ss-เขียนเอง

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Keep showing up

 Running Insider

21 กันยายน · 

ที่มา: https://www.facebook.com/RunningInsider/photos/a.255773255188261/812505692848345/?type=3&theater



นี่คือ “เดส ลินเดน” แม่ทัพหญิง แห่ง Brooks Running ว่าด้วยเกียรติประวัติที่ไม่ธรรมดาของเธอตอนอายุ 24 เธอลงแข่งบอสตันมาราธอนครั้งแรก ในวัยนั้น เธอทำได้ดีที่สุดอันดับที่ 19 ใครจะรู้ว่าอีก 11 ปีต่อมาที่สนามเดิม เดสิรี่ คนเดิมจะขึ้นเป็นราชินีมาราธอน ของงานยูนิคอร์นได้สำเร็จ เธอคือใคร รันนิ่งอินไซเดอร์ มีเรื่องราวของเดส พอสังเขป มาเล่าสู่กันฟัง

เดส ลินเดน - Desiree Linden (Davila)

เดสิรี่ คือชื่อ ทางการ

เดซี่ คือ ชื่อที่แม่เรียก

เดส คือ ชื่อเล่นที่หลายคนเรียกเธอ

กว่า 1 ทศวรรษ ที่คุณเดซี่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความพากเพียรพยายาม ซ้อมตามตารางอย่างสม่ำเสมอ คือ สูตรไม่ลับ นำทางมาทั้งความเร็ว และความแข็งแกร่ง

เดส เกิดและเติบโตในฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเมืองแซนดิเอโก ตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในตอนเด็กเธอชื่อชอบการเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เป็นขาแรงของเพื่อนๆ ในทีม เธอวิ่งลุยลำเลียงลูกไปหน้าเส้นอยู่เป็นประจำ สถิติการวิ่งสมัยเรียนไฮสคูล น้องเดซี่ เคยวิ่งได้ต่ำกว่า 5 นาทีต่อ 1 ไมล์ ถ้าว่ากันตามตรง ชีวิตวัยรุ่นคล้ายๆ กับหนุ่มสาวชาวอเมริกันในยุค 90s ทั่วไปคือ ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ในขณะเดียวกัน ตามบริบทสังคมอเมริกันการได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนที่มีผลการแข่งขันกีฬายอดเยี่ยม ก็เป็นใบเบิกทางที่ดีเช่นกัน

เดส มีโปรไฟล์วิ่ง 800 เมตร และ 10,000 เมตร ของโรงเรียนพ่วงท้ายเมื่อช่วงชีวิตการเรียนไฮสคูลระเหยไป วัยรุ่นสาวหน้าเข้ม ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ “แอริโซนาสเตท” แน่นอนว่า ที่นี่มีชมรมกีฬา ที่พร้อมปั้นดินเป็นดาว ตามแบบฉบับมหาวิทยาลัยเมืองลุงแซม 

เดส เลือกเรียนวิชาเอก ด้านจิตวิทยา ส่วนนอกห้อง เธอเริ่มเอาดีด้าน Track And Field และ Cross Country เธอวิ่งเป็นรถถัง ไม่เคยกลัวเจ็บ กลัวล้ม ภายใต้เสื้อกล้ามสีขาวแดงของ แอริโซนาสเตทเดส ทำผลงานได้สวย เธอติดทีม All-American ถึง 2 สมัย จากผลงาน ครอสคันทรี่ และอีกสารพัดรายการ หลายคนเห็นแววว่า เธอเหมาะนักกีฬาจริงจังมากกว่าร่อนใบสมัครงานผ่านเว็บไซต์ เพราะ All-America เปรียบเสมือนทีมที่รวมนักวิ่งเก่งเบอร์ต้นๆ ของภูมิภาคนักกีฬาโอลิมปิกรุ่นพี่หลายคนเริ่มไต่เต้าจากโปรแกรมนี้

เดสเข้าร่วมกับ Hansons-Brooks Distance Project หรือโครงการพัฒนานักกีฬาวิ่งของ Brooks Running มาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะการพบกับเฮดโค้ช เควิน แฮนสัน ต้นตำรับ การปั้นนักแข่งมาราธอน เดสไม่เคยเปลี่ยนใจ Brooks จากสมาชิกตัวจ้อย เธอปรากฏตัวด้วย เสื้อทีมจาก Brooks จนเป็นภาพจำตอกย้ำสโลแกน “Running is a gift - Run happy”

