ss-เขียนเอง

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

ก้าวสู่ปีที่ 2 ของการฝึกซ้อมเพื่อเป้าหมายใหม่

เป้าหมายที่ว่าคือ TNT50 ตะนาวศรีเทรล มาราธอนลำดับที่ 4 (หรืออาจจะ TNT20 รอประเมินการฝึกซ้อม)


ด้วยความอยากเอาชนะความลำบากของเส้นทาง, คิดว่าตัวเองเหมาะกับเทรลมากกว่าถนน, งานนี้น่าจะสนุก, คิดว่าวิ่งเทรลแล้วจะพัฒนาการวิ่งถนนได้ดีขึ้นดีขึ้น, ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น, จ่ายค่าจองห้องพักโรงแรมแล้วตั้งแต่เดือน กพ.2560, พาภรรยาลูกไปเที่ยวไปเชียร์ ฯลฯ

เป้าหมายคือซ้อมหลัง Recovery มาราธอนแรกที่จอมบึง เพื่อวิ่งทำเวลาให้ต่ำกว่า 4.30 ชม.ใน มาราธอนลำดับที่สอง นาวิกโยธินมาราธอน (สเปค TNT50 คือทำเวลามาราธอนต่ำกว่า 4.30ชม.ไม่เกิน 6 เดือน)


ตารางฝึกซ้อมของปีที่แล้ว เอามาแก้ไข นิดหน่อยคือ 
  1. วันอังคาร พุธ ศุกร์ เพิ่มระยะทางเป็น 2 เท่า 
  2. วันอาทิตย์วิ่งยาวเหมือนของเก่า จะเห็นได้ว่าระยะรวมต่อสป.เป็น 57k-65k 
  3. กายบริหารช่วงแรกเดือนมค.-กค. situp 90 ครั้ง บริหารเอว 10 นาที และโยกบาร์ 100 ครั้งและอื่นๆที่อยากเล่น เวลาเหลือ ช่วงหลังกค.-ธค. situp 90*2 ครั้ง บริหารเอว 10 นาที และโยกบาร์ 100*2 ครั้งและอื่นๆ
  4. ใช้ warm up - cool down จาก ข.ขยับ และยืดเส้นแก้เจ็บเข่าจาก หมอสมิตตา

หลังจากซ้อมมาถึง week no.6 (12 มีค. 60) ประเมินสภาพตนเองพบว่า
  • pace ดีขึ้นในรอบหลังๆ (รอบ 5, 6 ทำเวลา รอบละ 15-16 นาที) 10k แรก พยายามให้ได้ 1 ชม.
  • หลังวิ่งเสร็จไม่เหนื่อยถึงกลับเรียกได้ว่าปกติเหมือนวิ่งเบาๆ ยืดเส้น แล้วกายบริหารต่อได้สบายๆ
  • กายบริหารหลังวิ่งเสร็จยืดเส้นเสร็จด้วยท่า situp 90 ครั้ง 1 เซ็ท โยกบาร์ 100 ครั้ง 1 เซ็ท หมุนเอว 10 นาที
  • ข้อแตกต่าง; ปีแรก วิ่ง 2 รอบสวนลุม แล้วกายบริหาร 1 ชม.เลยไม่ได้ cool down ยึดเส้น ส่วนปีที่สอง วิ่ง 5-6 รอบ แล้ว cool down ต่อด้วยกายบริหาร ได้ สภาพร่างกายพอๆกัน
  • น้ำหนักอยู่ที่ 65-67 กก.
  • อาการปวดเข่าดีขึ้นมาก
  • จนแทบไม่เจ็บแล้วไม่ตึงเข่าด้านนอกเมื่อวิ่งเสร็จ โดยใช้การวิ่งทับเส้น แค่ 2 วัน ซึ่งได้จาก 
ก่อนถึงเดือน กค. ไปซ้อมวิ่งฮาฟมาราธอนที่ วัดม่วง จ.อ่างทอง วันที่ 28 พค. 2560

ส่วนปีหน้า 2561 2018 มาราธอนลำดับที่ 4 เป็นตะนาวศรีเทรล TNT30 (ลง TNT60 ไม่ได้เพราะที่เชียงรายมาราธอน ทำเวลาได้ 4:41:07 ชม.) มาราธอนลำดับที่ 5 ภรรยาจองตั๋วเครื่องบิน airasia ไป-กลับขอนแก่นให้แล้ววันนี้ 12 มีค.60 (มีโปรพอดี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น