซะร่างกายของเราก็ต้องเดินหน้าไปตามกาลเวลาสักวันก็ต้องร่วงโรยไปอย่างช่วยไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างความแข็งแรงให้กับตัวเราเองในอนาคตได้ด้วยตัวเองในปัจจุบันครับ เพราะตอนนี้เราสามารถออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง หรือ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ ยิ่งเพื่อน ๆ อายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งมีเวลาให้เราพัฒนากล้ามเนื้อมากเท่านั้นครับ เคยมีผลการศึกษาออกมาว่าผู้ชายสูงอายุวัยมากกว่า 60 ปีหากต้องการรักษามวลกล้ามเนื้อนั้นต้องพยายามยกน้ำหนักบ่อยมากกว่าคนวัยผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่าอีกนะครับ

.

🤗 อย่าลืมนะครับว่าสุขภาพดีไม่มีขาย หากอยากให้ตัวเราในอนาคตแข็งแรงต้องลงมือทำตั้งวันนี้เลยครับ 😃

.

#วิ่งไหนดี

#WingNaiDee

ที่มา: https://www.facebook.com/WingNaiDee/posts/2594128943970923

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ลุยฝนแรกปีนี้ พร้อมส่งการบ้าน week 23 ปี 2021

 


week นี้ มีวิ่งกลางสายฝนเมื่อวันอาทิตย์ วิ่งรอบหมู่บ้าน ตอนเริ่มมันยังไม่ตก พอ 3k อัพมันก็ตกลงมาอย่างแรง ตั้งใจลุยฝนอยู่แล้ว เตรียมตัวใส่รองเท้าคู่เก่าที่ซ่อมไว้ลุยฝน และมือถือก็ใส่ถุงพลาสติก วิ่งลุยฝนกลางฝนอยู่ประมาณ 5k มันเบาเม็ดลงตอนเลย 8k 

สนุกสนานมากอย่างกะเด็กอีกครั้ง มีคนแซวเด็กในหมู่บ้านก็แซว แต่คนที่เคยเห็นก็ชินเพราะปีที่แล้วก็ลุย

ผลการวิ่งดีมาก ร่างกายมันไม่ร้อนเลยไม่ล้า เพื่ม HR และ รอบขาได้ดังใจ จนได้Avg Cadence 170 ส่วน Max HR 170 




วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : โปรตีนสำคัญกับสุขภาพ

 ร่างกายคนเราจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่สำคัญครบทั้ง 6 ประเภท ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และน้ำ จึงทำให้อวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่ได้ตามปกติ สำหรับโปรตีนถือว่าเป็นสารอาหารที่ร่างกายจะขาดไม่ได้ เพราะเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย เช่น อวัยวะต่างๆ ผิวหน้า กล้ามเนื้อเล็บ จะมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบเป็นส่วนใหญ่ โปรตีนจะมีส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่สำคัญในทางโภชนาการ เรียกว่า กรดอะมิโน ซึ่งมี 2 ชนิดได้แก่ กรดอะมิโนจำเป็นและกรดอะมิโนไม่จำเป็น กรดอะมิโนจำเป็นนั้นจะเป็นส่วนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเท่านั้น คนเราจึงต้องรับประทานโปรตีน เพราะมีประโยชน์ในการให้พลังงาน การสร้างฮอร์โมนและสารให้ภูมิคุ้มกัน ตลอดจนช่วยรักษาความสมดุลของน้ำ และความเป็นกรดด่างของร่างกายอีกด้วย




 

โดยเราสามารถเลือกโปรตีนจากธรรมชาติจาก 2 แหล่งใหญ่ๆ คือ โปรตีนที่มาจากสัตว์ และโปรตีนที่มาจากพืช โดยควรเลือกทานโปรตีนจากแหล่งธรรมชาติเสียก่อน หากการทานโปรตีนจากแหล่งธรรมชาติไม่เพียงพอ การทานโปรตีนผง หรือเวย์โปรตีนก็เป็นอีกทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเตรียมอาหาร


แหล่งโปรตีนชั้นยอดที่มาจากสัตว์ สำหรับการเลือกโปรตีนจากเนื้อและผลิตภัณฑ์จากสัตว์นั้น อาจจะต้องระมัดระวังในการเลือกอยู่เหมือนกัน เนื่องจากสิ่งที่แฝงมากับโปรตีนคือปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอล ดังนั้นแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่แนะนำ ได้แก่