หลายปีมาแล้ว ที่เดสิรี่ ลินเดน ย้ายถิ่นที่อยู่ไปอย่างสุดขั้วจากที่เคยซ้อมวิ่งในเขตสายลมสายแดดของแคลิฟอร์เนียเปลี่ยนไปอยู่เมือง ชาร์เลอวัว (Charlevoix) เข้าใจว่าเป็นการย้ายตามสามี หลังแต่งงานในปี 2013 เธอและครอบครัวได้ปักหลักอยู่นั้น ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับแคนาดา ที่นั่นมีอากาศหนาวเย็นอย่างน้อยปีละ 8 เดือน แต่ละปี เดสมีตารางแข่งขันมาราธอนที่แน่นอน

ในแง่ของนักวิ่งอาชีพ ที่ต้องยึดสถิติไว้บนหัวตาราง เดสิรี่ เคยวิ่งได้อันดับ 5 ในชิคาโก้มาราธอนปี 2008 กดเวลาไว้ที่ 2:31 ชั่วโมง แต่ในห้วงเวลานั้น น่าจะเข้าสู่ช่วงอัสดงของนักวิ่งหญิงอเมริกัน เพราะไม่มีใครสามารถขึ้นมาเอาชนะ กองทัพสาวร่างปราดเปรียวจากกาฬทวีป

นักวิ่งฝั่งแอฟริกา เคนย่า เอธิโอเปีย ได้เลย ที่พวกเธอ บินมาผูกขาด เป็นแชมป์สนามสำคัญไว้ทั้งสิ้น

พูดง่ายๆ ว่า งานเมเจอร์อย่าง บอสตัน นิวยอร์ก ชิคาโก้ ธงชาติอเมริกาไม่เคยได้โบกสะบัดบนโพเดียม ทว่าการขยับขับเคลื่อนของเดส และ Brooks ได้สร้างสถิติส่วนตัวที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จากมาราธอนที่ 2:31 เธอกดลงมาที่ 2:26 ในรูทเดิมที่ชิคาโก้ปี 2010 จากนั้นเมษายนปี 2011 เดสยังกดเวลาที่บอสตัน ลงไปได้อีก 4 นาทีเศษ ทำเวลาที่ 2:22:38 นับเป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่นักวิ่งหญิงอเมริกันทำได้ในบอสตัน

แต่ก็มีเรื่องแย่ๆ ไม่คาดฝันตามมาในปี 2012 ปีที่ได้เดสได้สิทธิ์ไปแข่งมาราธอนที่โอลิมปิกลอนดอนสนามที่ควรจะสง่างามที่สุดของนักวิ่งสาววัย 29 ปีผู้กำลังท็อปฟอร์ม คนที่ปักหลักให้กับซ้อมวิ่งฟูลฯ มานานกว่า 6 ปี แต่แล้ว...งานนี้ เธอกลับบาดเจ็บต้องออกจากการแข่งขัน ตั้งแต่ กม. ที่ 3 !

สาเหตุเธอเจ็บกระดูกต้นขา ไปจนถึงข้อสะโพก มันรุนแรงให้เลือกออกจากสนามไปด้วยความบอบช้ำ หากโอลิมปิก คือ จุดสูงสุดของนักกีฬา การไปไม่ถึงฝั่งฝันของงานนี้ก็คือ ความระบมของความทรงจำ

เดสต้องรักษาตัวพร้อมกับคำถามหนักข้อว่า ... ตอนอายุ 30 เธอจะยังเอาดีด้านนี้อีกไหม ? 1 ปีถัดมา เธอกลับมาล้างตาที่สนามแดนยุโรปอีกครั้ง เธอทำไปที่ 2:29 ชั่วโมง ในเบอร์ลินมาราธอน แม้ไม่มีรางวัลอะไรติดไม้ติดมือแต่ได้เรียกความเชื่อมั่นให้ตัวเอง

ทีม Hansons ดูออกว่าเดสยังต้องการกลับไปโอลิมปิกอีกสมัยแม้จะต้องเจอกับอะไรยากเย็นที่รออยู่ก็ตามแต่ด้วยอายุที่มากขึ้น และคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงในบอสตันตอนปี 2014 เดสขยี้ความเร็วเฮือกสุดท้ายที่ 2:23:54 แม้ไม่เร็วกว่าเดิม แต่นั่นก็ยืนยันได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ของจริง !

