ss-เขียนเอง

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

ไม่มีวันที่อากาศแย่ มีแต่วันที่แต่งกายไม่เหมาะสม

นักวิ่งยังเต็มสวน งานวิ่งยังมีทุกอาทิตย์ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าฝุ่นควัน pm 2.5 พวกนี้ ได้รับเข้าไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หัวใจวาย เส้นเลือดในสมองตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ในคนที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ ยังไม่นับรวมผลต่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมายที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย

แต่ผมก็เข้าใจหัวใจนักวิ่งทั้งหลาย บางทีมันก็อดไม่ได้ แต่เวลาเราออกกำลังกายเราจะหายใจแรงขึ้น ดังนั้นจะได้รับสารพิษมากขึ้น 
จริงๆมีงานวิจัยว่าออกกำลังกายได้ หนัก ได้ นานแค่ไหนถึงจะเริ่มเกิดผลเสีย ในสภาพมลภาวะ ซึ่งยิ่งเราออกหนักหรือมลพิษสูงขึ้นเวลาที่ควรอยู่กลางแจ้งก็น้อยลงไป แต่ก่อนจะไปสนใจว่าเรามีโควต้าร์อยู่กลางแจ้งกี่นาที ผมคิดว่าเราควรยึดตามสุภาษิตสวีเดนที่บอกไว้ว่า "there is no bad weather, there are only bad clothes” ไม่มีวันที่อากาศแย่ มีแต่วันที่แต่งกายไม่เหมาะสม 
ดังนั้นช่วงนี้ใครที่จำเป็นต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งก็หาหน้ากากป้องกัน n95 มาใส่กันไว้ก่อน หายใจยากขึ้นมาหน่อย วิ่งเร็วๆไม่ค่อยไหว ก็ลองวิ่งช้าลงสักนิดปรับความหนักโปรแกรมลงสักหน่อยแต่ถือว่าฝึกพลังปอดละกัน(ผมลองแล้วถ้าวิ่งโซน 3 ลงมาก็พอไหว) หรือเปลี่ยนไปวิ่งบนลู่ในบ้านในฟิตเนสบ้าง ปลอดภัยกันไว้ก่อนนะครับ(เลือกหน้ากากแบบมีวาล์วก็ช่วยได้นิดหน่อย เพราะแบบปกติเวลาเราหายใจออกแรงๆหน้ากากมันจะโป่งออกแล้วเลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิม แต่ถ้ามีวาล์วเวลาหายใจออกมันจะออกทางวาล์ว เวลาหายใจเข้าวาล์วก็จะปิด )
ซึ่งประเทศอื่นๆต่างพากันเตือนนักท่องเที่ยวของตนที่เดินทางมาในประเทศไทยว่าต้องใส่หน้ากากป้องกัน แต่คนในบ้านเรากลับไม่ค่อยมีความตระหนักถึงอันตราย ใครใส่กลับกลายเป็นตัวประหลาด ไปบอกให้ผู้เฒ่าผู้แก่ใส่ เค้าก็บอกเราตื่นตูม ในข่าวไม่เห็นคนใหญ่คนโตคนไหนเค้าใส่กัน
ก็เลยอยากจะชวนทุกคนให้ใส่หน้ากากในชีวิตประจำวันหรือใส่ขณะที่ออกไปวิ่งกัน
ผมเลยคิดว่าน่าจะมีแคมเปญ #maskrunner 😷
แล้วทำแบบ ice bucket เริ่มจากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปเราใส่หน้ากากแล้ว ก็อปข้อความนี้แล้ว tag ต่อไปอีก 3 คน
ก็อาจจะช่วยให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงอันตรายได้ด้วยพลังของนักวิ่งอย่างพวกเรา 
เพราะถ้าจะมัวรอให้รัฐมารณรงค์ให้คนใส่ใจ ก็อาจจะช้าจนเกิดความสูญเสียร้ายแรง ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร ยังไงเราก็ต้องดำรงชีวิตกันต่อไประหว่างหาทางแก้
หรือใครมีวิธีไหนที่จะกระตุ้นให้คนใส่ใจมากขึ้นลองมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ 😃
โค้ชเป้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น