ss-เขียนเอง

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการฝึกซ้อมวิ่งมาราธอนปีแรก

ปีแรกของการวิ่ง

  • ระยะเวลา : เริ่มต้น ซ้อม 3 มี.ค.2559 ถึง 4 มี.ค. 2560 ตามปฎิทิน
เดือนมีค.เริ่มต้นวิ่ง 2 รอบสวนลุมพินีแล้วกายบริหารต่อตามฐานต่างๆ ประมาณ 1 ชม. เหตุผลแรกที่ออกมาวิ่งเพราะตอนนั้นน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 77 กก. ร่างกายเริ่มอ้วน อึดอัด ใส่กางเกงตัวเก่าแน่น

เดือนเมย.ยังคงซ้อม 2 รอบทั้งเริ่มจับเวลาต่อรอบจะเห็นว่ารอบแรกเร็วกว่ารอบสอง 2-4 นาที


เดือนพค.ยังคงวิ่ง 2 รอบเหมือนเดิม


ตั้งแต่กลางเดือนมิย.เริ่มเพิ่มระยะเป็นสองเท่า เพราะวิ่ง 2 รอบแล้วทำเวลาต่อรอบไม่ดีขึ้น จึงอยากลองวิ่งไกลขึ้น แล้วกลับมาวิ่งสั้นอาจจะเร็วขึ้น


เริ่มค้นหาข้อมูลการวิ่งจากอินเตอร์เน็ตพอ วันที่ 10 กค. ก็เริ่มซ้อมตามโปรแกรมของ all-about-marathon
week no.3 วันอาทิตย์ที่ 10 ระยะ 16k
week no.4 วันอาทิตย์ที่ 17 ระยะ 19k จะเห็นว่ารอบสุดท้ายเดิน เพราะร่างกายไม่ไหวจะทน
week no.4 วันอาทิตย์ที่ 24 ระยะ 24k ก็เดินเหมือนกันในรอบสุดท้าย


วันที่ 12 สิงหาคม มีงานวิ่งวันแม่วิ่งบนถนนพระราม 3 หน้าหมู่บ้าน เลยไปร่วมกับงานด้วย ทำเวลาได้ 2.14 ชม.
แล้วพอวันที่ 28 สค.ก็ไปลองวิ่งสัมผัสบรรยากาศในกรุงเทพอีกครั้งที่มธ.ท่าพระจันทร์ ทำเวลาได้ 2.10 ชม.


เดือน กย. ไปเที่ยวน่านเอารองเท้าวิ่งไปด้วยโดยโปรแกรมซ้อมวันศุกร์วิ่งขึ้นลงบนดอยเสมอดาว ส่วนวันอาทิตย์ 34k ใช้เวลาวิ่ง 4 ชม.จาก รร.ถึงบ้านไร่ปลายดอย เลย อบต.เมืองจังไปนิดหนึ่ง 
ก่อนวิ่งไกลยาวไม่ได้โหลดคาโบ 5 วัน (ไม่รู้ไม่ได้หาข้อมูลด้านอาหารการกิน) แต่ใช้การกินแป้งมันข้าวกล้วยเยอะๆวันเสาร์

สตาร์ทตอนตี 4.30 น. ออกวิ่งคนเดียว เจอแก๊งปั่นจักรยานเขาก็มองๆเราอยู่ เขาคงว่าตาคนนี้ท่าจะบ้าออกมาวิ่งคนเดียวที่เปลี่ยวๆ มืดๆ สำหรับเส้นทางมีไฟถนนตลอด นานๆ จะมีรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ผ่านไปมา พอวิ่งมาถึงค่ายทหารช่วงนี้ไฟถนนไม่มีต้องวิ่งในความมืดไปเรื่อยๆ ซัก 10 นาทีได้ จนความสว่างของแสงแรกเริ่มมา (อารมย์นี้ทำให้เกิดความมั่นใจ ขึ้นว่า เราสามารถผ่านทุกๆอุปสรรคในการซ้อมได้)

จริงๆ ก่อนวิ่งเส้นทางนี้ได้คุยกะแฟนแล้ว แฟนว่าเมืองน่านเป็นเมืองที่ปลอดภัย ผู้คนใจดีเป็นมิตร ก็มั่นใจว่าวิ่งได้