จวบจนถึงต้นปี 2016 เดสิรี่ ผ่านการคัดตัวในสนาม u.s olympic team trials เธอ คือ นักวิ่งหญิง 3 คนแรกที่เร็วที่สุดของประเทศอเมริกามุ่งหน้าไปแข่งโอลิมปิกที่ริโอ เธอได้ที่ 2 ของงานคัดตัว

ได้ร่วมทางกับ เอมี่ เคร็ก และชาเลน เฟลเนแกน

สื่อมวลชน เทความสนใจให้ขาแรงจากไนกี้ ชาเลน เฟลเนแกน ซะเป็นส่วนใหญ่ ด้านเดสิรี่ ไปงานนี้เพื่อล้างตาที่เคยหยุดแค่ กม.3 วันนั้นที่ ริโอ อากาศไม่ดีนัก แต่นักวิ่งหญิงจากอเมริกัน

ได้พากันเข้ามาเป็น Top 10 ของรายการ ชาเลน เฟลเนแกน ได้ที่ 6 เดส ลินเดนได้ที่ 7 เดสผ่านสมรภูมิโอลิมปิกครั้งที่ 2 อย่างภาคภูมิ ทั้งคู่ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักวิ่งหญิงอเมริกันที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ

แม้เคยแข่งกันมาแล้วหลายหน ไม่มีใครบอกได้ว่า ในอนาคต หากสองคนนี้โคจรมาเจอกันอีก

ใครจะชนะใคร ?!?

2 ปีต่อมา ที่บอสตันมาราธอนอีกครั้งของเดส ผ่านมาแล้ว 11 ปีที่เธอมาแข่งที่นี่ครั้งแรก

ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากพยากรณ์อากาศ 12 ชั่วโมงก่อนแข่งว่า ปีนี้สภาพอากาศจะเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี !

ในวันแข่งอย่างที่เราทราบกันดีครับ มาราธอนครั้งนี้ มีพายุเข้าก่อนเปิดสนาม 2 ชั่วโมง ผู้จัดงาน ไม่ได้ประกาศยกเลิกการแข่งขัน นักวิ่งเวฟแรก ยืนหนาวสั่น เธอดูจากฟ้าฝนแล้ว ก็ได้แต่คิดว่า

“ฉันไม่พร้อมแน่เลย เรซนี้อาจจะเป็นเรซธรรมดา ที่พาฉันไปสู่การได้อันดับดีๆ ในเรซหน้า”

ฉากนี้ คือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เธอยืนอยู่บนเส้น Start ที่เมืองฮ็อปคินตัน และรู้ตัวอย่างดีว่า

กำลังจะต้องวิ่งตากฝนไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง บนถนนคอนกรีตลื่นๆ และลมกรรโชกแรง

จากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ สู่ดาวน์ทาวน์

เธอเล่าเอาไว้ในรายการ RichRoll’s Podcast ว่า ระหว่างที่เธอวิ่งไปพร้อมกับ ชาเลน เฟลเนแกน เพื่อนนักวิ่งชาวอเมริกัน เธอหันไปบอกชาเลนว่า “ชาเลน ฉันรู้ว่าวันนี้ ไม่ใช่วันของฉัน

ถ้าเธออยากให้ฉันช่วยอะไรก็บอกได้เลย ฉันสามารถวิ่งบังลมให้เธอได้”

แต่หลังจากที่การวิ่งผ่านไปได้ราวๆ 1 ชม. ชาเลน หันกลับมาถามเดสว่า “เธอคิดว่ายังไง ถ้าฉันจะหยุดเข้าห้องน้ำ” แล้วชาเลน ก็หยุดเข้าห้องน้ำจริงๆ เสียเวลาบนข้อมือไปอย่างน้อย 13 วิ.

ทางด้านของ เดส เธอก็ยังคงวิ่งจ๊อกกิ้ง มองหลัง เพื่อรอชาเลน เดสยังรักษาคำพูดที่ให้ไว้

เดส ลินเดน ทำเพื่อคนเธอที่คิดว่าเขาน่าจะทำได้ดีกว่าตัวเองอีกอย่าง ชาเลน เคยเปรยๆ ว่า กำลังจะรีไทร์จากการแข่งวิ่งมาราธอน ปีนี้-งานนี้ นับเป็นสนามท้ายๆ ในวงการ

แต่พอการแข่งผ่านไป 90 นาที - ผ่านไป 120 นาที เดส ยังคงทำหน้าที่หัวลากให้กับชาเลน

จนกระทั่ง ความเร็วของ ชาเลน เริ่มช้าลงเอง ทางด้านนักวิ่งจากฝั่งแอฟริกา เจอฝนและลม

เล่นงาน เรียกได้ว่า งานนี้พัง วิ่งกันไม่ออก ไม่มีใครอยากหลุดเดี่ยว เป็นหัวธนูกลางพายุ นี่เป็นการวิ่งมาราธอนที่ผิดแผกแตกต่างอย่างที่สุด ไม่ใช่การเกาะกลุ่ม ทัศนวิสัยบางช่วงมองได้ไม่ถึง 20 เมตร