ADVERTISEMENT



ปลาทูน่า : 1 กระป๋อง ให้โปรตีน 16 กรัม ให้ไขมัน 1 กรัม


อกไก่, สันในไก่ : 1 ชิ้น ให้โปรตีน 28 กรัม ให้ไขมัน 2.5 กรัม


ไข่ไก่ : 1 ฟอง ให้โปรตีน 6-7 กรัม ให้ไขมัน 5 กรัม


เนื้อวัว : 100 กรัม ให้โปรตีน 26 กรัม ให้ไขมัน12 กรัม


โยเกิร์ตไขมันต่ำ : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 13 กรัม ให้ไขมัน 4 กรัม



 

เนื้อปลาแซลมอน : 100 กรัม ให้โปรตีน 20 กรัม ให้ไขมัน 13 กรัม



 

แหล่งโปรตีนชั้นยอดที่มาจากพืช แหล่งโปรตีนจากพืชก็ถือเป็นทางออกที่ดีและเรายังได้รับประโยชน์จากโปรตีนไม่น้อยหน้าโปรตีนที่มาจากสัตว์เลย แถมมีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำกว่าอีกด้วย แหล่งโปรตีนจากพืชที่แนะนำได้แก่


ข้าวควินัว : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 8 กรัม ให้ไขมัน3.6 กรัม


อะโวคาโด : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 3 กรัม ให้ไขมัน15 กรัม


ถั่วเหลือง, เทมเป้,เต้าหู้ : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 30 กรัม ให้ไขมัน 18 กรัม


เนยถั่ว : 2 ช้อนโต๊ะ ให้โปรตีน 15 กรัม ให้ไขมัน 16 กรัม


อัลมอนด์ : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 30 กรัม ให้ไขมัน 71 กรัม


ถั่วลันเตา : 1 ถ้วย ให้โปรตีน 8 กรัม ให้ไขมัน0.6 กรัม


กล่าวโดยสรุป โปรตีนถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในทุกวัย ถ้ารับประทานโปรตีนน้อย อาจส่งผลต่อการเสริมสร้างหรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ดังนั้น หากเราเป็นผู้ที่ดูแลสุขภาพ ก็ควรกินอาหารในกลุ่มโปรตีนที่ให้“กรดอะมิโนจำเป็น” อย่างครบถ้วนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในทุกๆ วันด้วย


กองประชาสัมพันธ์


สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

ที่มา: https://www.naewna.com/sport/442183?fbclid=IwAR29yWFkih2Vj_Jg2KTwp21DPXZboRzxs6eEirMwyF0DFVg3PQ2e5tYayDo

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ไขมันสะสมตรงไหน บ่งบอกได้ด้วยรูปแบบฮอร์โมนส่วนตัวของเรา

 Be fit & Eat well

13 กันยายน 2016  · 

ไขมันสะสมตรงไหน บ่งบอกได้ด้วยรูปแบบฮอร์โมนส่วนตัวของเรา

.


จะเล่าให้ฟังก่อนว่า เนื่องจากที่ยิมที่ทำงานนี้มีความสัมพันธ์กันดีกับเทรนเน่อร์ชื่อดังก้องโลก Charles Poliquin เทรนกันมาแต่นานนม ดังนั้นก็จะมีข้อมูลขุมทรัพย์ความรู้ (เรียกเอง) อยู่ เวลาไปทำงานทีก็จะเหมือนไปคลังความรู้ เพราะได้รับการสนับสนุนให้เข้าไปในขุมทรัพย์ของที่ทำงาน ไปอ่าน ไปค้นคว้า เท่าที่สมองจะรับได้ ไม่มีการหวง เวลาพักก็กลายเป็นเวลาอ่านหนังสือของเราไปด้วย เนิร์ดไปรึเปล่าเนี่ย

.

เมื่อวานก็ไปเจอไฟล์ใหญ่มากไฟล์นึง (ไม่ต้องตกใจค่ะ  จะเขียนทีละส่วนๆไป) เกี่ยวกับ Biosignature ซึ่ง Charles Poliquin เป็นคนริเริ่ม 

.

BioSignature Modulation คือทฤษฎีที่พูดถึงว่า คนเราจะมีจุดสะสมไขมันที่ต่างกันไป ที่ที่คนเราสะสมไขมันในร่างกาย สามารถบ่งชี้ว่าคนคนนั้นมีรูปแบบลักษณะของฮอร์โมน เป็นอย่างไร 

.

