วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วิ่งป่าใต้ในวีค 7/16

วิ่งยาวนี้ พอผ่านไป 3k ตอน 16:15 น.เกิดฝนตกลงมาหนึ่งห่า ที่นี่ล่ะบรรยากาศของสวนธนบุรีรมย์ก็เปลี่ยนเป็นป่าใต้ ความร้อนชื้นสูง อากาศเบาบาง ไม่มีลมพัด สวนนี้ต้นไม้เยอะอึดอัดเหมือนในป่า แถมตัวเปียก รองเท้าถุงเท้าเปียก ยิ่งเย็นค่ำยิ่งวิ่งยากมาก

แต่ด้วยจิตใจอันแข็งแกร่ง แน่วแน่ ก็วิ่งจบได้ ไม่เจ็บ มีแค่โลสุดท้าย ตึงๆ ตอดๆ บริเวณโคนขาหนีบเท่านั้น

ดีเหมือนกันถือโอกาสซ้อมฝนไปเลย วิ่งแข่ง 25 สิงหาคมนี้ ที่น่านมาราธอน น่าจะมีฝนตกอยู่เพราะปีนี้ลานินญา


วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วีค 6/16 เริ่ม easy

วิ่งยาววันอาทิตย์ 14k เที่ยวแรก 7k กดไป 39 นาที เที่ยวสอง จ๊อกกิ้ง 7k 46 นาที เคยได้ยินเขาว่าพอเลยวีค 8 ไปแล้วก็เริ่มเพิ่มความเร็วในการวิ่งแข่งได้



วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ผิดสูตรใน 24k วีค 5/16

แตกครับ!!!??? 🤪 ภายหลังการซ้อมวิ่งยาว 24k มีอาการเบื่ออาหาร ท้องเสีย ปวดเมื่อย สาเหตุจากมื้อเย็นวันเสาร์กินอกไก่ทอดกับส้มตำไทยปู ทุเรียน 1 พู พอวันวิ่งวันอาทิตย์มื้อเที่ยงกินลาบหมูกับน้ำตกหมู ขณะวิ่งก็ดื่มโอวัลตินเข้มข้นผสมไวตามิ้ลค์ อีก 

ปกติจะกินแป้งเยอะ แต่งวดนี้อัดเนื้อเกินเยอะไป

ผ่าน 10k / 1:05 hr ทำเวลาเท่ากับตอนวิ่ง 16k, 21k (วีค 4/16) ย่ามใจอยากลองว่าถ้าวิ่งให้เร็วขึ้น ไม่คุม HR ผลคือที่ 21k วิ่งเร็วขึ้น 10 นาที จริง แต่ร่างกายเป็นดังข้างต้น




วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ส่งการบ้านวีค 3/16 และ 4/16

วีค 4/16 วิ่งยาว 21k เกินระยะซ้อม 3k คือ ไปกลับ 7k 3 เที่ยวเป็น 21k วิ่งไปกินน้ำด้วยเอาน้ำไว้ที่จุดยูเทิร์น

ขากลับประมาณ 18k มีอาการปวดโคนขาหนีบซ้ายขวา และคล้ายตะคริววิ่งจากหน้าแข้งลงไปฝ่าเท้า เป็นแป๊บเดียวก็หาย

10k/1:05hr. Pace เฉลี่ย 6.30 พอ 11k+ pace เฉลี่ย กลายเป็น 7.30 คือพยายามคุม HR ไม่ให้เกิน 160 เพราะมีอาการเสียวหัวใจ 3 ครั้งตอน 15k ที่ HR ขึ้นถึง 160 

10k แรกวิ่งเร็วเท่ากับวีค 2/16 ที่วิ่ง 16k พอเลย 11k+ ความเร็วตกลงเห็นๆ เป็นปกติของการฝึกซ้อมมาราธอนพอเลย วีค 10 ขึ้น ความฟิตจะเข้าที่  pace จะคงที่เอง (หรือเปล่า 555 !???!)




วีค 3/16 วิ่งยาว 16k