ss-เขียนเอง

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

9 สัญญาณอันตรายเตือนให้ "พัก" ดีกว่า

ช่วงหลังๆมีข่าวการเสียชีวิตจากการออกกำลังกายอย่างหักโหมจนเกินไปบ่อยๆ ทั้งอาการหัวใจวายระหว่างงานวิ่ง (http://goo.gl/n1G8vk) หรือ การ Work-hard Play-hard เกินไป (http://goo.gl/3AQJR3

เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าการออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง ยิ่งออกเป็นประจำทุกๆวันคงไม่เป็นไร อาการเหนื่อยล้า เดี๋ยวเดียวก็หาย แต่แท้ที่จริงแล้วการพักผ่อนสำคัญมากๆ น่ะครับ ไม่ใช่แค่นอนไม่พอ แต่วันๆ หนึ่งเราเจอเรื่องเครียดกันมากมาย ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน ยิ่งบางคนอดนอน แต่ยังฝืนตื่นมาวิ่งตามตารางที่กำหนด ร่างกายกลับไปไม่ไหว ต้องล้มป่วยกันไปก็มีเยอะน่ะครับ

สัญญาณต่อไปนี้ ร่างกายเราแสดงออกมาให้รู้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ถ้าเพื่อนๆ พบสัญญาณดังกล่าว ลองสังเกตตัวเองดูดีๆนะครับ…วันนี้อาจเป็นวันชิวๆ พักผ่อน พักฟื้นจากความเหนื่อยล้าของเรา มากกว่าจะฝืนออกไปวิ่งโดยร่างกายไม่พร้อมนะครับ

>>1 น้ำหนักลดลงกะทันหัน<<
ถ้าเพื่อนๆมีน้ำหนักลดลงมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ จากเมื่อวาน เป็นสัญญาณบอกถึงความผันผวนของระดับของเหลวในร่างกายเราล่ะครับ อาจจะเป็นไปได้ว่าเพื่อนๆอาจจะดื่มน้ำไม่เพียงพอจากการออกกำลังกายเมื่อวาน ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะ Dehydration ถ้าเพื่อนๆออกไปวิ่งในวันนี้ได้ครับ 🙂

>>2 หัวใจเต้นแรงขึ้น<<
ถ้าเป็นไปได้เพื่อนๆลองสำรวจดูว่าอัตราการเต้นของหัวใจในยาม “พักผ่อน” (Resting Heart Rate) ของเราเป็นเท่าไหร่ครับ อาจลองวัดในช่วงเช้าก่อนลุกจากเตียงดูก็ได้ครับ ถ้าวันไหนที่เราจะออกไปวิ่ง หากเรารู้สึกว่าหัวใจเราเต้นเร็วเกินไป ลองวัดอัตราการเต้นเทียบกับ Resting Heart Rate ของเราดู อัตราการเต้นที่สูงเกินอาจจะเกิดจากความเครียดก็ได้ครับ ความเครียดนี้เป็นได้ทั้งความเครียดของร่างกาย (ร่างกายถูกใช้งานหนักเกิน) หรือ ความเครียดจากจิตใจ (Physical & Psychological Stress) นะครับ ทั้งคู่ส่งผลให้หัวใจเราพยายามสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและสมองเพื่อให้ได้รับ Oxygen มากขึ้นครับ ลองสำรวจดูว่าวันนี้เราพร้อมออกไปวิ่งหรือเปล่า หรือร่างกายเราอ่อนล้าเกินและควรพักผ่อนนะครับ 🙂

>>3 นอนไม่พอ<<
การนอนหลับที่ดี เพียงพอ และอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายเราผลิต Growth Hormone มาซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอที่ถูกใช้งานหนักได้ครับ หากเพื่อนๆ พบว่าตัวเองนอนไม่พอหลายๆ วันติดต่อกัน นอกจาก Growth Hormone ทำงานได้ไม่เต็มที่ ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกัน การรับรู้ต่างๆ แย่ลง ยิ่งเพื่อนๆ โหมร่างกายออกไปวิ่ง แทนที่การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง อาจจะทำให้ทรุดได้ครับ ทำงานหนักยังไง ก็ต้องพักผ่อนนะคร้าบบบบ

