ss-เขียนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563

5 ข้อ เรียกคืน"สติ"ให้นักวิ่ง ในภาวะ Covid-19

ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง
12 มีนาคม เวลา 18:08 น. ·
5 ข้อ เรียกคืน"สติ"ให้นักวิ่ง ในภาวะ Covid-19
.
หลังจาก WHO ประกาศระดับการกระจายของการระบาด Covid-19 เป็น Pandemic หรือการระบาดใหญ่ โรคนี้ไม่ได้รบกวนแค่สุขภาพร่างกายของพวกเราเท่านั้น แต่ยังรบกวนต่อสภาพภายในจิตใจของเพื่อนๆนักวิ่งด้วย เพราะมีบ้างแล้ว ที่เราเริ่มตระหนักจนตระหนก รีบเร่งหาซื้อแต่หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ไหนจะวกวนเป็นห่วงครอบครัวอีก นอกจากจะเครียดเรื่องงานแล้ว ยังมาเครียดเรื่องนี้ไปอี๊กกกก
.
ทีนี้นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะแนวทางการปฎิบัติให้กับเราไว้ 5 ข้อ เพื่อให้สามารถข้ามผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้
.
1.#Senseofsafe ความรู้สึกปลอดภัย โดยการหันมาดูแลสุขภาพตนเอง ด้วยหลักการควบคุมและป้องกันโรคที่ชัดเจน เช่น การกินร้อน ช้อนกลาง การล้างมือด้วยสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
.
การวิ่งของเรายังสำคัญอยู่นะคะเพื่อนๆ เราอาจจะวิ่งในลู่ วิ่งรอบบ้าน วิ่งอยู่กับที่ในบ้านอย่างน้อยให้ได้ครึ่งชั่วโมง อย่าห่างหายจากการวิ่งไป เดี๋ยวความฟิตจะหายไป สำหรับการใช้mask ควรแยกระดับความปลอดภัย สำหรับผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ต้องใช้maskแบบN95 ผู้ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงรวมทั้งผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อได้สูงควรใช้ surgical mask หากเป็นประชาชนทั่วไปใช้เพียง maskผ้าก็เพียงพอ
.
2.#Calm ความสงบ ในกรณีนี้หมายถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร อย่างมีสติประชาชนควรรับและส่งต่อข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือสูงเช่น ข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ไม่รับข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูลที่สร้างความตระหนก เลือกรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป
.
3.#Hope การมีความหวัง โดยช่วยกันป้องกันตามข้อ 1) เพื่อให้คงอยู่ในการระบาดระดับ 2 ให้นานที่สุด พิจารณาว่าอะไรที่เราสามารถทำได้ในสถาการณ์วิกฤตนี้ เช่น กรณีmaskไม่เพียงพอต่อความต้องการ เราควรกลับมาพิจารณาการใช้maskผ้าหากมิใช่เป็นผู้ป่วยหรือบุคลากรที่ต้องสัมผัสผู้ป่วย
.
สำหรับการมีความหวังในมุมมองทางด้านธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้สถานการณ์วิกฤติก็มีความสำคัญ เช่น ศูนย์การค้า และสถานที่ทำงานควรมีการคัดกรองการมีไข้และการไอจาม ก่อนเข้าอาคารเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและการทำงานตามวิถีปกติ ป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะงักงัน ยกเว้นสถานการณ์จะเปลี่ยนซึ่งควรมีแผนรองรับไว้เช่น ระบบที่เอื้ออำนวยต่อการทำงานที่บ้าน
.
4.#Efficacy การทำให้เกิดผลทั้งต่อตนเองที่ประชาชนรู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง เลือกรับฟังข่าวสารอย่างเหมาะสม ฝึกการผ่อนคลายความเครียด ฝึกสติ และโดยชุมชนหรือองค์กรที่ควรมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคขององค์กร หรือจิตอาสาการทำ mask ผ้า หรือช่วยกันทำให้กิจกรรมสามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ เช่น การประชุม สัมมนา การจัดงานโดยมีการความคุมโรค รวมทั้งมีการร่วมกันคิดหาทางช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและค่าครองชีพเพื่อให้สมาชิกในชุมชนและองค์กรผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้
.
5.#Connectedness การใช้สายสัมพันธ์ที่มีอยู่แล้วทั้งในครอบครัวซึ่งเป็นโอกาสที่จะมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน หากมีผู้ป่วย(โรคใดก็ตาม) เน้นในเรื่องของกำลังใจ สำหรับในชุมชนหรือองค์กรที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่เสี่ยงต่อโรคโรคโควิด-19 ไม่ควรรังเกียจ ควรเห็นอกเห็นใจ
.
และให้เขาสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้เขาสามารถอยู่ได้โดยไม่ก่อปัญหา หากพวกเราไปสร้างความรังเกียจจะยิ่งส่งผลให้เขาลำบากใจในการใช้ชีวิตและการดูแลตนเองการให้กำลังใจซึ่งกันและกันสามารถเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ให้ทุกคนในครอบครัว ชุมชนและองค์กรสามารถป้องกันโรคและมีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป
.
ข้อมูล : นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
.
THAIRUN อยากให้เพื่อนๆมีกำลังใจในการต่อสู้กับโควิด-19 การทำร่างกายให้แข็งแรงด้วยการ “วิ่ง”
เป็นอีกทางเลือกให้เพื่อนๆ เสริมสร้างสุขภาพให้ห่างไกลจากโควิด 19 ค่ะ
.
THAIRUN | ฮับความสุขนักวิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น