เคยสังเกตรึเปล่าคะว่า เราจะมีไขมันสะสมในจุดต่างๆของร่างกายที่ทำยังไงก็ไม่ลดไปซักที

.

ตามทฤษฎีนี้เชื่อว่า เมื่อเรารู้คุณสมบัติของฮอร์โมนของเราแล้ว เราก็จะได้หาวิธีจัดการกับมัน สร้างความสมดุลย์ เพื่อที่เราจะได้สลายไขมันในจุดสะสมของเราได้ด้วย อย่าพึ่งงงนะคะ ง่ายๆเลยคือ เราไปแก้ปัญหาที่ความไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนซึ่งมีบทบาทในการสะสมไขมันในจุดต่างๆของเราได้

.

เรื่องนี้เป็นเรื่องของ supplement ล้วนๆเลยค่ะ ดังนั้น ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

.

เราจะแบ่งจุดต่างๆที่แต่ละคนสะสมไขมันอยู่ 4 จุดใหญ่ๆ คือ

.

1.  High lower body  (ช่วงบนของท่อนล่างลำตัว)

.

นั่นคือไขมันส่วนต้นขาตอนบนและก้น (upper thigh skin fold and gluteal fold) 

.

การที่เรามีไขมันสะสมในส่วนนี้บ่งชี้ว่า เรามีระดับของ Alpha-2-receptors ซึ่งมีอยู่ในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่สูง มีระดับฮอร์โมน estrogens สูงด้วย

.

ดังนั้น ตามทฤษฎีของ Charles ก็จะแนะนำให้ กินอาหารที่มี  Indole-3-Carbinol (I3C) คือสารอาหารที่สกัดจากพืชตระกูล กะหล่ำ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปม บร๊อคโคลี่ เมื่อร่างกายรับสารตัวนี้เข้าไปแล้ว จะไปเปลี่ยนเป็นสารอีกตัวหนึ่ง คือ DIM-Diindolylmethane ซึ่งจะทำหน้าที่ เหมือนเป็น estrogen detoxifier 

.

ในผู้หญิงเราเนี่ย จะมีฮอร์โมนชื่อ progesterone และ estrogen อยู่ในสัดส่วน 30:1 นั่นคือปกติ ซึ่งก็จะขึ้นๆลงๆตลอดขึ้นอยู่กับช่วงเวลาต่างๆในแต่ละเดือน ทีนี้ประมาณ 50% ของ ผู้หญิงที่อายุเกิน 35 ปีเนี่ย สามารถเกิดอาการฮอร์โมนไม่ปกติได้ คือ อาจจะมีระดับฮอร์โมน progesterone น้อยลง หรือมีระดับ ฮอร์โมน estrogen มากขึ้น เรียกว่าอยู่ในสภาวะ estrogen dominant 

.

และก็อาจจะเกิดได้จากความเครียดของชีวิตประจำวันในสมัยนี้ก็ได้ด้วยค่ะ ทำให้กินอาหารไม่ดี อาหารแปรรูป นอนน้อย ไม่ออกกำลังกาย กินกาแฟเยอะเกินไป ส่งผลให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเครียดที่ชื่อ cortisol 

.

อาการก็จะมี ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาเยอะผิดปกติ หรือมาแบบไม่สม่ำเสมอ PMS ผมร่วง ผิวแห้ง ตาแห้ง และมีไขมันสะสมที่ต้นขาและสะโพกที่ดื้อไม่ยอมไปซักที แต่เราสามารถตรวจสอบได้เพื่อค้นหาว่าเรามีอาการนี้เนื่องจาก hormone imbalance หรือไม่ มากแค่ไหนด้วยการตรวจสอบน้ำลาย (saliva test) หรือเจาะเลือดที่โรงพยาบาลได้ค่ะ

.

แต่โดยรวมๆ การแก้ไขหรือ กระบวนการ estrogen detoxifier จะแก้ได้ด้วยการ

.

1. กิน B vitamins เสริมเพื่อปรับระดับความเครียดและปรับระดับฮอร์โมน

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนให้เพียงพอ

3. กินไขมันที่ดี เพื่อที่ร่างกายเราจะได้้นำไปใช้ในการผลิตฮอร์โมน 

4. กินสารอาหารที่สกัดจากพืชตระกูล กะหล่ำ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปม บร๊อคโคลี่ อย่างที่เขียนไปข้างต้นค่ะ 

.