>>4 อาการขาดน้ำ<<
สังเกตได้ง่ายๆครับ ถ้าปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม (นอกจากเพื่อนๆจะไปรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อสีของปัสสาวะ) อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายเราขาดน้ำได้ครับ ยิ่งสีปัสสาวะเข้มขึ้นมากเท่าไหร่ยิ่งอันตรายนะครับ เพราะนั่นแปลว่าร่างกายเราต้องการน้ำ (และการพักผ่อน) นะครับ

>>5 พลังงานหมด<<
หลักการที่สำคัญคือ “ซื่อสัตย์กับตัวเอง” ครับ ไม่ไหวก็คือไม่ไหว…เพื่อนๆ หลายๆ คนคิดว่าถ้าผ่านไปได้ ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น เหมือน level up ไปอีกระดับหนึ่ง เวลาในชีวิตยังมีอีกมากครับ ไว้พักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมร่างกายให้พร้อมแล้วมาลองกันใหม่ ดีกว่าเก็บซ่อนหรือข่มอาการล้าไว้แล้วเกิดอันตรายระหว่างวิ่งได้ครับ

>>6 รู้สึกแปลกๆ<<
ความรู้สึกเราสำคัญ…อย่ามองข้ามนะครับ หากร่างกายเราใช้งานหนักเกินไป ไม่ว่าจากการออกกำลังกายหรืออ่อนล้าจากหน้าที่การงาน ร่างกายจะปลดปล่อยฮอร์โมนเช่น Cortisol ซิ่งทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ตื่นเต้น ได้ครับ เราควรจะหันมาดูว่าจริงๆความรู้สึกแปลกๆ หงุดหงิดๆ เกิดจากการอ่อนล้าของเราหรือเปล่า

>>7 ป่วย<<
หากเพื่อนๆกำลังป่วย หรือหากเพื่อนๆ นักวิ่งผู้หญิงกำลังอยู่ในช่วงนั้นของเดือน จำไว้ว่าขณะนั้นทรัพยากรในร่างกายเรากำลังร่อยหรอนะคร้าบบบ และเราต้องการพลังงานเป็นพิเศษล่ะครับ ถ้าเตรียมร่างกายไม่พร้อม ไม่แข็งแรงพอ อาจเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆไปก่อนนะครับ

>>8 อาการบาดเจ็บ<<
ประโยคที่ว่า “เจ็บอย่าฝืน” ยังใช้ได้เสมอครับ ถ้าเพื่อนๆ มีอาการบาดเจ็บอยู่ ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานหนัก หรือการออกกำลังกายหนักเกินไป จำไว้ว่าร่างกายเราต้องการการพักผ่อน และฟื้นฟู ไม่ว่าจะใช้ยาหรือไม่ก็ตาม ต่างก็ต้องการเวลาพักฟื้นนะครับ

>>9 ผลงานตก<<
Performance เราเป็นตัววัดที่ดีอย่างหนึ่งที่ใช้วัดว่าเราอาจต้องการพักผ่อนมากกว่าฝึกฝนนะครับ หากเพื่อนๆ พบว่า Performance ในการออกกำลังกายตกต่อเนื่องกันหลายๆ วัน อาจไม่ใช่ว่าเราซ้อมไม่พอ ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองไม่ได้นะครับ แต่อาจเป็นสัญญาณได้ว่าร่างกายเรากำลังอ่อนแอ และเราต้องการการพักผ่อนนะครับ 🙂

ทราบสัญญาณต่างๆแล้ว ก็อยู่ที่เราล่ะครับว่าจะตัดสินใจพัก หรือ ลงไปวิ่งต่อ อย่าหลอกตัวเอง รับรู้และยอมรับ เชื่อว่าเพื่อนๆ จะสนุกกับการวิ่งได้แน่นอนครับ

แปลและเรียบเรียงโดย ทีมงานวิ่งไหนดี

ที่มา: Jayme Moye, 10 Signs That You Need, Runner’s World, 2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น