วิ่งไปได้ 10k กว่าก็เจอชาวบ้านมาวิ่งออกกำลังกายกันแถวนั้นชื่อหมู่บ้าน... พอวิ่งไปอีกนิดก็เจออบต.เมืองจังตามแผน เลยไปอีกนิดก็คือจุด u-turn บ้านไร่ปลายดอย (ถ่ายรูป ทำธุระ นวดยา กินน้ำ) แล้ววิ่งกลับเลย ไปถึง ตอน 6.57 น. ใช้เวลาไป 1.48 ชม. ระยะทาง 17k

ขาวิ่งกลับ ช่วงผ่านหมู่บ้านไม่เหนื่อยวิ่งได้เรื่อยๆ ช่วงขึ้นเขาก็เดินขึ้นวิ่งลง 
ช่วงสุดท้ายอีก 5k ก่อนถึงสะพานพัฒนาภาคเหนือ อ่อนหล้ามาก แต่ก็คิดว่าจุดหมายปลายทางเหลืออีกนิดเดียว ถ้าไม่วิ่งต่อก็ไม่ถึง ไม่ได้พักผ่อน

ถึงจุดหมายก็ถ่ายรูป ขณะนั้นมีงานแข่งเรือ สภาพร่างกายเดินลำบาก หมดแรง คล้ายจะเป็นลม (เป็นอาการขาดน้ำขั้นรุนแรง ไม่ได้พกเป้น้ำ กินน้ำแค่ 2-3 ขวดเล็กระหว่างทางเท่านั้น) แต่ก็เดินกลับถึงรร.ให้ได้ อาบน้ำอุ่นน้ำเย็นแล้ว ได้นอนพัก 1 ชม. เพราะสาวๆ รอให้ขับรถพาไปเที่ยวในตัวเมืองน่าน



แผนเส้นทางจากกูเกิ้ล


จุด u-turn ใส่เสื้อส้มเพราะวิ่งมืดๆ คนขับรถจะได้เห็นแต่ไกล

เวลาขณะไปถึงจุด u-turn


จุดหมายปลายทางบนสะพาน




วันที่ 9 ตค. เป็นวันปิดคอร์สแรก 42k วิ่งไปได้ 12 รอบสวนลุมพินี ได้ระยะทาง 30k แต่แล้วช่วงหยุดซื้อน้ำเดินกินน้ำเกิดอาการเจ็บเท้าเส้นเอ็น จนวิ่งไม่ได้ จึงไม่สามารถปิดคอร์ส ไม่ได้เย่ๆๆๆๆๆ ;(

เจ็บเท้าพักไป 2 วันก็กลับมาซ้อมต่อ week no. 3 (ไม่ได้ Recovery ไม่รู้ไม่ได้หาขัอมูล อีกแล้วครับท่าน !!!???)

เริ่มกลับมาซ้อมวิ่ง week no. 3 เลยเพราะได้สมัครวิ่งจอมบึงมาราธอน 2017 ไว้แล้ว (Lotto ได้ดวงดี) ตามโปรแกรม week no.16 จะไปจบคอร์สที่งานวิ่งมาราธอนพอดี


เดือนพย.ซ้อมตามแผน วิ่งยาววันอาทิตย์ยังต้องเดินในรอบท้ายๆ เหมือนเดิม


เดือน ธค. วิ่งยาว 34k กับ 35 k ตามแผน ไม่ได้เดินเลย วิ่งจนครบ ซึ่งแสดงว่าพร้อมสำหรับมาราธอนแรกที่จอมบึง

  • ตารางฝึกซ้อม- ใช้ตารางของ all-about-marathon ซ้อมตามตาราง 2 รอบ ตามรูป








  • ผลกระทบต่อร่างกาย- เล็บหลุด, เคล็ดคัดยอกช่วงไหล่ขณะที่วิ่งผ่าน กม.25 , ปวดกล้ามเนื้อต้นขา เดินขึ้นลงบันไดลำบากมากมาย
  • การพักฟึ้นฟูร่างกาย- ใช้โปรแกรมของ stepextra ตามลิงค์ ตามรูปข้างล่าง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น