2. High umbilical skin fold measurements (ไขมันหน้าท้อง) 

.

น่ากลัวค่ะ มีการทำวิจัยโดยเชิญอาสาสมัคร 30,000 คน และจับตาดูในระยะเวลา 12  ปี พบว่า ผู้หญิงที่มีไขมันสะสมบริเวณนี้จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคหัวใจมากกว่าคนที่อ้วนแบบปกติทั่วไป คนกลุ่มนี้มักจะรู้สึกเครียดมากกว่าคนปกติ ทั้งเนื่องจากนิสัยตัวเอง หรือความกดดันภายนอกค่ะ

.

เมื่อร่างกายมีความเครียด ฮอร์โมนเครียด cortisol ก็จะหลั่งมาก และก็จัดแจงสะสมไขมันเพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน

.

จากการทดลองคนกลุ่มนี้จะรับอาหารเสริมที่มี phosphatydylserine สะกัดจากอาหาร

ประเภทถั่ว (soy) ก็จะช่วยในเรื่องการลดการหลั่งของฮอร์โมน  cortisol รวมทั้งทำให้อารมณ์ดีขึ้น ความจำดีขึ้น ผ่อนคลายความเครียดได้ดีขึ้น  

.

ตามตำราของ Charles เค้าก็แนะนำการกิน fish oils ที่มีส่วนผสมของ omega-3 oils และ ชะเอมเทศ (Licorice Root)  ซึ่งจะช่วยลดและควบคุมการผลิตฮอร์โมน cortisol

.

รากชะเอมเทศมีสาระสำคัญอย่าง กลีเซอไรซิน (Glycyrrhizin) และสารเคมีอื่น ๆ  เช่น ไฟโตเอสโตรเจน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และควบคุมฮอร์โมนcortisol ได้ดีมากค่ะ

.

คนที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องยังควรลดการดื่มกาแฟ คาเฟอีน และน้ำตาล เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถไปเพิ่มระดับการผลิตฮอร์โมน cortisol ได้ด้วยค่ะ 

.

3.     high, mid-auxiliary (upper outer lat region) fat measurement (ไขมันสะสมบริเวณหลังตอนบน-กลาง)

.

ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของต่อมไทรอยด์ หรือเริ่มี่จะมีปัญหา ดังนั้นอาหารหรือวิตามินเสริมที่ Charles แนะนำคือ  Guggulsterones (Guggul)

ตามตำราอายุรเวท ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับไขมันผิดปกติ อ้วน ไขข้ออักเสบ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่ามีฤทธิ์ลดระดับ cholesterol และ triglyceride ในเลือดได้ค่ะ 

.

Bladderwrack ซึ่งเป็นประเภทของสาหร่ายทะเลที่เป็นแหล่งที่ดีสำหรับไอโอดีน แร่นี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับต่อมไทรอยด์ ช่วยให้ต่อมผลิตปริมาณที่เหมาะสมของฮอร์โมน และยังมีส่วนประกอบของ

Iodine, Zinc และ Selenium ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพของต่อมไทรอยด์ รักษาอาการของโรค thyroidal เช่นหงุดหงิดง่าย และมีประโยชน์มากสำหรับเส้นประสาทในร่างกายของเราด้วยค่ะ

.

4. supra iliac (love handles) (ไขมันสะสมบริเวณเอวและสะโพกด้านข้าง)

.

Charles วิเคราะห์ว่าคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของการหลั่งของ insulin ซึ่งแน่นอนว่า คนกลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องจำกัดการกินอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต กินอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยๆ และส่วนประกอบของอาหารควรจะเป็นประเภท ที่มีกรดไขมันจำเป็น (essential fats) พวกที่มี omega-3 จะพบมากในอาหารจำพวกปลาและน้ำมันพืช เช่น salmon ปลาซาร์ดีน พวกที่มี omega-6 จะพบมากในอาหารจำพวกปลาและน้ำมันพืช เช่นน้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน และอาหารที่มีไฟเบอร์ เป็นส่วนใหญ่

.

อาหารเสริมควรจะดูพวก flax seeds ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน

.

ลอกมาล้วนๆเลยค่ะ เอามาแต่ส่วนสำคัญ สามารถไปหาเพิ่มเติมใน internet ได้นะคะ ถ้าสนใจเพิ่มเติม เลือกมาใช้ในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราและสุขภาพร่างกายของเราค่ะ

.

