คำถาม: พฤติกรรมการกินและวิ่งในขณะนี้จะทำให้เกิดปัญหาสุภาพหรือไม่ ?
คำตอบ: จากการศึกษา 3 บทความข้างล่าง อาจจะมีปัญหาหากยังวิ่ง Zone 3+ มากเกินไป
บทความที่ 1
การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร รวมถึงการเผาผลาญสารพิวรีน การขับถ่ายของไตและลำไส้ การเพิ่มขึ้นของการเผาผลาญอาหารระหว่างการออกกำลังกายทำให้กรดยูริกในซีรั่มเพิ่มขึ้นชั่วคราว แต่การขับกรดยูริกในซีรั่มอย่างต่อเนื่องจะเพิ่มขึ้นหลังการออกกำลังกายดังนั้น นี่จึงไม่ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้กรดยูริกสะสมเพิ่มขึ้น
บทความที่ 2
กรดแลคติกคืออะไร?
กรดแลคติกเป็นรูปแบบหนึ่งของกรดเมตาบอลิกซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีกรดมากเกินไป กรดแลคติกเริ่มต้นเมื่อร่างกายสร้างกรดแลคเตตมากเกินไปหรือใช้กรดแลคเตตไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้
ในผู้ที่เป็นกรดแลคติก ปัญหาที่ตับ (และบางครั้งไต) ทำให้อวัยวะเหล่านี้ไม่สามารถกำจัดกรดส่วนเกินออกจากร่างกายได้ หากกรดแลคติกสะสมในร่างกายเร็วกว่าที่ร่างกายจะกำจัดได้ ระดับกรดในของเหลวในร่างกาย เช่น เลือด ก็จะเพิ่มสูงขึ้น
กรดสะสมในร่างกายทำให้ค่า pH ในร่างกายไม่สมดุล โดยควรเป็นด่างเล็กน้อยหรือเป็นด่างอ่อนๆ แทนที่จะเป็นกรด กรดมีอยู่หลายประเภท
การสะสมของกรดแลกติกจะเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อมีออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการสลายหรือเผาผลาญน้ำตาลในเลือด กลูโคส และไกลโคเจน การเผาผลาญโดยขาดออกซิเจนเรียกว่าการเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจน
บทความที่ 3
...
5️⃣ น้ำตาล Fructose ที่สลายต่อไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วจะได้สารกักเก็บพลังงานชื่อ NADH จำนวนมาก แต่ซึ่งปกติแล้วสาร NADH จะนำไปพลังงานที่กักเก็บนี้ ไปสร้างสารให้พลังงานในรูป ATP
แต่ว่าตอนนี้เซลล์มีฟอสเฟตต่ำลง จึงขาดวัตถุดิบการสร้าง ATP ส่งผลให้เซลล์มีสารชื่อ NADH คั่งอีก เซลล์ตับจึงพยายามหาที่ระบายสารนี้ทิ้ง โดยการใช้พลังงานที่กักเก็บนี้ในการสร้างกรดแลคติกแทน (Lactate)
.
6️⃣ กรดแลคติกที่มีมากขึ้น จะถูกขับออกทางไต แต่วิธีการขับนั้น จะต้องแลกกับการเอากรดยูริกจากน้ำกรองที่กรองออกไปแล้ว กลับสู่กระแสเลือดอีกครั้ง ดังนั้นถือเป็นการลดการขับยูริกที่ไต