ss-เขียนเอง

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การใช้สารกระตุ้น (Doping)

วงการกีฬาปัจจุบัน จะมีนักกีฬาส่วนหนึ่งแอบใช้ สารกระตุ้น เพื่อหวังชัยชนะและชื่อเสียง ยอมเสี่ยงกับชื่อเสียงและผลเสียต่อร่างกายในอนาคต สารกระตุ้นที่เป็นที่นิยมขณะนี้ คือ Erythropoietin (EPO – อีริทโธรพอยเอทิน) หรือ blood doping (การกระตุ้นด้วยเลือด)

EPO คือ อะไร
EPO คือ ฮอร์โมนที่ผลิตจากไต ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง จากไขกระดูก ระดับฮอร์โมน EPO สามารถตรวจวัดได้ในเลือด EPO สามารถสังเคราะห์ได้ และใช้รักษาโรคโลหิตจาง 
ไต ที่ผลิต EPO จะตอบสนองอย่างรวดเร็ว ต่อระดับอ็อกซิเจนในกระแสเลือดที่ต่ำ ที่ไหลผ่านไต ไตจะผลิตและปล่อย EPO เมื่อพบว่าอ็อกซิเจนต่ำเกินไป การที่ระดับอ็อกซิเจนต่ำ หมายถึง จำนวนเม็ดเลือดแดงลดลง (โลหิตจาง) หรือ โมเลกุล ฮีโมโกลบิน ที่ลำเลียงอ็อกซิเจนเข้าสู่ร่างกายลดลง 
EPO กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดแดง การที่มีเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้การลำเลียงอ็อกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดได้มากขึ้นนั่นเอง ตรงนี้เองที่ทำให้นักกีฬาอย่างนักวิ่งมาราธอน หรือนักปั่นจักรยาน มีพละกำลังเพิ่มขึ้น อึดขึ้น

นักปั่นจักรยาน แชมป์ Tour de France (ตูร์ เดอ ฟร็องซ์) 7 สมัยอย่าง Lance Armstrong สารภาพว่าได้ใช้สารกระตุ้น EPO แต่ที่ก่อนหน้านั้นไม่สามารถตรวจเจอได้ เป็นเพราะว่า สารกระตุ้นตัวนี้ เป็นสารที่ร่างกายเราสามารถสังเคราะห์เองได้ 
การเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในร่างกายอีกวิธีหนึ่ง มีชื่อว่า "Blood Transfusion" นั่นคือการถ่ายเลือดมาเก็บไว้ในถุง แล้วนำไปปั่นเอาเฉพาะเม็ดเลือดแดงฉีดกลับเข้าไปในร่างกายก่อนลงสนาม วิธีนี้จะทำให้เลือดข้นขึ้น ซึ่งได้ผลเหมือนกับการใช้สาร EPO คือจะทำให้ร่างกายดูดซับออกซิเจนได้มากกว่าปกติ

โดยทั้งการใช้สาร EPO และการถ่ายเลือด สามารถเรียกรวมกันได้ว่าเป็นวิธี Blood Doping หรือการกระตุ้นด้วยเลือด ซึ่งปกติมีการใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจาง แต่ถือเป็นวิธีที่ผิดในการแข่งขันกีฬา และจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว ….Sukirin Taweesuk Veloce Team

ที่มา : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10217296019822056&set=gm.1036593716527486&type=3&eid=ARDZDSoz5T3jFeXbgqaAKTIr6CzZPZlYMBtvv52Xyyq5bZ6dQKxizNI2KvfstPZAc8-pP_fSh9lJfOEy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น