Ref: บางส่วนจาก http://www.poliquingroupeducation.com/biosignature...

----------------

Chada Bowra, Level 3 Personal Training (YMCA)

(QCF) Diploma in (Advanced) Level 3 Personal Training (Gym-Based Exercise) (YMCA)

ENU (QCF) Nutrition for Exercise (YMCA)

ค้นบทความเก่าได้ที่ http://befitandeatwell.co.uk/

ที่มา: https://www.facebook.com/Befiteatwell/photos/a.848337471945507/1017183365060916/?type=3

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ส่งการบ้าน week 22 ปี 2021 ซ่อมรองเท้าคู่เก่าเอาไว้ลุยฝน

 week 22 ปี 2021 นี้ วิ่ง 10k 4 วัน, วิ่ง 10k+เดิน 4k 1 วัน, วิ่ง 8k 1 วัน และพักวิ่ง 1 วัน 

ผลจากการวิ่งเกือบทุกวันติดต่อกัน ทำให้เกิดอาการเจ็บในสะโพกซ้ายตอนก้าวเท้าลงบันได แต่พัก 1 วันอาการก็ดีขึ้นจนเกือบหาย คงไม่หายขาด


รองเท้าคู่นี้ใช้เมื่อปีที่แล้ว ผ่านศึกมาเยอะ ว่าจะปลดประจำการ แต่สภาพมันยังดีที่สุดดีกว่าคู่เก่าๆ ที่ใช้มา จึงขุดเอามาซ่อมรูใหญ่จุดเดียว มีอีก 3 รูแต่เล็กน้อย รูนี้ต้องเย็บแล้วทากาวประปา 3 รอบ

รองเท้า Mizuno ลุยน้ำได้ดีกว่า Brook มันระบายอากาศดีไม่อับจนทำให้เหม็น ปีที่แล้วเคยเอา Brook ไปวิ่งเจอฝน มันเหม็นมากแม้แห้งสนิทแล้ว



วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ฝึก Drill กันค่า | ท่า Skipping

 Longyoung Run

13 กันยายน 2019  · 

Drills  แบบ  A Skip และ B Skip

.


ฝึก Drill กันค่า | ท่า Skipping ::

.

การ Drill ท่า skip จะช่วยเพิ่มระยะก้าว

ระยะยกเข่า และสมดุลของการก้าว

ฝึก skip 15-20 เมตร แล้วพัก

ก่อนที่จะทำซ้ำอีก 2-3 ครั้ง

.

😉 เคล็ดลับของการฝึก คือ

เคลื่อนไหวให้เร็ว ยกเข่าให้สูง

และแกว่งแขนให้มากกว่าการวิ่งปกติ

การดริลจะช่วยจัดฟอร์มการวิ่งที่ถูกต้อง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนที่เราต้องใช้ในการวิ่ง

ทำทุกวันสม่ำเสมอ เมื่อกล้ามเนื้อเราแข็งแรง การบาดเจ็บจากการวิ่งก็จะลดลง ท่าทางการวิ่งของเราก็จะดีขึ้นตามมาแน่นอนค่ะ

ที่มาวีดิโอ : โค้ช แมทท์  โฮลตัน  Matt Holton  Channel  Youtube 

https://youtu.be/JPzYHi5iKmo

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/videos/2333196913594735/

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

“Hit the Wall” หรือ “Bonk”

 Longyoung Run

1 กันยายน 2019  · 

“Hit the Wall” หรือ “Bonk”

.


หรือภาษาไทยก็คงเป็น “ชนกำแพง” เป็นอาการที่ “ก้าวขาไม่ออก เท้าแต่ละข้าง แขนแต่ละข้างมันหนักเหมือนโดนโซ่มาล่าม ไม่มีแรง แรงหมด หิว จนส่งผลไปถึงสภาพจิตใจทำให้คุณยอมที่จะทิ้งเป้าหมายข้างหน้าลง” ที่เกิดจากการออกกำลังกายต่อเนื่องนานมากๆ ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป

.

