ss-เขียนเอง

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564

5 ประโยชน์ของการวิ่ง เรื่องจริงจากผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา

 คุณหมอชวนรู้ 5 ประโยชน์ของการวิ่งที่ใครได้อ่านแล้วรับรองว่า...ไม่วิ่งไม่ได้แล้ว!! โดย นพ.กรกฎ พานิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น


การวิ่งเป็นกีฬายอดฮิตและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายคนไปเรียบร้อย เนื่องจากการวิ่งเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายเเละมีประโยชน์ ทั้งในเรื่องของการประหยัดเวลา ไม่ต้องเน้นอุปกรณ์ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ รวมถึงเรื่องของการปรับระดับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้อีกด้วยซึ่ง 5 ประโยชน์ของการวิ่ ที่ใครได้อ่านแล้วรับรองว่าไม่วิ่งไม่ได้แล้ว โดย นพ.กรกฎ พานิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้แก่1. ลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และอายุยืนขึ้น


การวิ่งและการเดินอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ป่วยลดลง โดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน ลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด (1) และโรคมะเร็ง (2) เป็นต้น รวมถึงมีอายุยืนขึ้น มีงานวิจัยพบว่าการวิ่งเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน โดยเปรียบเทียบ ระหว่างผู้ที่วิ่งและไม่วิ่ง พบว่า แม้วิ่งเพียง 50 นาทีต่อสัปดาห์ อย่างสม่ำเสมอ จะมีโอกาสเสียชีวิตต่ำกว่าผู้ที่ไม่วิ่งถึง 30% และมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่วิ่งถึง 3 ปี (1)2. กำจัดไขมันสะสม


การวิ่งเป็นประจำช่วยในเรื่องการลดไขมันได้เป็นอย่างดี หากต้องการวิ่งเพื่อลดไขมันสะสม ในแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องวิ่งจนเหนื่อย แต่ควรวิ่งให้รู้สึกสบายๆ ด้วยความเหนื่อยปานกลาง (moderate intensity) หรือวิ่งโซน 2 (ของความหนักของการทำงานของหัวใจ) อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30 - 45 นาที จะทำให้ร่างกายสลายไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน จะช่วยในเรื่องของการลดไขมันสะสมได้เป็นอย่างดี หากวิ่งให้นานขึ้น ก็จะเผาผลาญไขมันออกไปได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่มีเวลาไม่มาก สามารถวิ่งโดยใช้ความเร็วและวิ่งให้เหนื่อยพอประมาณสลับกับวิ่งสบายๆ (หนักสลับเบา หรือ โซน 4-5 สลับกับโซน 2) แต่มีข้อควรระวัง ในการวิ่งหนักสลับเบา ร่างกายจะทำงานหนัก และอาจบาดเจ็บ หรือเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดได้ ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้วิ่งอย่างสม่ำเสมอ หรือนักวิ่งมือใหม่3. เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ


การวิ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแล้ว มวลกล้ามเนื้อที่มากขึ้นยังเป็นแหล่งสะสมพลังงานในรูปไกลโคเจน และใช้น้ำตาลในร่างกายในขณะวิ่ง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน หรือแม้กระทั่ง คนในวัยทำงานแต่ใช้เวลาทั้งวันในการนั่ง มักจะมีปัญหากล้ามเนื้อลีบเล็ก ไม่แข็งแรงทั้งสิ้น เกิดผลเสียที่ชัดเจน เช่น มีมวลกล้ามเนื้อช่วยเผาผลาญน้ำตาลลดลง อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะสูงขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่มวลกล้ามเนื้อมากกว่า4. ปรับสภาวะอารมณ์ ลดความเครียด


ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย อีกทั้งยังทำให้เกิดปัญหาทางด้านอารมณ์ที่ส่ง ผลต่อร่างกาย ทำให้นอนหลับไม่มีคุณภาพ การวิ่งแบบหนักปานกลาง (moderate intensity) ช่วยให้หลับอย่างมีคุณภาพ แม้กระทั่งในผู้สูงอายุ (3)  สำหรับเวลาของแต่ละท่านในการวิ่ง อาจเป็นช่วงที่ท่านสะดวก มีบ้างที่บางท่านอาจวิ่งหนัก หรือ ดึกเกินไปจนทำให้นอนไม่หลับ ก็อาจปรับเวลาไม่ให้ดึก หรืออาจลดความหนักของการวิ่งลง


5. ปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น


เพราะบุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อสุขภาพภายในดี ร่างกายแข็งแรง รูปร่างดูสมส่วน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรงโดยเฉพาะเรื่องของความมั่นใจและการเข้าสังคม การวิ่งเป็นประจำจะมีการเผาผลาญไขมันสะสม ทั้งในช่องท้องและผิวหนัง หากท่านวิ่งเป็นประจำจนกระทั่งไขมันสะสมที่ผิวหนัง (เซลลูไลท์) ลดลง ผิวหนังสวย เนียนขึ้น ความมั่นใจก็ตามมาสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นการวิ่งเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี ช่วงนี้มีแคมเปญงานวิ่งเสมือนจริงที่ยิ่งใหญ่ระดับเอเชียแปซิฟิก Get Moving With Good Nutrition โดยจะมีกิจกรรม Asia Pacific Get Moving With Good Nutrition 2021 Virtual Run ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนออกกำลังกายในรูปแบบใหม่ที่จะได้ทั้งสุขภาพและความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน และเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ในความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพันธกิจที่ต้องการทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น พบหลากหลายเคล็ดลับดีๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก Herbalife Nutrition และอินสตาแกรม https://www.posttoday.com/life/healthy/660988

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น