น้อยคนที่จะสามารถทนต่อสภาพอากาศของวันนั้นได้ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ เดส อย่าลืมว่า บ้านของเธอ อยู่ในดินแดนหิมะ และเธอซ้อมวิ่งท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ อยู่เป็นประจำ เดสยังคงวิ่งต่อไปไม่หยุด เธอวิ่งโดยไม่รู้ว่า ใครขึ้นนำ

ส่วนหนึ่งเพราะขวดน้ำของ Elite ถูกลมพัดล้มไปหมด เจ้าหน้าที่ประจำโต๊ะรายหนึ่งตะโกนว่า

American Keep Running เดสได้ยินไม่ชัดว่า เธอขึ้นนำเป็นนักวิ่งอเมริกันคนเดียว ช่วงนั้นคือ กม. 35 7 กม. ต่อจากนั้น ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก็ได้เกิดขึ้น เดสใช้เวลาไปทั้งสิ้น 2:39:54 ชม.

เธอเป็นคนแรกที่ถึงเส้นชัย

ทีมงาน Brooks ที่รออยู่ปลายทาง ทุกคนเชื่อว่า เดสจะไม่ดร็อป ไม่ยอมแพ้ และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอส่วมกางเกงวิ่งขาสั้น กับเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ-เขียว ตัวบางแนบตัวมีชื่อ Hansons ทีม พร้อมกับรองเท้าสีดำคู่ปริศนา

สาวแกร่ง วิ่งลุยฝนมาแล้ว 42กม. ในช่วงอุณหภูมิเลขตัวเดียว ก่อนเข้าสู่ทางตรงสุดท้าย

แล้วเธอก็ Break the tape เข้าสู่ชัยชนะ ขึ้นแท่นเป็นนักวิ่งหญิงอเมริกันคนแรกในรอบ 33 ปี ที่ยืนหนึ่งในงานนี้ได้สำเร็จ

33 ปีที่ไม่มีนักวิ่งหญิงอเมริกันชนะงานนี้เลย เดสได้ห่มผ้าอุ่นๆ ที่ปลายทางเสียที เดสิรี่ ทำสำเร็จ !

ชัยชนะนี้ช่างเสียงดังกังวาน เพราะการรอคอยที่ยาวนาน ของชาวอเมริกันในรอบ 33 ปี และ 11 ปีของตัวเธอเอง

ภาพที่เธอยืนคู่กับ ยูกิ คาวาอุชิ แชมป์ฝ่ายชาย ทั้งคู่ตัวเปียกปอน มีน้ำตาแห่งความปิติยินดี

ภาพดังกล่าวถูกตีพิมพ์ทั้งบนหน้าหนังสือพิมพ์และโซเซียลมีเดียกระฉ่อนโลก พลิกชีวิตในชั่วข้ามคืน

นี่คือ แบบอย่างของนักวิ่งมาราธอน ที่อดทนและเฝ้ารอ ไม่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายจะเรายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของพายุ

เธอกล่าวในงานแถลงข่าวตอนรับรางวัลว่า นี่คือ วันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการวิ่งของฉัน

ฉันอยากออกจากแข่งขันงานนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ฉันก็ยังไม่ออก ฉันก็ไปของฉันเรื่อยๆ

ไม่คิดหรอกว่าวันนี้จะผ่าเส้นชัยเข้าเป็นที่ 1

“บางวัน การวิ่งมันเหมือนกับว่า ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มันเป็นอะไรที่ง่ายมาก ในขณะที่บางวัน

ฉันก็รู้สึกแบบว่า ‘นี่มันนรกชัดๆ’ แต่ทุกวันที่ผ่านมา ฉันเป็นคนเลือกเองว่า วันนี้จะออกไปให้พ้นจากประตูบ้านหรือไม่ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า ผลของการวิ่งวันนี้ มันจะเป็นอย่างไร

สิ่งที่ฉันอยากบอกทุกคนก็คือ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ให้ออกไปวิ่ง ทำอย่างสม่ำเสมอ

"Keep showing up” คำพูดของสาวร่างเล็ก ที่บอกกับแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์เมื่อเร็วๆ นี้

และนี่คือ เดส ลินเดน รักษาการซ้อม ~ รักษาคำพูด Elite ผู้เป็นแม่ทัพให้กับ Brooks Running

นักวิ่งที่เราหลงรักเธอ

[ บทความนี้สนับสนุนโดย Brooks Thailand ]

ถ้าคุณชอบ ชวนแชร์ เป็นกำลังใจให้พวกเรานะครับ

#HyperionElite2

#BrooksRunning

#RunHappy

#RunningInsider

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น