⭕️ สาเหตุใหญ่ที่สุดที่เราชนกำแพงมาจากไหน ⭕️

มาจากสาเหตุ 2 ประการคือ

1. #ร่างกายขาดไกลโคเจน – การรักษาระดับไกลโคเจนในตับและกล้ามเนื้อก่อนการแข่งขันเป็น สิ่งที่นักวิ่งต้องให้ความสำคัญและทำความเข้าใจ เพราะยิ่งใช้ร่างกาย ใช้กล้ามเนื้อนานเท่าไร ไกลโคเจนในตับกับกล้ามเนื้อก็จะลดปริมาณลงมากเท่านั้น และเมื่อไกลโคเจนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงตามไปด้วย

แนะนำว่า ให้นักวิ่งกิน high GI คาร์โบไฮเดรตก่อนวิ่ง หรือวันก่อนวิ่ง ร่างกายก็จะได้ใช้ ไกลโคเจนจากนั้นก่อนเลยอย่างแรก เมื่อใช้จนหมดแล้ว ไม่มีการเพิ่มเติมระหว่างทาง ร่างกายก็จะใช้ไกลโคเจนจากกล้ามเนื้อ พอหมด กล้ามเนื้อก็จะเริ่มดึงกลูโคสซึ่งตับปล่อยออกมาเรื่อยๆมาใช้เป็นพลังงาน ปกติสมองเราก็จะเก็บกวาดใช้พลังงานจากกลูโคสนี้อยู่แล้ว ทีนี้พอมีกล้ามเนื้อมาแย่งก็จะเกิดอาการหน้ามืด หรือไม่ก็ชนกำแพงตะคริวกิน

2. #ซ้อมไม่พอ ที่รู้ว่าซ้อมไม่พอเพราะว่า ร่างกายของคนที่เทรนอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอจะมีการสะสมไกลโคเจนได้มากกว่าคนทั่วไปกว่า 2 เท่า

คนปกติธรรมดาทั่วไปจะสามารถสะสมไกลโคเจนในตับได้ประมาณ 240 kcal และประมาณ 200kcal ในกล้ามเนื้อ แต่นักวิ่งขาซ้อมจะมีการสะสมได้โดยรวมถึง 1500kcal และเมื่อเราซ้อมไปนานๆอย่างที่เรียกว่า ‘อยู่ตัว’ ร่างกายเราก็จะมีความเชี่ยวชาญในการใช้และเก็บสะสมพลังงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้นด้วย (utilising and storing glycogen) รวมถึงการเอาพลังงานจากไขมันมาใช้ได้เก่งขึ้นมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นถ้าเทรนถึง ร่างกายก็รู้งานเองว่างั้นเหอะ

.

⭕️ การป้องกันไม่ใช้เกิดอาการชนกำแพง ⭕️

โหลดคาร์บก่อนการแข่งขัน การเติมพลังงานระหว่างการแข่งขัน

👉 ถ้าต้องการคาร์บก่อนวิ่งทันที ระหว่างวิ่ง หรือหลังวิ่ง ควรจะเลือกกินอาหารที่มีค่า GI สูง เช่น ขนมปัง, พาสต้า, มันฝรั่งอบ, sport drink, เจล, energy bar, น้ำผึ้ง, เบเกิล

👉 ถ้าเป็นช่วงการโหลดคาร์บล่วงหน้าก่อนการวิ่งมาราธอน หรือการกินก่อนวิ่งซักสองชั่วโมง เราก็ควรเลือกอาหารที่มีค่า GI ต่ำ เพราะจะช่วยให้ร่างการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดในระหว่างการออกกำลังกายได้ เช่น ถั่ว, โอ๊ตมีล, โยเกิร์ตแบบ low fat, ลูกแพร์. แอ๊ปเปิ๊ล, น้ำมะเขือเทศ, กล้วย

👉 และวิ่งในความเร็วที่ช้า ๆ

.

วิ่งมาราธอนเนี่ยไม่ง่ายหรอกนะคะ แต่ความที่ไม่ง่ายเนี่ยแหละ ที่ทำให้ความภูมิใจนั้นมีค่ามหาศาล ที่สำคัญคืออย่าเร่ง หมั่นซ้อม อย่าใจร้อน

-----------------------------------------------

ที่มาข้อมูล : runner-blogger

. .

กลุ่มพูดคุย "YoungRun"

https://www.facebook.com/groups/392343794827887/

ช่องทางสั่งซื้อสินค้า

https://www.digivshop.com/

อย่าลืมติดตาม กดติดดาวตั้งค่าเห็นก่อนนะคะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร #งานกระต่ายปี2 #เผ่านักวิ่ง2 #longyoungrun

ที่มา: https://www.facebook.com/longyoungrun/posts/661699214328850